พอได้เปิดเกมรุก ไอ้เราก็ชอบคุมเกมเองซะด้วย เลยซัดเต็มข้อหวังโชว์สมรรถนะเต็มที่ ตอนแรกเจ้าน้องชายก็ยังผงาดอยู่ดีๆ แต่พอพาเธอเลี้ยวเปลี่ยนท่าก็เกิดไม่สู้ขึ้นมาเหมือนหมดหน้าที่ตรงนี้ เสียอารมณ์แล้ว ยังไม่แย่เท่าเสียหน้า ทำไมกันนะ ทั้งที่ยังอายุน้อยแต่กลับเจอปัญหาแข็งบ้างไม่แข็งบ้าง แถมอ่อนยวบไม่ดูเวลาแบบนี้ มันเกิดจากอะไร แล้วเราจัดการกันมันได้ยังไงบ้าง?
แม้จะเห็นกันมาตั้งแต่เกิด ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้อวัยวะเพศอ่อนตัว หรือมันเกิดอะไรขึ้นข้างในท่อนแข็งนั้นบ้าง งั้นเรามาเริ่มที่ทำความเข้าใจกันก่อนว่าน้องชายนั้นแข็งตัวได้ยังไง
กลไกในการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายเนี่ย เริ่มจากมีสิ่งเร้าเกิดขึ้นก่อน อาจเป็นการเห็น การสัมผัส แต่ใครที่ไฟแรงหน่อย แค่นึกถึงเฉี่ยวๆ ก็เสียวจนตัวงอได้ สิ่งเร้าเหล่านั้นจะมากระตุ้นสมองให้ส่งสัญญาณผ่านทางไขสันหลังบริเวณก้นกบ พอมีคนส่งซิกมาแล้ว ร่างกายจะรู้แล้วว่าเส้นเลือดต้องพองตัว เพื่อส่งเลือดไปอัดแน่นกันอยู่ที่น้องชายให้ขยายใหญ่ขึ้น แล้วทีนี้เมื่อเส้นเลือดด้านในของน้องชายซึ่งมีหน้าตาเหมือนฟองน้ำขยายหนักเข้า เส้นเลือดดำที่ควรจะไหลออกได้ ก็ต้องจอดนิ่งอยู่ในนั้นก่อนหรือไหลออกได้น้อยมาก ทีนี้แหละ น้องชายถึงจะผงาดง้ำเต็มที่
หากอธิบายแบบนั้นแล้วยังไม่เห็นภาพ สมอง เส้นเลือดอะไรกัน งงไปหมดแล้ว ถ้างั้นลองมาฟังคำอธิบายง่ายๆ กัน ให้ทุกคนนึกภาพว่า ภายในร่างกายทุกส่วนของเราทำงานกันเป็นทีมสุดๆ ตั้งแต่เห็นสิ่งเร้าเข้าตา สมองจึงสั่งการเลยว่าเสียวแบบนี้ใครล่ะจะทนไหว ไอ้น้องชายลุกมาทำหน้าที่ด่วน ส่งสัญญาณผ่านสันหลังให้ขยายหลอดเลือดฟองน้ำที่อวัยวะเพศ จนอุดทางเดินเส้นเลือดดำ เลือดเลยแน่นขนัดอยู่ในนั้นไปไหนไม่ได้ และกลายเป็นแท่งแข็งกลางร่างกายนั่นเอง
ทีนี้พออวัยวะเพศแข็งแบบใช้งานได้เต็มข้อ อยู่กับเราตลอดจนถึงฝั่งฝัน มันก็ต้องอาศัยการทำงานทุกส่วนร่วมกันไปตลอด หากขาดส่วนไหนไปก็อาจทำให้ความแข็งลดลง จากแข็งไม่เต็มที่ก็อาจกลายเป็นอ่อนยวบไปเลยก็ได้
หลายคนแค่เห็นว่าแก่นกายตื่นตัวเต็มที่ ก็เข้าใจว่าสิ่งนี้ยังใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาอะไร สอดใส่เข้าไปได้ก็โอเคแล้วนี่นา จนมองข้ามปัญหาอื่นๆ ในระหว่างร่วมรักไป อย่างอาการอ่อนตัวลง การแข็งตัวไม่เต็มที่ หรือหยัดยืนได้ไม่นานมากพอ ถ้าถามว่ายังใช้งานได้จริงไหม มันก็จริง แต่อาการที่ว่ามานั้นก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้หนุ่มๆ โชว์สมรรถนะไม่เต็มที่ใช่ไหมล่ะ แถมอาการเหล่านี้ยังเป็นสัญญาณของโรคบางอย่างด้วยนี่สิ
อาการแข็งตัวไม่เต็มที่ของอวัยวะเพศชาย จนเกิดปัญหาในระหว่างมีเซ็กซ์หรือในชีวิตประจำวัน เราเรียกสิ่งนี้ว่า การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) ซึ่งมีด้วยกันหลายระดับ ตั้งแต่
- ระดับ 1 น้องชายขยายใหญ่ขึ้น แต่ไม่แข็ง ฟีลพองขึ้นเหมือนจะใช้ได้แล้วล่ะ แต่นุ่มนิ่มเชียว อันนี้ถือว่าอยู่ในรุนแรงระดับสูงสุด
- ระดับ 2 อวัยวะเพศขยายใหญ่ และแข็งขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังไม่พอที่จะสอดใส่เข้าไปได้ เหมือนจะสู้ไหว ทว่าลงสนามจริงแล้วก็หดกลับไป อันนี้รุนแรงระดับปานกลาง
- ระดับ 3 น้องชายแข็งเกือบเต็มที่ แต่ก็ยังไม่เต็มข้อ ขาดเหลืออีกนิดหน่อย แต่ก็พอสอดใส่ลงสนามจริงได้ไม่อายใคร อันนี้รุงแรงระดับเริ่มต้น
- ระดับ 4 ไม่มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แข็งกว่าพี่ก็มีแต่ไวเบรเนี่ยมแล้วครับ
หนุ่มๆ คงเคยได้ยินอะไรเหล่านี้มาบ้าง แต่เห็นว่าตัวเองยังอยู่ในวัยฮอร์โมนว้าวุ่นขนาดนี้ เคารพธงชาติอยู่ทุกวัน จะเอาอะไรมาเกิดขึ้นกับเราได้ล่ะ แต่จริงๆ แล้วมีผลสำรวหนุ่มๆ ในประเทศไทย จากโรงพยาบาลกรุงเทพ พบว่า 43% ของชายไทยมีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งเป็นกันตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนร่วมรักไม่ได้ และยังไม่ได้เกิดแค่กับคนอายุเยอะเท่านั้น เพราะในวัยที่ต่ำกว่า 40 ปี ก็พบปัญหานี้ได้ 5-10% เลยล่ะ
ดูเหมือนว่าอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย ผิดจากที่เคยเข้าใจว่านกเขาไม่ขันเป็นเรื่องของคนมีอายุเสียอีก แม้ว่าอายุจะมีผลจริงๆ พอฮอร์โมนเพศชายน้อยลงไปตามวัย เพราะไม่มีอะไรไปกระตุ้นได้โดนเส้นเท่าแต่ก่อน มันก็อ่อนๆ ยวบๆ ไม่สู้แบบนี้แหละ แต่มองย้อนกลับมาวัยหนุ่มที่ฮอร์โมนยังพลุ่งพล่าน ทำไมถึงยังเกิดอาการไม่สู้ดีแบบนี้ได้ล่ะ? งั้นเรามาดูสาเหตุของเรื่องนี้กัน
จากข้อมูลหลายแห่ง พบว่า อาการเหล่านี้เกิดจากหลายสาเหตุมากๆ แต่ถ้าเอาสาเหตุเหล่านั้นมาจัดกลุ่ม จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ด้วยกัน ดังนี้
- ปัจจัยทางร่างกาย
อาจเกิดได้จากทั้งร่างกายของเราเอง เช่น การเซฟข้อมูลลงข้อมือจนชิน เจอของจริงกลับสู้ไม่ไหว ฮอร์โมนเพศชายที่ถดถอยไปตามอายุ โรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดัน การผ่าตัดบริเวณเชิงกราน การฉายรังสี เคมีบำบัด ไปจนถึงพฤติกรรมที่ในชีวิตประจำวัน เช่น สูบบุหรี่ หรือไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ โดยข้อมูลจากโรงพยาบาลพญาไท พบว่า คนที่สูบบุหรี่มีโอกาสเกิดภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัวมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 24% และคนที่ออกกำลังกายน้อยไปจนถึงไม่ออกเลย สเปิร์มจะมีความเข้มข้นต่ำกว่าคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำถึง 43% เลยล่ะ - ปัจจัยทางจิตใจ
อาจเกิดจากความอ่อนล้า ความเครียด หรือความกังวลจากการใช้ชีวิต ไปจนถึงภาวะซึมเศร้า หรือจากการใช้ยาที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ยาระงับประสาท ยาต้านการซึมเศร้า ยาลดความดันโลหิตบางชนิด
เดิมทีปัญหาเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องของใจที่ไม่สู้มากพอ จนน้องชายเกิดไม่สู้ตาม ตื่นสนาม ประหม่า เครียด กังวล อะไรทำนองนั้น แต่ในปัจจุบันกลับพบว่า อาการส่วนใหญ่นั้นเกิดจากร่างกายและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราเองต่างหาก แม้คนที่อวัยวะเพศอ่อนยวบจากปัญหาทางสภาพจิตใจก็ยังมี แต่ถ้าเทียบสัดส่วนกันแล้ว ปัญหาทางร่างกายยังทิ้งไกลไม่เห็นฝุ่น
ปลุกความแข็งแรงกลับมาทางไหนได้บ้าง?
หากถามว่าจะเลือกรักษาปัญหาเรื่องอวัยวะเพศไม่แข็งตัวทางไหน ก็ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการที่มี หากเป็นมากจนไม่สามารถมีเซ็กซ์ได้ตามปกติ ก็ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากเป็นมากหน่อย ทางออกของเรื่องนี้มีหลายรูปแบบมาก ทั้งการผ่าตัด กินยา ฉีดยาเข้าไปยังอวัยวะเพศโดยตรง หรือ Shock Wave ใช้คลื่นเสียงกระตุ้น แพทย์ก็จะประเมินระดับอาการ และความพร้อมของร่างกายว่าต้องรักษาทางไหน
ทว่าถ้าอยู่ในระดับที่สร้างความรำคาญใจ ไม่ถึงกับร่วมรักไม่ได้ แต่ก็ไม่ผงาดง้ำค้ำโลกอย่างเคย เราสามารถกลับมาแก้ที่ตัวเองได้ก่อนเลย นั่นคือการย้อนกลับไปที่สาเหตุของเรื่องนี้ หนึ่งในนั้นคือพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่นการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ ที่มีผลทำให้ฮอร์โมนเพศชายถดถอยลง จนความฟิตหดหายไปแม้จะยังไม่ถึงวัยโรยราก็ตาม
หากรู้ตัวว่าเรามีพฤติกรรมเหล่านี้ อาจจะต้องเพลาๆ ลงบ้าง นึกถึงตอนเมามาย แอลกอฮอล์มันกระตุ้นความเง่นให้พลุ่งพล่าน แต่ร่างกายกลับไม่ได้ตอบสนองแบบนั้นทุกครั้งไป พอเมาถึงจุดเลยป้าย กว่าจะปั้นให้แท่งนั้นแข็งขึ้นมาได้ก็เล่นเอาเกือบหมดเวลา ทำไปทำมาก็เหมือนว่าฝั่งฝันจะไกลออกไปทุกที จนกลายเป็นไม่เสร็จสมไปในครั้งนั้น หากร่างกายต้องเผชิญในภาวะนั้นอยู่บ่อยๆ จึงไม่แปลกที่ฮอร์โมนจะถดถอยแม้ในยามสร่าง ดังนั้น คงถึงเวลาที่ต้องเลือกเอาว่า เราอยากให้น้ำหนักกับสิ่งไหนมากกว่ากัน
รวมไปถึงการออกกำลังกายที่จะช่วยให้ฮอร์โมนเพศชายกลับมาสมดุล นอกจากจะช่วยให้เครื่องฟิตอยู่ทน อยู่นานแล้ว การออกกำลังกายยังทำให้สุขภาพโดยรวมของเราแข็งแรงไปด้วย
สำหรับใครที่รู้ตัวว่ายังไม่เกิดปัญหา แต่ก็ไม่อยากให้มันมาถึงตัวอยู่ดี ก็อย่าลืมพยายามรักษาสมดุลฮอร์โมนเพศชายเอาไว้ ด้วยการรักษาสุขภาพโดยรวมของร่างกายไปด้วย
เพราะการรักษาในตอนที่เกิดอาการระดับรุนแรงพอสมควรแล้ว เราอาจจะต้องเสียทั้งเงินและเวลาไปมากกว่าการดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ก็ได้
อ้างอิงจาก