เปิดกล่องบอร์ดเกมขึ้นมา หวังเล่นจอยๆ กับเพื่อน แต่ผ่านไปสักพัก เสียงก็เริ่มดัง อารมณ์หงุดหงิดเริ่มมา บางคนก็เท้าเอววีนสนั่น สงสัยปะทะกันในเกมไม่พอ เลยออกมาปะทะกันต่อนอกเกม
แทนที่จะได้กระชับมิตร สงสัยจะได้กะชกมิตรแทนซะแล้ว ใครว่าการเล่นบอร์ดเกมเป็นแค่เรื่องเล่นๆ เอาสนุกกับเพื่อนได้ ยิ่งหลังจากได้ดูเรียลลิตี้ The Devil’s Plan ซีซั่นล่าสุด ซึ่งได้รวบรวมเหล่าผู้เข้าแข่งขันที่ทั้งมีความเฉลียวฉลาดและไหวพริบ จากหลากหลายอาชีพมาร่วมเล่นเกม โดยในรายการเราจะเห็นเลยว่า แค่การเล่นเกมนี้แหละ สามารถทำให้เราเดือดดาลได้จริงๆ เพราะนอกจากจะกติกาที่อาจทำให้ใครสักคนโดนคัดออกหลังเล่นเกมแล้ว ในซีซั่นนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่า Death Room ซึ่งเป็นคุก สำหรับคัดคนที่ได้คะแนนน้อยจากเกมออกอีกรอบหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ก็คงไม่มีใครอยากแพ้ แล้วมาอยู่รอคัดออกในห้องนี้แน่นอน
ไม่ใช่แค่การแข่งขันแบบเอาจริงเอาจังและมีเงินรางวัลรออยู่แบบ The Devil’s Plan เท่านั้น ทว่าในชีวิตจริง แค่บอร์ดเกมธรรมดา เล่นกันกะเอาสนุกกับเพื่อนนี่แหละ ก็สามารถทำให้มีปากมีเสียงกันได้แล้ว แม้จะไม่ได้มีรางวัลพิเศษอะไรเลยก็ตาม แล้วทำไมกันนะ การเล่นบอร์ดเกมจึงนำไปสู่การทะเลาะกันได้
เมื่อแรงขับเคลื่อนแห่งชัยชนะปะทะกับอารมณ์ที่อ่อนไหว
ถ้ากีฬาคือการแข่งขัน การเล่นบอร์ดเกมก็คงไม่ต่างกัน เพราะผู้ชนะจะมีได้เพียงแค่หนึ่งเดียว
คงไม่ผิดนัก หากจะมองว่าบอร์ดเกมเป็นเกมการแข่งขันรูปแบบหนึ่ง แม้หลายบอร์ดเกมจะมีกติกาและวิธีการเล่นที่แตกต่างกันไป ทว่าโดยส่วนใหญ่แล้ว หลายเกมถูกออกแบบมาให้เล่นด้วยกันได้หลายคน ไม่เพียงแค่เป็นข้อบังคับให้เกมดำเนินต่อไปได้เท่านั้น ยังเพื่อสร้างความสนุกสนานและกระชับมิตรกับคนรอบข้างด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อขึ้นชื่อว่าเกมการแข่งขัน มันก็ย่อมเปิดสวิตช์เลือดนักสู้ของหลายคนออกมา พร้อมเอาชนะทุกคนตรงหน้าให้ได้ ดร.อล็อค ทรีเวดิ (Alok Trivedi) โค้ชด้านจิตวิทยาและผู้ก่อตั้ง The Aligned Performance Institute กล่าวว่า บอร์ดเกมมักเป็นสถานการณ์ที่แบ่งแยกเราออกเป็นหลายฝ่าย ต้องพึ่งพาตนเอง หรือมีการแบ่งทีมแข่งกัน ซึ่งสถานการณ์ลักษณะนี้กระตุ้นให้สมองรับรู้ถึงการแข่งขันโดยอัตโนมัติ ร่างกายเราก็จะเริ่มผลิตอะดรีนาลีนและคอร์ติซอล อันเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวเนื่องกับความตื่นเต้นและความเครียดขึ้นมา เพื่อทำให้เรารู้สึกจริงจังกับการแข่งขันมากขึ้น
พอเราเริ่มรู้สึกจริงจังกับการแข่งขันตรงหน้าแล้ว เราก็จะรู้สึกอยากชนะ แม้คนที่เล่นด้วยกันจะเป็นเพื่อน คนรัก หรือครอบครัว เราก็จะเริ่มไม่ได้มองเป็นแค่การเล่นกันเอาสนุกอีกต่อไป และพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อชัยชนะ โดยไม่ได้คำนึงถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้
นอกจากนี้ ผลของเกมเองก็มีส่วนต่ออารมณ์และความรู้สึกเราขณะที่เล่นด้วยเช่นเดียวกัน งานศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของการแข่งขันต่ออารมณ์ของมนุษย์ จาก The Journal of General Psychology ระบุว่า การแข่งขันไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบกีฬาจริงๆ หรือแค่การละเล่นบอร์ดเกมก็ล้วนส่งผลต่ออารมณ์ของมนุษย์เราโดยตรง
งานศึกษาดังกล่าวได้แบ่งกลุ่มออกเป็นหลายกลุ่ม โดยให้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาด้วยกัน แน่นอนว่าผลการแข่งขันย่อมมีแพ้มีชนะแตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละคนก็แสดงอารมณ์ต่อผลนั้นต่างกันด้วยเช่นกัน ผู้ที่แพ้แบบสูสีก็จะรู้สึกโกรธและไม่พอใจ กลับกันผู้ที่ชนะแบบสูสีก็จะรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจ
จะเห็นได้ว่า ทุกผลแพ้ชนะล้วนส่งผลต่ออารมณ์ของเราทั้งนั้น ยิ่งบางคนมีความอยากเอาชนะสูง ประกอบกับผลการแข่งขัน ซึ่งอาจจะแพ้ ก็ยิ่งทำให้คนๆ นั้นรู้สึกไม่พึงพอใจ โกรธ และหัวร้อน จนอาจนำไปสู่การมีปากมีเสียง จนท้ายสุดอาจจบลงด้วยการทะเลาะกัน
เมื่อเราอินเกินขอบเขต ก็ไม่รู้แล้วว่าอันไหนเกมหรือชีวิตจริง
แน่นอนว่าเมื่อเล่นเกมอะไรสักอย่างไปเรื่อยๆ เราอาจเริ่มรู้สึกอินและผูกพันกับบทบาทหรือตัวละครตรงหน้า ซึ่งรวมไปถึงเวลาเล่นบอร์ดเกมหลายๆ เกมด้วย ถึงแม้บอร์ดเกมจะเป็นเพียงเกมกระดานเล่นกันเอาสนุก ทว่าหากเรารู้สึกมีอารมณ์ร่วมมากๆ ก็อาจกลายเป็นความอินที่มากจนเกินไปได้ด้วยเช่นกัน
ยิ่งหลายคน เวลาอินกับการเล่นบอร์ดเกมมากๆ แล้วขณะเล่นเกมต้องตกเป็นเหยื่อ ถูกเพื่อนหักหลังหรือโดนกลั่นแกล้งบ่อยๆ เข้า ก็อาจรู้สึกหงุดหงิดและไม่พอใจ จนนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งได้
หลายคนที่ไม่ได้เล่นบอร์ดเกมก็อาจสงสัยว่า แค่เล่นเกมเอง เราจำเป็นต้องจริงจังหรืออินกับเกมขนาดนั้นเลยหรอ? คำตอบก็คงต้องบอกว่า ใช่ ดอน วอห์น (Don Vaughn) นักวิจัยหลังปริญญาเอกจาก Semel Institute for Neuroscience and Human Behavior ประจำ UCLA ได้อธิบายเอาไว้ว่า สมองของมนุษย์ไม่เคยมีการพัฒนากลไกสำหรับแยกเกมออกจากความเป็นจริงเลย
แม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่ความจริงหรือเป็นเพียงจินตนาการ
ก็สามารถกระตุ้นการตอบสนองทางอารมณ์ได้ไม่ต่างจากของจริง
ดอนได้นำเสนอเพิ่มเติมว่า หากเราสามารถดูภายในสมองขณะที่เราเล่นบอร์ดเกม แล้วกำลังจะแพ้ในอีกไม่ช้า จะเห็นได้เลยว่า เซลล์ประสาทโดปามีน ซึ่งเป็นเซลล์ประสาทที่ทำให้เรารู้สึกได้รับรางวัล หลังการทำกิจกรรมต่างๆ แทบจะหยุดทำงานลงไปเลย โดยนี่ถือเป็นสัญญาณสำคัญสำหรับบ่งชี้ถึงอารมณ์เชิงลบที่จะเกิดขึ้นตามมานั่นเอง
เพราะฉะนั้นแล้ว หลายครั้งเวลาเราเล่นบอร์ดเกม เราไม่เพียงแค่นำตัวเราเข้ามานั่งเล่นเท่านั้น ทว่ายังนำความรู้สึกและอารมณ์ใส่เข้าไปเล่นในเกมด้วย เมื่อเราต้องเสียเงินในเกม เราก็รู้สึกเหมือนเสียเงินในชีวิตจริง เวลาโดนหักหลังในเกม ก็เลยรู้สึกราวกับเราซึ่งเป็นผู้เล่นโดนหักหลังเองจริงๆ ในทางกลับกัน เมื่อถึงเวลาที่เราสามารถคว้าชัยชนะมาครอบครองได้ เราก็จะรู้สึกเหมือนเราได้รับรางวัลในชีวิตจริงนั่นเอง
มาถึงตรงนี้ หลายคนก็อาจคิดว่า บอร์ดเกมคือชนวนของการทะเลาะกันหรือเปล่า? ทว่าแท้จริงแล้ว กลับเป็นตัวผู้เล่นต่างหากที่บางครั้งก็อินกับเกมมากเกินไป ถ้าเราสามารถตั้งสติให้ดีก่อนเล่นได้ บอร์ดเกมก็จะกลายเป็นทั้งความบันเทิง และตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนรอบข้างได้ เพราะนอกจากจะได้ความสนุกสนาน หลายเกมยังช่วยให้เราได้ฝึกคิด วิเคราะห์ และเข้าใจกันมากขึ้นอีกด้วย
ถ้าวันหยุดนี้ ยังไม่มีกิจกรรมอะไรทำกับเพื่อน แฟน หรือครอบครัวล่ะก็ ลองหาบอร์ดเกมสนุกๆ มาเล่นด้วยกัน ก็เป็นไอเดียที่ดีนะ
อ้างอิงจาก