ทุก 1 ชั่วโมงในกาซา จะมีผู้เสียชีวิต 15 คน—เป็นเด็ก 6 คน มีผู้บาดเจ็บ 35 คน ถูกทิ้งระเบิด 42 ลูก และอาคาร 12 หลังถูกทําลาย
ตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา สงครามทำลายล้างของอิสราเอลในฉนวนกาซา ชาวปาเลสไตน์เกือบ 42,000 คนเสียชีวิต มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิงและเด็ก ขณะที่ตัวประกันเกือบ 100 คน ยังอยู่ในฉนวนกาซา ซึ่งในจำนวนนี้มีคนไทยมากถึง 6 คน
สงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซา ถือเป็นหนึ่งในสงครามที่เลวร้ายที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน นับตั้งแต่ 7 ตุลาคม 2023 ที่ฮามาส กลุ่มติดอาวุธจากกาซา เปิดฉากโจมตีทั้งทางอากาศ บก และทะเลของอิสราเอล
ตามรายงานของเจ้าหน้าที่อิสราเอล (Israeli officials) ในวันนั้นมีผู้เสียชีวิต 1,139 คน และประมาณ 250 คนถูกจับเป็นตัวประกัน ที่ไม่ได้แค่ชาวอิสราเอล แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติ เช่น คนไทย 41 คน ที่เสียชีวิตจากการรุกรานครั้งนี้ และขณะนี้ยังถูกจับเป็นตัวประกัน 6 คน
อย่างไรก็ตาม หลังการเปิดฉากโจมตีของกลุ่มฮามาสไม่นาน อิสราเอลตอบโต้ฮามาสและฉนวนกาซาทันที พร้อมกับออกคำสั่งให้ชาวปาเลสไตน์อพยพไปทางใต้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี
ตลอด 366 วันที่ผ่านมา ประชากร 2.3 ล้านคน หรือ ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ในฉนวนกาซา กลายเป็นผู้พลัดถิ่น ทำให้ผู้คนจำเป็นต้องเบียดเสียดกันในศูนย์พักพิง โดยไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา หรือห้องน้ำ
เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่กลายเป็นซากปรักหักพัง จนรัฐบาลและกลุ่มสิทธิหลายแห่งเรียกสิ่งนี้ว่า ‘การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวปาเลสไตน์’
The MATTER จึงรวบรวมตัวเลขความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ หรือสูญหาย ที่เกิดขึ้นจากสงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
ปาเลสไตน์
1. ฉนวนกาซา (Gaza strip)
เสียชีวิต: อย่างน้อย 42,612 คน
แบ่งเป็นเด็ก 16,765 คน และผู้หญิง 11,346 คน
บาดเจ็บ: อย่างน้อย 97,166 คน
สูญหาย: มากกว่า 10,000 คน
2. เวสต์แบงก์ (Westbank)
เสียชีวิต: อย่างน้อย 742 คน เป็นเด็กมากกว่า 163 คน
บาดเจ็บ: มากกว่า 6,250 คน
อิสราเอล
เสียชีวิต: 1,139 คน มีคนไทย 41 คน
บาดเจ็บ: อย่างน้อย 8,730 คน
ตัวประกัน: ไม่เกิน 100 คน มีคนไทย 6 คน
ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย กินเวลามาหลายสิบปี แต่การตอบโต้กันเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปีที่แล้ว ถือเป็นครั้งที่รุนแรงและยืดเยื้อมากที่สุดและยังขยายวงกว้างไปยังประเทศรอบข้าง อาทิ เลบานอน อิหร่าน ส่งผลให้หลายคนเกรงกลัวว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะนำไปสู่ ‘สงครามเต็มรูปแบบในตะวันออกกลาง‘
อ้างอิงจาก