จำได้ไหมว่าคุณเริ่มใช้เฟซบุ๊กครั้งแรกเมื่อไหร่? โห.. 7-8 ปีที่แล้วมั้งนะ แต่ที่แน่ๆ คืออยู่คู่บ้านคู่มือ(ถือ) มาจนรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว
พอวันก่อนที่ มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ออกมาบอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบน News Feed สถานที่อันอบอุ่นและคุ้นเคย ก็เลยชวนให้นึกย้อนกลับไปว่า ตั้งแต่เล่นเฟซบุ๊กมา เอ้อ หน้าตามันก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ เลยอยากชวนไปย้อนทบทวนว่า ตลอด (เกือบ) 14 ปีที่ผ่านมา เฟซบุ๊กมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ ที่เห็นกันชัดๆ ยังไงบ้าง
2004
หลายคนอาจจะเคยดูหนังเรื่อง The Social Network แล้ว นั่นแหละจุดกำเนิดและประวัติชีวิตของเฟซบุ๊ก ถึง มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก จะบอกว่าหนังมีบางส่วนที่ไม่ได้ตรงกับรายละเอียดชีวิตของเขาเท่าไหร่ แต่เนื้อเรื่องรวมๆ ก็คือใช่ มันเริ่มจากการเป็นโซเชียลมีเดียของเด็กฮาร์วาร์ด ก่อนจะป๊อปปูลาร์จนมีผู้ใช้เกินล้านคนภายในปีเดียว
2005
จากเดิมที่มีแค่ตัวหนังสือ ปีต่อมาก็เริ่มมีฟังก์ชั่น Facebook Photos ให้โพสต์รูปโชว์เพื่อนได้ และก็ให้แทกเพื่อนในรูปได้ แต่ยังคงใช้ได้เฉพาะแค่คนที่เป็นนักเรียนเท่านั้นนะ
2006
ถัดมาอีกปีก็เริ่มมี news feed คอยอัพเดทความเคลื่อนไหวของเพื่อนให้เราเห็น แล้วก็เป็นปีที่เริ่มเปิดให้บุคคลทั่วไปสมัครเป็นผู้ใช้ได้แล้ว รวมถึงว่ามีฟีเจอร์ Facebook Notes ให้เป็นเหมือนบล็อกสำหรับใครที่อยากเขียนอะไรยาวๆ ได้
2007
ปีนั้นมีการเปิด Facebook Platform เริ่มให้ third-party สร้างแอพฯ ที่ลิงก์หรือใช้ข้อมูลจากเฟซบุ๊กได้ (ผู้ใช้ก็มีหน้าที่ กด next กด approve ไปตามระบบ) แล้วก็เป็นปีที่เฟซบุ๊กเริ่มวางหมากหาเงิน คือเริ่มใช้ Beacon ในการติดตามพฤติกรรมผู้ใช้จากเว็บอื่นเพื่อเลือกกลุ่มที่เหมาะสำหรับการโฆษณา รวมถึงเริ่มมี Facebook Pages ให้เปิดใช้กัน นอกจากนั้น ก็เฟซบุ๊กฉบับมือถือ (m.facebook.com) ก็มีระบบรองรับอย่างเป็นทางการ อ้อ แล้วก็เอาคำว่า ‘is’ ออกจากสเตตัส ทำให้คนโพสต์สามารถสร้างสรรค์สเตตัสได้กว้างขึ้น (คือเมื่อก่อนจะเป็น The MATTER is..)
2008
ในปีนั้น Facebook Chat ก็มาจ้า พอออกมาแล้วแย่งลูกค้าจาก MSN Messenger ได้เยอะเลยนะตอนนั้นน่ะ แล้วก็มีการปรับลุคใหม่นิดหน่อย โดยมีแทบ (tab) ต่างๆ ด้านบนให้กดเลือก (Wall / Info / Photos / Boxes อะไรอย่างงี้ พอคุ้นๆ กันมั้ย?)
2009
ปลายปี 2008 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านคน และในปี 2009 ก็พุ่งปรี๊ดมาถึง 350 ล้านคน ในปีนั้น เริ่มมีปุ่ม ‘like’ ให้กด และเริ่มแทกเพื่อนในสเตตัสและคอมเมนต์ได้
2010
ในปีนั้น เฟซบุ๊กมีการปรับโฉมใหม่อีกรอบ ครั้งนี้ย้ายจากแทบ (tab) ไปเป็นเมนูด้ายซ้าย และให้ผู้ใช้พรีเซนต์ตัวเองให้มากขึ้น เน้นการแสดงข้อมูลส่วนตัว รูปถ่าย และความสัมพันธ์ (นั่นแน๊ แอบเก็บข้อมูลใช่ไหมล่ะ) ปีนั้นมีผู้ใช้ครบ 500 ล้านคน เริ่มมีประเด็นถกเรื่องความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) มาเกี่ยวข้อง มี Community Pages เพื่อแบ่งปันความรู้ และเปิดให้ผู้ใช้ไลก์คอมเมนต์ได้
2011
เป็นปีที่หนังเรื่อง The Social Network คว้ารางวัลจากเวที Golden Globes ถึง 4 รางวัล เริ่มใช้ Facebook Messenger ได้ใน Android กับ Blackberry และมีการเพิ่มจำนวนตัวอักษรในสเตตัส จาก 500 เป็น 5,000 และขยายไปถึง 63,206 ตัว (จำนวนตัวอักษรประหลาดๆ นี้มาจากวิศวกรของเฟซบุ๊กชื่อ Bob Baldwin และสูตรของเขา “Facebook … Face Boo K … hex(FACE) – K … 64206 – 1000 = 63206”) รวมถึงเปิดให้ตามส่องคนที่ไม่ได้เป็นเพื่อนกับเราได้ ด้วยการ Subscribe
2012
อินสตาแกรมเริ่มเข้ามาแย่งซีนเรื่องการโพสต์รูป เฟซบุ๊กก็เลยซื้ออินสตาแกรมซะเลยในราคาหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ และในปีนี้ ยอดผู้ใช้เฟซบุ๊กก็พุ่งไปถึงหนึ่งพันล้านคนด้วย
2013
เฟซบุ๊กร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายอีก 6 บริษัท เปิด Internet.org โดยบอกว่าจะทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงทุกคนบนโลก (แน่ล่ะว่าเข้าถึงเฟซบุ๊กด้วย) เริ่มมีการโฆษณา (ตอนนั้นเรียกว่า Featured Posts) ใน news feed รวมถึงปรับให้ฟีดมี Video Autoplay สามารถ edit โพสต์กับคอมเมนต์ได้ มีสติ๊กเกอร์ให้ใช้ นอกจากนี้ ปีนั้นเฟซบุ๊กยังออกโปรดักต์ใหม่อย่าง Graph Search ที่เคลมว่าดีกว่า web search อย่างกูเกิ้ล ตรงให้คำตอบที่ตรงกว่า
2014
ฉลองครบรอบ 10 ปีเฟซบุ๊ก ด้วยฟีเจอร์ Look Back ที่ทำวิดีโอย้อนดูชีวิตเฟซบุ๊กของเรา จำได้ว่าตอนนั้นเพื่อนแชร์กันเต็มฟีดเลย ปีนั้นเฟซบุ๊กปล่อยของหลายอย่างเลย เช่นฟังก์ชั่น Save สำหรับเก็บโพสต์แบบไม่ต้อง ‘แปะ’ หรือ มีอ็อปชั่น anonymous login แบบไม่ต้องให้ข้อมูลส่วนตัวก็เข้ามาเล่นได้ นอกจากนี้ ปีนั้นเฟซบุ๊กก็ซื้อ Oculus VR และ WhatsApp ด้วย
2015
มาร์คออกมาประกาศว่าจะกรอง Spam บน News Feed ให้น้อยลง แต่ที่แน่ๆ และเคลมว่าปรับอัลกอริธึมให้เราเห็นสิ่งมากขึ้น (คำนวณจากข้อมูลว่าเราหยุดดูโพสต์แบบไหนนานที่สุด) เริ่มมีฟังก์ชั่น Instant Articles ซึ่งตอนเริ่มต้นก็ร่วมมือกับสื่อต่างๆ อย่าง Buzzfeed, New York Times หรือ National Geographic ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ใช้ทั่วโลกพอสมควร ปีนั้นเฟซบุ๊กยังเริ่มให้โพสต์ GIFs ได้ สำหรับเพจ ปีนั้นเฟซบุ๊กเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ เข้าไปให้พอสมควร อย่างเช่นความบ่อยและเร็วในการตอบเมสเสจ
2016
เริ่มใช้ Facebook Live อย่างเป็นทางการ เริ่มมีปุ่มอื่นๆ ให้กดนอกเหนือไปจากไลก์ (Love, Wow, Sad, Angry) เริ่มมีการใช้บอทใน Messenger มีการปรับอัลกอริธึมของ News Feed อีกครั้ง ด้วยการดึงข้อมูลความสนใจนอกเฟซบุ๊กมาใช้ในการคัดเลือกโพสต์มากขึ้น
2017
ปีนี้เฟซบุ๊กออกมาป้องกันตัวเองจากการถูกใช้เป็นเครื่องมือทำเรื่องผิดๆ ด้วยการออกไกด์บุ๊กระบุว่าโพสต์แบบไหนที่ไม่เหมาะสม ไม่ให้โพสต์! (อ่านสรุปได้ที่ https://www.facebook.com/thematterco/photos/a.1735876059961122.1073741831.1721313428084052/1885282175020509) รวมถึงมีการกรองพวกคลิกเบท หรือ fake news ด้วย
2018
และล่าสุด มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก เพิ่งออกมาประกาศว่า News Feed จะลดการแสดงข้อความจากธุรกิจและสื่อ แต่จะเน้นโพสต์จากครอบครัวและเพื่อนแทน
อ่านที่เคยสรุปไว้ได้ที่นี่เลย https://www.facebook.com/thematterco/photos/a.1735876059961122.1073741831.1721313428084052/1987915288090530
ล่าสุดก็เพิ่งแว่วมาว่า มาร์คอยากทำให้ข่าวที่ปรากฏบนเฟซบุ๊กมีคุณภาพและความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยจะเริ่มมีการ ‘สำรวจ’ ความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าวในสัปดาห์หน้า (https://www.facebook.com/zuck/posts/10104445245963251)
ก็คงต้องรอติดตามกันต่อไปแหละว่า วิธีการสำรวจจะเป็นยังไงและมาร์คจะลุกขึ้นมาประกาศเปลี่ยนอะไรอีกบ้า
อ้างอิงจาก
– http://www.knowyourmobile.com/apps/facebook/21807/history-facebook-all-major-updates-changes-2004-2016
– https://en.wikipedia.org/wiki/Timeline_of_Facebook