ในช่วงระบาดของ COVID-19 ขณะนี้ สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นความหวังในช่วงวิกฤตนี้ คงเป็น ‘วัคซีน’
ที่ตอนนี้ มีการผลิต แจกจ่าย และเริ่มฉีดให้กับประชาชนในบางประเทศแล้ว แม้ว่าวัคซีนแต่ละตัว อาจจะมีผลข้างเคียง หรือประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน แต่ตอนนี้หลายๆ ประเทศต่างก็รอเตรียมพร้อม สำหรับการแจกจ่ายวัคซีนนี้ให้กับประชาชนของตัวเอง พร้อมคำถามสำคัญว่า แต่ละประเทศสั่งจองวัคซีนเพียงพอกับประชาชนแค่ไหน และใครจะเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนนี้ก่อน ?
The MATTER ชวนดูสถานการณ์ของการสั่งจองวัคซีนโควิดในแต่ละประเทศ ว่าคืบหน้าไปถึงไหน จะเริ่มฉีดกันเมื่อไหร่ และมีการกำหนดเกณฑ์ให้ใคร เป็นผู้ได้รับวัคซีนก่อน
สหรัฐ
สหรัฐฯ เป็นประเทศหนึ่งที่เรียกได้ว่าสั่งจองวัคซีนไว้มากที่สุดในโลก โดยตอนนี้ได้สั่งจอง และซื้อไว้แล้วทั้งหมด 900 โด๊ส โดยแบ่งเป็นวัคซีนของ Pfizer & BioNTech 200 ล้านโด๊ส, Moderna 200 ล้านโด๊ส และ AstraZeneca 500 ล้าน ซึ่งไวรัสของทั้ง 3 เจ้านี้ จำเป็นต้องฉีด 2 โด๊ส ต่อประชากร 1 คน ทำให้จำนวนที่สั่งจองในตอนนี้ เพียงพอต่อประชากรมากถึง 450 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 137.2% ของประชากรทั้งหมด (สหรัฐฯ มีประชากร 328.2 ล้านคน)
สำหรับการดำเนินการฉีดวัคซีนนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศว่าเป็นการใช้เงินภาษีของประชาชนในการซื้อ ดังนั้น จึงจะเป็นการฉีดฟรีสำหรับประชากรในประเทศ โดยสหรัฐฯ ได้เริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศแล้ว ซึ่ง CDC หรือ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ได้ระบุว่า มีประชาชนกว่า 1.1 ล้านคน ที่เข้ารับวัคซีนในโด๊สแล้ว (อัพเดทข้อมูลวันที่ 23 ธันวา 63) รวมถึง โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐฯ ด้วย
ด้านการจัดลำดับกลุ่มผู้ที่จะได้รับวัคซีนก่อนนั้น นอกจากกลุ่มอาสาสมัครแล้ว สหรัฐฯ ได้มีการจัดลำดับให้ บุคลากรทางการแพทย์ 21 ล้านคน และคนชรา 3 ล้านคน ในสถานดูแลระยะยาว ถือเป็นประชากรกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีน ตามมาด้วย กลุ่มคนงานในอุตสาหกรรมที่จำเป็นประมาณ 87 ล้านคน โดยแต่ละรัฐจะมีการพิจารณาลำดับความสำคัญของแต่ละอุตสาหกรรมไหน ส่วนคนที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ และผู้ที่อายุต่ำกว่า 64 ปี คาดจะได้รับวัคซีนในช่วงใบไม้ผลิ หรือประมาณเดือนเมษายน ปี 2021
สหราชอาณาจักร
สำหรับเครือสหราชอาณาจักร ที่ได้เป็นที่แรกที่ฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแห่งที่สั่งจอง และซื้อวัคซีนไว้จำนวนมาก จนคาดว่าจะเพียงพอ และเหลือเฟือสำหรับประชากรทั้งหมด โดยได้สั่งจอง และซื้อไปทั้งหมดถึง 355 ล้านโด๊ส โดยแบ่งเป็นวัคซีนของ AstraZeneca 100 ล้านโด๊ส, Novavax 60 ล้านโด๊ส, Sanofi-GSK 60 ล้านโด๊ส, Valneva 60 ล้านโด๊ส Pfizer & BioNTech 40 ล้าน, Johnson & Johnson 30 ล้านโด๊ส และ Moderna 5 ล้านโด๊ส
โดยจำนวนนี้ มีวัคซีนของ Johnson & Johnson ที่ฉีดเพียง 1 โด๊สต่อ 1 คน ขณะที่วัคซีนของบริษัทอื่นใช้ 2 โด๊ส ซึ่งเท่ากับว่าจะเพียงพอต่อประชากรถึง 192.5 ล้านคน หรือคิดเป็น 288.82 % ของประชากร 66.65 ล้านคน โดยสำหรับสัปดาห์แรกในการฉีดวัคซีน รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศว่า มีประชาชน 1.3 แสนคน ที่เข้ารับวัคซีนแล้ว (อัพเดทวันที่ 16 ธันวา 2553) และในปี 2021 จะกระจายวัคซีนไปทั่วประเทศด้วย
สำหรับกลุ่มคนที่จะได้วัคซีนก่อนนั้น คือบุลากรทางการแพทย์ NHS และผู้ป่วยบางส่วน และมีการจัดลำดับก่อนหลังของแต่ละกลุ่มดังนี้
- ผู้อยู่อาศัยในสถานดูแลสำหรับผู้สูงอายุและผู้ดูแล
- ผู้ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไปทุกคน, บุคลากรทางการแพทย์และดูแลสังคมระดับแนวหน้า
- ผู้ที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไปและบุคคลที่มีความเสี่ยงอย่างมากทางคลินิก
- ทุกคนที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
- บุคคลทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีถึง 64 ปีที่มีภาวะสุขภาพพื้นฐานซึ่งทำให้พวกเขามีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคร้ายแรงและการเสียชีวิต
- ทุกคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป
- ทุกคนที่อายุ 55 ปีขึ้นไป
- ทุกคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป
นิวซีแลนด์
นิวซีแลนด์ ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เพิ่งออกมาประกาศว่า จะให้วัคซีนฟรีแก่ประชากรทั้งประเทศ รวมถึงยังเผื่อแผ่ไปถึงประชาชนในหมู่เกาะแปซิฟิกด้วย โดยนิวซีแลนด์ได้สั่งจองวัคซีนทั้งหมด 24.2 ล้านโด๊ส จาก 4 แห่ง แบ่งเป็น Pfizer & BioNTech 1.5 ล้านโด๊ส, Johnson & Johnson 5 ล้านโด๊ส, University of Oxford & AstraZeneca 7.6 ล้านโด๊ส และ Novavax 10.72 ล้าน โด๊ส
โดยจำนวนนี้ จะเพียงพอกับประชาชนมากถึง 14.8 ล้าน หรือคิดเป็น 308.33 % ของประชากรในประเทศ ซึ่งมีเพียง 4.886 ล้าน ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอกับหมู่เกาะแปซิฟิกอื่นๆ อย่างเช่น ประเทศซามัว ตองกา และตูวาลู หากพวกเขาต้องการด้วย. ซึ่งรัฐบาลนิวซีแลนด์คาดว่าหลังจากได้รับวัคซีน และมีการทดลองความปลอดภัยแล้ว จะเริ่มฉีดให้ประชาชนในประเทศช่วงกลางปี 2021
ซึ่งสำหรับลำดับของกลุ่มของบุคคลที่จะได้รับวัคซีนนั้น ทางรัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ทำแผนประเมินสถานการณ์ไว้ 3 แผน แต่ละแผนแบ่งกลุ่มผู้ที่จะได้รับวัคซีนเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) กรณีที่มีผู้ติดเชื้อต่ำ 2) กรณีที่มีการระบาดเป็นคลัสเตอร์ที่ควบคุมได้ และ 3) กรณีที่มีการระบาดในวงกว้าง โดยหากเกิดกรณีที่ 1 และ 2 ขึ้นนั้น ทางการจะให้เจ้าหน้าที่บริเวณชายแดน และบุคลากรทางการแพทย์แนวหน้าได้ก่อน แต่หากเกิดกรณีที่ 3 นั้น จะให้คนชรา, คนที่มีความเสี่ยงทางสุขภาพ และผู้อาศัยในสถานดูแลสูงอายุก่อนด้วย เป็นต้น
เกาหลีใต้
มาถึงประเทศในเอเชีย นอกจากสิงคโปร์ที่วัคซีนล็อตแรกส่งมาถึงแล้ว ก็มีเกาหลีใต้เอง ที่คาดว่าจะได้รับวัคซีนในเร็วๆ นี้เช่นกัน โดยเกาหลีได้สั่งจองวัคซีนทั้งหมด 64 ล้านโด๊ส แบ่งเป็น Pfizer & BioNTech, Moderna และ University of Oxford & AstraZeneca อย่างละ 20 ล้านโด๊ส และ Johnson & Johnson อีก 4 ล้านโด๊ส รวมเป็น 64 ล้านโด๊ส ซึ่งจะเพียงพอต่อประชากร 34 ล้านคน และสำหรับประชากรอีก 10 ล้านคนนั้น จะได้รับวัคซีนผ่านโครงการวัคซีนระดับโลก ขององค์การอนามัยโลกหรือที่เรียกว่า COVAX
โดยรวมแล้ว วัคซีนของเกาหลีใต้ จะเพียงพอต่อประชากร 44 ล้านคน หรือคิดเป็น 85.27 % ของประชากร 51.64 ล้านคน ซึ่งวัคซีนล็อตแรก คาดว่าจะส่งมาถึงเกาหลีใต้ในช่วงต้นปี ก่อนจะมีการทดสอบความปลอดภัยให้แน่ใจ และจะเริ่มฉีดในประชาชนต่อไป
สำหรับการจัดลำดับผู้ที่ได้รับวัคซีนนั้น เกาหลีใต้ก็ได้จัดให้ บุคลากรทางการแพทย์, ผู้สูงอายุและผู้ที่มีความเสี่ยงทางสุขภาพ และนักสังคมสงเคราะห์ เป็นผู้ที่จะได้รับก่อนในกลุ่มแรก แต่ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดที่พบผู้ติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงนี้ ก็ทำให้รัฐบาล และตัวประธานาธิบดีเอง ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า วัคซีนมาช้าเกินไปด้วย
ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเอง ก็เป็นประเทศที่มีความคืบหน้าในด้านวัคซีน โดยเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รัฐบาลก็ได้ผ่านกฎหมาย ที่จะให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับวัคซีน COVID-19 ฟรี โดยญี่ปุ่นนั้น ได้สั่งจองวัคซีนทั้งหมด 290 ล้านโด๊ส จาก 3 บริษัท แบ่งเป็น Pfizer & BioNTech, และ University of Oxford & AstraZeneca อย่างละ 120 ล้านโด๊ส และจาก Moderna 40 ล้านโด๊ส
ซึ่งจะนวนนี้จะเพียงพอต่อประชากร 145 ล้านคน หรือคิดเป็น 114.62 % ของประชากรทั้งหมด 126.5 ล้าน ในประเทศ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนในกฎหมายว่า ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้นจะได้รับวัคซีนฟรีด้วยหรือไม่ แต่คาดว่าอาจจะครอบคลุมด้วย โดยรัฐบาลตั้งใจว่า จะให้ประชาชนทั้งหมดรับวัคซีนภายในเดือนมิถุนายน 2021 หรือในครึ่งปีแรกนี้
ญี่ปุ่นเอง ได้จัดลำดับความสำคัญของผู้ที่ได้รับวัคซีนไว้ โดยคล้ายคลึงกับประเทศอื่นๆ ที่ บุคลากรทางการแพทย์ จะเป็นผู้ได้รับก่อน ตามมาด้วยผู้สูงอายุ และผู้ป่วยในโรงพยาบาล และผู้ที่มีโรคอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้น ประเทศนี้ก็มีปัญหาเรื่องความเชื่อใจของประชาชน ที่มีต่อการฉีดวัคซีนต่ำ ทำให้แม้ว่ามีวัคซีนพร้อม แต่รัฐบาลก็ต้องสร้างความเชื่อใจต่อประชาชนให้มาเข้ารับวัคซีนเช่นกัน
ด้านของไทยเอง มีข้อมูลออกมาว่า เราได้สั่งจองวัคซีน 26 ล้านโด๊สจาก University of Oxford & AstraZeneca ซึ่งจะใช้ได้กับประชากร 13 ล้านคน รวมถึงยังมีข้อตกลงรับวัคซีนผ่านโครงการวัคซีนระดับโลก COVAX ด้วยอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งยังมีการเปิดรับบริจาคในการวิจัยวัคซีนของโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งจะเปิดรับอาสาสมัครทดลองในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีการเริ่มฉีดวัคซีนนี้ ในอาสาสมัครช่วงเดือนเมษายน 2021
ขณะที่ อนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุขเอง ก็เคยออกมากล่าวว่า หากวัคซีนมาถึงประเทศไทย และพร้อมฉีดนั้น บุคลากรทางการแพทย์จะเป็นกลุ่มที่เข้าถึงก่อนได้ก่อนด้วย แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดเกณฑ์ต่างๆ เปิดเผยออกมา
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/covid-19-vaccine-doses.html
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-55370999
https://www.bbc.com/news/uk-55181665
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-55149138
https://www.reuters.com/article/us-health-coronavirus-moderna-idUSKBN28L2SY
https://www.reuters.com/article/us-health-coronavirus-southkorea-idUSKBN28I053
https://www.statista.com/chart/23671/uk-procured-covid-vaccines-by-company/
https://mainichi.jp/english/articles/20201027/p2g/00m/0na/096000c
https://www.japantimes.co.jp/news/2020/12/02/national/free-coronavirus-vaccines/
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/news/20201223_14/
https://www.hfocus.org/content/2020/11/20474
ฉันจะผอม! / จะเข้านอนก่อนเที่ยงคืน / จะกินชานมไข่มุกให้น้อยลง / จะอ่านหนังสือให้ได้เดือนละเล่ม / จะไม่พูดคำหยาบ (ถ้าไม่เมา) / จะเก็บเงินให้ได้ xxx,xxx บาท / จะ….. บลาๆๆๆๆ
โอ้ย มีเรื่องที่ตั้งใจไว้ว่าจะทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นสารพัดอย่าง แต่เอาเข้าจริงก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง หรือทำๆ ไปทิ้งไว้กลางทางก็บ่อย เอาวะ! ปักหมุดที่เดือนแรกของปี ขอลองตั้งหลักใหม่ทำอะไรจริงจังเพื่อชีวิตที่ดีสักที ใครเอาด้วยบ้าง
ใครอยู่ #ทีมชีวิตดีในปีใหม่ มาลองโหลดแอพฯ พวกนี้ไปใช้เป็นตัวช่วยกันเลย ลุย!