“ผมเติบโตมาจากคุณค่าของลา มาเซีย และเป็นอย่างที่เป็นทุกวันนี้เพราะคุณค่าที่ผมได้เรียนรู้ในระบบเยาวชนที่นั่น” ลีโอเนล เมสซี่
หลังจากพาอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี ชื่อของ ‘ลิโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi)’ ถูกพูดถึงในฐานะหนึ่งในนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก
ถ้าต้นไม้ใหญ่มีรากที่หยั่งลึกฉันใด ความสำเร็จก็มาจากการบ่มเพาะอย่างสม่ำเสมอฉันนั้น เราเลยอยากมาชวนรู้จักศูนย์ฝึกเยาวชน ‘ลา มาเซีย (La Masia)’ ศูนย์ฝึกกีฬาระดับเยาวชนของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาที่บ่มเพาะให้เมสซี่กลายเป็นเมสซี่เช่นทุกวันนี้
ประวัติศาสตร์ศูนย์ฝึกลา มาเซีย
ศูนย์ฝึกลา มาเซียเป็นศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นคาตาลูญญา ประเทศสเปน (แคว้นนี้เคยทำประชามติขอแยกตัวจากสเปน) ซึ่งอันที่จริง ระบบเยาวชนของสโมสรบาร์เซโลนาเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1901 เมื่อ หลุยส์ ดีออสโซ (Lluis d’Osso) ตั้งทีมบาร์เซโลนาชุด B, C และ D ขึ้นในสโมสร ก่อนที่ในปี 1961 จะมีความพยายามสร้างศูนย์ฝึกซ้อมขึ้นอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก แต่ก็ต้องปิดตัวลงใน 2 ปีต่อมาเนื่องจากปัญหาด้านการเงิน
จนกระทั่งในปี 1978 โจเซป หลุยส์ นูเนซ (Josep Lluís Núñez) ได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกให้ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรบาร์เซโลนา (1978-2000) ศูนย์ฝึกเยาวชนลา มาเซียจึงได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยคำว่า ‘ลา มาเซีย’ เป็นภาษาบาสก์ที่แปลว่า ‘โรงนา’ ซึ่งก็มาจากชื่อของสถานพักที่ถูกปรับปรุงจากโรงนาอายุกว่า 300 ปี ให้กลายเป็นศูนย์ฝึกกีฬาระดับเยาวชนพร้อมที่พักและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน
ในช่วงเวลานั้นลา มาเซียยังไม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นศูนย์ฝึกที่มีคุณภาพมากนัก แต่การตัดสินใจดึง โยฮัน ครัฟฟ์ (Johan Cruyff) ตำนานของสโมสรเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคือจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะครัฟฟ์ได้นำแนวคิด แผนทำทีม และการฝึกซ้อมแบบใหม่มาสู่บาร์เซโลนาและกระจายแนวคิดนั้นไปสู่ศูนย์ฝึกเยาวชน จนทำให้บาร์ซ่าประสบความสำเร็จมากมายทั้งในระดับสโมสรและระดับทวีป ก่อนฟุตบอลของครัฟฟ์จะถูกพัฒนาในเวลาต่อมาเป็น ‘ติกิ ตากะ’ หรือการส่งบอลสั้นเท้าสู่เท้าด้วยความแม่นยำในพื้นที่แคบๆ
ตลอดระยะเวลาการคุมทีมของครัฟฟ์ เขาได้ให้โอกาสนักเตะชุดเยาวชนจากศูนย์ฝึกลา มาเซียมากถึง 32 คน หนึ่งในนั้นคือ เป๊ป กวาดิโอล่า (Pep Guardiola) อดีตผู้จัดการทีมบาร์เซโลนาที่พาสโมสรประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยเป๊ปเองก็ดำเนินรอยตามครัฟฟ์ ระหว่างที่เขาคุมทีม 11 ตัวจริงที่ใช้เป็นประจำมีมากถึง 7 คนที่มาจากศูนย์ฝึกลา มาเซีย เช่น การ์เลส ปูยอล, เคราร์ด ปิเก้ (Gerard Pique), วิคตอร์ บัลเดส (Victor Valdes), อันเดรส อิเนียสต้า (Andrés Iniesta), ชาบี เฮอร์นานเดซ (Xavi Hernández) ก่อนที่ชื่อเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่พาทีมชาติสเปนคว้าถ้วยฟุตบอลโลกอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2010
นอกจากความสำเร็จของสโมสร ความสำเร็จครั้งใหญ่ของลา มาเซียก็เกิดขึ้นระหว่ารการคุมทีมของเป๊ปเช่นกัน โดยในปี 2010 มีนักเตะถึง 3 คนจากศูนย์ฝึกลา มาเซียที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ ได้แก่ เมสซี่, อิเนียสต้า และชาบี ก่อนที่เมสซี่ที่คว้าบัลลงดอร์ปีนั้นไปครองได้สำเร็จ
ในปี 2011 สโมสรบาร์เซโลนาได้ตัดสินใจสร้างศูนย์ฝึกใหม่ในชื่อ ‘โฆอาน กัมเปร์’ โดยได้มีการย้ายศูนย์ฝึกเยาวชน ศูนย์ฝึกฟุตบอลหญิง และศูนย์ฝึกฟุตบอลชายมารวมอยู่กันในที่เดียว เพื่อง่ายต่อการจัดการและทำให้เยาวชนในศูนย์ฝึกได้ใกล้ชิดกับนักเตะในทีมหลัก
ปัจจุบัน ศูนย์ฝึกเยาวชนบาร์เซโลนาได้ขยายออกไปทั่วโลกโดยมีศูนย์ฝึกเยาวชนมากกว่า 30 แห่ง มีเด็กที่เคยอบรมมากกว่า 45,000 คน และยังครอบคลุมทั้งเด็กชาย-หญิง และกีฬาอื่นๆ อาทิ ฟุตซอล, บาสเกตบอล, ฮอกกี้ รวมถึงยังได้มีการเปิดสอนผู้ฝึกสอนหรือโค๊ชด้วย
ชีวิตในลา มาเซีย
สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครเข้าเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ฝึกลา มาเซียทางเว็บไซต์บาร์เซโลนาได้ระบุไว้ว่า
- ต้องมีอายุระหว่าง 6-12 ปี
- ผ่านการทดสอบทั้งหมด
- เด็กและครอบครัวต้องอยู่ในแคว้นคาตาลูญญา
- กรณีอื่นๆ เช่น แมวมองดึงตัวมาจากต่างประเทศ เช่น เมสซี่
โดยทางยูทูปแชนแนล FC Barcelona เคยปล่อยวีดีโอที่เล่าถึงชีวิต 1 วันในศูนย์ฝึกลา มาเซียและทำให้เห็นว่าตารางชีวิตของเยาวชนที่นั่นมีแบบแผนเป็นอย่างมาก
- 8.00 – 14.00 น. เรียนหนังสือ
- 14.00 – 15.30 น. กินข้าวกลางวัน & พักผ่อน
- 15.30 – 17.00 น. เรียนหนังสือ
- 17.00 – 20.00 น. ซ้อมฟุตบอล
- 20.00 – 22.30 น. อาหารว่าง & พักผ่อน
- 22.30 น. เข้านอน
แนวคิดของลา มาเซีย
ทุกคนที่เคยเรียนที่ลา มาเซียมีบางสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น เป๊ป กวาดิโอล่ากล่าวไว้
คำพูดข้างต้นของเป๊ปจริงแท้แค่ไหนอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน แต่แนวคิดหลักที่ศูนย์ฝึกลา มาเซียใช้กล่อมเกลาเยาวชนทุกคนมีอยู่ 5 ข้อ โดยในเว็บไซต์ของบาร์เซโลนาเขียนไว้ ดังนี้
- ทะเยอทะยาน – ความทะเยอทะยานคือความต้องการทำให้ที่ดีที่สุดและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ มันประกอบไปด้วยแนวคิดอื่นที่แฝงอยู่ เช่น วินัย, ความอดทน, ความกระตือรือร้น, ความรับผิดชอบ
- มุ่งมั่น – เส้นทางที่ดำเนินด้วยโชคดีและทางลัดมักมาเพียงครู่เดียวแล้วหายไป แต่ความมุ่งมั่นจะพาเราไปยังจุดที่สูงที่สุดที่ครั้งหนึ่งดูเหมือนห่างไกลและเข้าไม่ถึง การอุทิศตน, ความเข้มแข็ง, เสียสละ และความต่อเนื่องคือหลักสำคัญ
- ถ่อมตน – บ่อยครั้งที่นักกีฬาหรือคนทั่วไปก็ตามบรรลุในสิ่งที่ตั้งใจไว้ มักจะมีความรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น และมักลืมคุณค่าที่พาตัวเองมาถึงจุดนั้น ความถ่อมตนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะรักษาและปกป้องคนนั้นไม่ให้ลืมตัวตน
- เคารพ – ความเคารพคือคุณค่าพื้นฐานในระบบประชาธิปไตยและสังคม มันคือคุณค่าที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์และมาตรฐาน โดยเฉพาะในเกมกีฬาที่มักมีช่วงเวลาอันตึงเครียด ความเคารพคือคุณค่านึงที่จะกำหนดว่าสถานการณ์จะเลวร้ายหรือดีขึ้น
- ทีมเวิร์ก – ทีมเวิร์กเกี่ยวข้องกับการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม การรู้ตัวว่าสิ่งที่ทำมีผลต่อทุกคนในกลุ่ม เมื่อรู้เช่นนั้นจึงต้องเรียนรู้ที่จะเคารพและให้ความสำคัญกับคุณค่าที่คนอื่นยึดถือ
“ผมเติบโตมาจากคุณค่าของลา มาเซีย และเป็นอย่างที่เป็นทุกวันนี้เพราะคุณค่าที่ผมได้เรียนรู้ในระบบเยาวชนที่นั่น” เมสซี่เคยกล่าวไว้ก่อนจะประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะนักฟุตบอล และกลายเป็นไอดอลของใครหลายคนทั่วโลกเหมือนทุกวันนี้
อ้างอิงจาก