ทำแล้ว! ทำอยู่! ทำต่อ! ทำอะไร?!
เลือกตั้ง 2566 ใกล้เข้ามา หลายคนจับตามอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ว่าจะได้ “ทำต่อ” ด้วยการเป็นนายกฯ ต่อไปอีกหนึ่งสมัยหลังการเลือกตั้งหรือไม่
คราวนี้เขาทุ่มสุดตัว ด้วยการเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ที่มาพร้อมกับสโลแกนประจำตัว “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” เพื่อรับมือกับศึกเลือกตั้งที่จะถึงนี้
ทำอะไรมาแล้วบ้าง? ทำอะไรอยู่บ้าง? และจะทำอะไรต่อไป? The MATTER ชวนไปดูประวัติแคนดิเดตนายกฯ นายพลวัยเกษียณนามว่า ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนนี้กัน
เริ่มต้นใหม่กับนายกฯ คนเดิม (?)
อะไรก็เกิดขึ้นได้ในการเมืองไทย ไม่แน่ว่าหลังการเลือกตั้งเราอาจจะได้นายกฯ คนใหม่ ที่ชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนเดิมก็ได้ เพราะฉะนั้น มารู้จักกันก่อนว่า จริงๆ แล้วเขาคนนี้เป็นใคร และเคยทำอะไรมาก่อน?
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ ‘ตู่’ อายุ 69 ปี เป็นลูกทหาร เกิดในค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2497 เคยเรียนที่ จ.ลพบุรี ก่อนจะย้ายมาเรียนมัธยมที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ และเข้าสู่วงการทหารด้วยการสอบติดโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 12 ต่อด้วยโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 23
ชีวิตการทำงาน เริ่มต้นและเติบโตจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือเรียกกันว่า ‘ทหารเสือราชินี’ ที่มี พ.ท.ณรงค์เดช นันทโพธิ์เดช เป็นผู้บังคับกองพันในขณะนั้น และได้มาเป็น ผบ.กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นแหล่งเครือข่ายของทหารสาย ‘บูรพาพยัคฆ์’ นั่นจึงเป็นที่มาของความสนิทสนมพี่น้อง 3 ป.
พล.อ.ประยุทธ์ได้ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ช่วงปี 2553-2557 และตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ก็ปฏิเสธไม่ทำรัฐประหารอยู่ตลอด …แต่สุดท้ายก็เข้าสู่การเมืองด้วยการทำรัฐประหาร ในตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อปี 2557 ก่อนที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะแต่งตั้งเป็นนายกฯ ในปีเดียวกัน
คราวเลือกตั้งปี 2562 เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ จนได้กลับมาเป็นนายกฯ ด้วยพลัง ส.ว.แต่งตั้ง 250 คน และปัจจุบัน ก็กลับมาอีกครั้ง ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมรับมือกับศึกเลือกตั้งอีกครั้ง
จะทำอะไรบ้าง?
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ไปปราศรัยที่หน้าศาลากลาง จ.นครราชสีมา โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ขึ้นเวทีประกาศนโยบายชุดแรกของพรรค หลายๆ อย่างเป็นเรื่องที่เขาอ้างว่าทำมาแล้ว และหลายๆ อย่างจะทำต่อไป อาทิ
- พัฒนามอเตอร์เวย์ รถไฟความเร็วสูง และรถไฟรางคู่ เพื่อแบ่งเบาการจราจร
- ตั้งกองทุนพยุงราคาสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ยาง มัน และเพิ่มเงินสนับสนุนค่าเกี่ยวข้าว จากเดิมไร่ละ 700 บาท เป็น 2,000 บาท
- เชื่อมโยงการท่องเที่ยว จากเมืองหลักมาเมืองรอง
- พัฒนาโครงการ ‘คนละครึ่ง’ และ ‘เที่ยวด้วยกัน’ ต่อไป
- บัตร ‘สวัสดิการพลัส’ เพิ่มสิทธิเป็นเดือนละ 1,000 บาท
- แก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน หาทางออกให้ประชาชนมีสิทธิในการครอบครองและทำกินในที่ดิน
- ทุนเรียนวิชาชีพ อำเภอละ 100 ทุน
- ระบบหมอ 24 ชั่วโมง ปรึกษาหมอผ่านระบบแพทย์ทางไกล
- ดูแลผู้สูงอายุ ตั้งศูนย์สันทนาการ และปรับเบี้ยผู้สูงอายุ จากเดิมเป็นขั้นบันได เป็นการให้เท่ากันทุกช่วงอายุ คนละ 1,000 บาทต่อเดือน
ฯลฯ
นี่คือข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับแคนดิเดตนายกฯ รายนี้ และนโยบายบางส่วนจากพรรคที่เสนอชื่อเขา