ปรากฎการณ์คนหายได้เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกครั้ง หลังอดีตนายก ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ไม่ปรากฎตัวในการเข้าฟังคำพิพากษาของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตจำนำข้าว โดยให้เหตุผลว่าป่วย แต่ถึงอย่างนั้นกลับมีข่าวมากมายที่ลือว่ายิ่งลักษณ์นั้นได้หนีคดี ลี้ภัยตามรอยพี่ชายอย่างทักษิณ ชินวัตรไปอยู่ต่างประเทศแล้ว
ระหว่างที่เรายังไม่รู้แน่ว่า ยิ่งลักษณ์ลี้ภัยไปไหน The MATTER ขอพามาดูจุดเช็คอินหลักๆ ที่เหล่าผู้นำทางการเมืองในอดีตเคยลี้ภัยกันมาแล้ว ว่าเขาหนีไปเช็คอิน พำนักอาศัยที่ไหนกันมา
(1) ปรีดี พนมยงค์ – สิงคโปร์ จีน ฝรั่งเศส
ปรีดี พนมยงค์ ผู้นำคณะราษฎร อดีตนายกรัฐมนตรี 3 สมัย ผู้ก่อตั้ง ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งมีบทบาทมากมายในวงการการเมืองไทย กลับต้องยุติบทบาท และลี้ภัยในช่วงความวุ่นวายทางการเมืองจากการรัฐประหารเดือนพฤศจิกายน ปี 2490 โดยในช่วงแรก ปรีดีนั้นลี้ภัยไปยังประเทศสิงคโปร์ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังประเทศจีน ในปี 2491
ขณะที่อาศัยอยู่ที่จีน ปรีดีได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับผู้นำทางการเมืองหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ปธน.เหมา เจ๋อตงของจีน ปธน.โฮจิมินห์ของเวียดนาม หรือแม้แต่เจ้าสุภานุวงศ์ ประธานประเทศลาว ก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจากอดีตนายกฯจีน โจวเอินไหล ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ปรีดีได้เดินทางไปยังปารีส ประเทศฝรั่งเศส และพำนักลี้ภัยอยู่ที่นั่นจนเสียชีวิต
(2) จอมพล ป. พิบูลสงคราม – ญี่ปุ่น
จอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของไทย เกือบ 15 ปี ผู้มีบทบาทในการเมืองอย่างยาวนานและเป็นมีนโยบายชาตินิยมอย่างการเปลี่ยนชื่อประเทศจาก ‘สยาม’ มาเป็น ‘ประเทศไทย’ หรือเปลี่ยนเพลงชาติไทย มาเป็นแบบที่ใช้กันในปัจจุบันนี้
จอมพล ป. เองก็ได้ลี้ภัยทางการเมืองเมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผบ.ทบ.ในขณะนั้นทำการรัฐประหาร โดยเดินทางลี้ภัยไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดี เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นมองว่า จอมพล ป. เป็นผู้มีบุญคุณต่อประเทศ จากการช่วยเหลือให้ทหารญี่ปุ่นผ่านเส้นทางในไทย ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้พำนักอาศัยอยู่ที่กรุงโตเกียวจนกระทั่งถึงเสียชีวิต
(3) ถนอม กิตติขจร – สหรัฐอเมริกา
จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกผู้ดำรงตำแหน่งหลายสมัย ผู้เคยทำการรัฐประหารตัวเอง และได้จัดตั้งสภาบริหารคณะปฏิวัติขึ้น
จอมพลถนอมต้องลี้ภัยทางการเมืองไปภายหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ในปี 2516 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ประท้วงของนิสิต นักศึกษาและประชาชนจำนวนมาก ที่เหล่าทหารได้ใช้อาวุธสงคราม และความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จึงทำให้จอมพลถนอมลาออกจากตำแหน่ง และเดินทางลี้ภัยพร้อม จอมพลประภาส จารุเสถียร และ พ.อ. ณรงค์ กิตติขจรไปอยู่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา แต่ถูกคนไทยที่อาศัยอยู่ที่นั่นขับไล่ จึงย้ายไปอยู่ที่สิงคโปร์ ก่อนจะบวชเป็นสามเณร กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง ในเดือนกันยายน 2519 จนกลายเป็นชนวนให้เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ในเวลาต่อมา
(4) ทักษิณ ชินวัตร – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ อังกฤษ และอีกมากมาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้เคยได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมถ้นจากการเลือกตั้งทั้ง 2 สมัย ก่อนจะถูกรัฐประหาร ในปี 2549 เขาต้องถูกยุบพรรค เพิกถอนสิทธิในการเมือง และยึดทรัพย์เป็นเงินกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท ก่อนจะลี้ภัยไปต่างประเทศ ในปี 2551 หลังไม่มาฟังคำตันสินของศาลฎีกา ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษก และหนีคดีทั้งหมด 6 หมายจับ
ทักษิณได้เดินทางลี้ภัยไปหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ อังกฤษ หรือแม้แต่ไปปรากฏตัวในคอนเสิร์ต EDM อย่าง Tomorrow land ที่เบลเยี่ยม ทั้งเขายังมีการลงทุนธุรกิจอยู่ในต่างประเทศอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งแม้จะเดินทางไปหลากหลายที่ แต่ปัจจุบันทักษิณได้ถือสัญชาติมอนเตเนโกร
(5) ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร – ?
เรียกได้ว่าตามรอยพี่ชาย เกือบทุกฝีก้าว ทั้งจากการชนะการเลือกตั้ง ได้รับตำแหน่งเป็นนายกฯหญิงคนแรกของประเทศ และการหนีคดี ลี้ภัยไปต่างประเทศ โดยหลังจากเธอไม่ปรากฏตัว เบี้ยวนัดในการฟังคำตัดสินคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตจำนำข้าว ซึ่งแม้ว่าเธอจะให้เหตุผลว่า ‘ป่วย’ และมีอาการ ‘น้ำในหูไม่เท่ากัน’ รวมถึง ‘วิงเวียนศรีษะ’ จนไม่สามารถเดินทางไปรับฟังคำตัดสินได้ แต่ก็มีข่าวลือจากหลายแหล่งที่รายงานว่าเธอหลบหนีไปต่างประเทศแล้ว
โดยบางฝ่ายมองว่าเธอใช้เส้นทางกัมพูชา ไปสิงคโปร์และเดินทางต่อไปดูไบ บางฝ่ายก็รายงานว่าเธอกำลังรอเตรียมขอลี้ภัยไปอังกฤษ หรือบางฝ่ายที่ยังมองว่าเธอยังคงอยู่ในไทย
แต่ความจริงตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? น้ำในหูกลับมาเท่ากันหรือไม่? ยังคงเป็นปริศนา ให้เราได้ติดตามกันต่อไป