นายกฯ เอ๊ย! ถามไรตอบได้…
การแถลงนโยบายต่อสภายังคงเข้มข้น ฝ่ายค้านถาม ฝ่ายรัฐบาลตอบ โบ๊ะบ๊ะเข้าจังหวะไม่แพ้ตลกคาเฟ่ต์ หรือหม่ำเท่งโหน่งในชิงร้อยชิงล้าน แม้หลายคนน่าจะไม่ได้ติดตามประชุมสภาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ต้องห่วง The MATTER รวมประเด็นสำคัญที่ฝ่ายค้านถามรัฐบาล และ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีตอบไว้เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ, การปรับค่าแรงขั้นต่ำ, ฝุ่น PM 2.5, ปัญหาลูกจ้างแพลตฟอร์ม
ตามไปอ่านกันได้ด้านล่างนี้เลยนายจ๋า..
Q: จะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร?
เศรษฐา: “เราจะไม่แก้ไขหมวด 1 และ 2 ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะดำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
Q: ทำไมดิจิทัลวอลเลตจำกัดแค่ 4 กม.?
เศรษฐา: “เราตระหนักดีว่าในชนบทอาจมีร้านไม่เพียงพอ ขอไปดูรายละเอียดให้เหมาะสมอีกทีหนึ่ง ส่วนเรื่องระยะเวลาการใช้ 6 เดือน เรื่องนี้จำเป็น เพราะเราต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นครั้งใหญ่ ฉะนั้น ระยะเวลาในการใช้เงินเท่านี้ เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างมาก”
“มีบางคนบอกว่าอยากให้ยกเลิกรัศมี 4 กม. ผมเรียนว่าเศรษฐกิจภูมิภาคต้องการการกระตุ้น ถ้าเกิดคนที่มีถิ่นฐานอยู่ที่จังหวัดใด ก็ควรกลับไปใช้ที่นั่น มีเวลา 6 เดือนกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้อง ทำให้สถาบันครอบครัวแข็งแกร่งขึ้น ก็ดีนะครับ ดังนั้น ขอคงไว้เรื่องรัศมี 4 กม. แต่บางจังหวัดบางเขตอาจมีการขยาย”
Q: ทำไมไม่พูดถึงการปรับค่าแรงขั้นต่ำในคำแถลงนโยบาย?
เศรษฐา: “มีคำถามมาเยอะเรื่องนี้ สมควรได้รับการปรับโดยเร็วที่สุด เราจะทำให้เศรษฐกิจโตเฉลี่ย 5% ตลอด 4 ปี ทำให้ค่าแรงขั้นต่ำขึ้นไปได้ถึง 600 บาท/วัน ปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาท/เดือน” (ตอบเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566)
Q: ปรับ [ค่าแรงขั้นต่ำ] โดยเร็วที่สุด คือวันไหน เอาให้ชัดๆ?
เศรษฐา: “เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่หลายพรรคพูดไว้ เราจะมีการเจรจา 3 ฝ่ายระหว่างแรงงาน ผู้ว่าจ้าง และรัฐบาล เพื่อปรับค่าแรงขั้นต่ำให้เหมาะสม โดยมีเป้าหมายที่ 400 บาท/วัน โดยเร็วที่สุด” (ตอบเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566)
Q: จะแก้ไขปัญหา PM 2.5 อย่างไร?
เศรษฐา: “แน่นอนว่าอีก 5 เดือน จังหวัดภาคเหนือจะเข้าสู่ช่วงวิกฤตอีกแล้ว เราจะเริ่มทำโดยเร็ว เพื่อให้เกิดผลได้ในต้นปี ดำเนินการในส่วนที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนแยะ แล้วส่วนอื่นค่อยๆ พัฒนากันไปตามขีดจำกัดของงบประมาณที่สามารถทำได้”
Q: จะแก้ปัญหาลูกจ้างแพลตฟอร์ม (ไรเดอร์) อย่างไร?
เศรษฐา: “เรามองภาพ gig economy โดยรวม ซึ่งรวมถึงแท็กซี่, วินมอเตอร์ไซค์, ผู้ให้บริการขนส่งต่างๆ เราฟังปัญหาจากผู้ประกอบการและจากการลงพื้นที่ตั้งแต่ก่อนและหลังเลือกตั้ง ทั้งในด้านค่ารอบที่ไม่เป็นธรรม ค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่ชาร์จกับผู้โดยสาร การบังคับรับงานพ่วง การแบกรับต้นทุนความเสี่ยงเอง กฎหมายแรงงานที่ไม่คุ้มครอง กฎหมายต่างๆ ที่ยังล้าสมัยในหลายมิติ”
“ผมได้ให้แนวทางกระทรวงแรงงานเจรจากับภาคเอกชน เพื่อยกระดับค่าแรงและสวัสดิการให้เป็นธรรม แข่งขันกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรุนแรง นอกจากนี้ เรายังมีแนวทางจัดระเบียบค่าโดยสารไรเดอร์, วินมอเตอร์ไซค์ และแท็กซี่ ให้มีความยุติธรรมโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารและไรเดอร์ด้วย
“และเรามีแนวทางให้กระทรวงคมนาคมศึกษาเรื่องการสร้างแอปพลิเคชั่นเรียกรถของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ให้บริการเหล่านี้อย่างครบวงจร ครอบคลุม ทั่วถึงด้วยครับ”
Q: จะปัญหาหนี้เกษตรกร จัดการอย่างไร?
เศรษฐา: “เรื่องการเกษตร ปากท้อง รายได้ หนี้สินเป็นเรื่องสำคัญ ในการประชุม ครม.ครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ น่าจะมีเรื่อง ‘การพักหนี้’ เข้าสู่ที่ประชุม”
“การพักหนี้เกษตรกรเป็นเรื่องเร่งด่วน เรามีเป้าหมายที่จะทำให้ได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยเราจะพักทั้งต้นและดอก แต่ขอย้ำอีกครั้งว่ารัฐบาลจะพักหนี้พร้อมแผนการสร้างรายได้ ปรับเปลี่ยนการปลูกให้เป็นสิ่งที่ตลาดโลกต้องการและในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมตระหนักถึงภาวะโลกเดือด จึงเตรียมพร้อมนำความรู้และเทคโนโลยีเข้ามาใช้”
“การพักต้นดอกเป็นการฟื้นฟูจิตใจเกษตรกร เพื่อให้ทุกท่านมีกำลังแรงกายแรงใจไปทำมาหากิน สร้างรายได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี โดยที่ในอนาคตจะไม่เสียวัฒนธรรมทางด้านการเงินการคลัง เช่น การใช้ปุ๋ยตามค่าดิน เพื่อลดจำนวนปุ๋ยและเพิ่มผลผลิต อันนี้เข้ากับหลักคิดรัฐบาล ที่จะใช้แนวคิดเกษตรแม่นยำเข้ามาช่วยเกษตรกรเพิ่มผลผลิตและรายได้ ลดรายจ่าย”
Q: จะมีการปรับเงินเดือนครู-ข้าราชการไหม?
เศรษฐา: “รายได้ของครู-ข้าราชการ ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญในการดูแลประชาชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า เป็นส่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เรารับปากจะดูแลเรื่องรายได้ให้เหมาะสมกับงบประมาณ โดยรักษาไว้ซึ่งวินัยการเงินการคลัง”
นายกฯ เศรษฐา ถามได้ ตอบได้ แต่ถูกใจไหม… แล้วแต่พิจเลยจ้านายจ๋าาาา