ด้วยประสบการณ์ทำงานร่วมกับ 8 นายกรัฐมนตรี 12 รัฐบาล ทำให้ข้อเขียนของ วิษณุ เครืองาม เวลาพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ในแวดวงอำนาจมีความน่าสนใจยิ่ง
ล่าสุดในหนังสือเล่มใหม่ ลงเรือแป๊ะ ก็มีการกล่าวถึงผู้นำคนหนึ่งที่วิษณุแจกแจงถึงข้อดีไว้อย่างมากมาย เราจึงหยิบยกบางข้อดีที่เจ้าตัวเอ่ยถึง ‘ผู้นำ’ รายนี้ โดยเฉพาะวิธีการทำงานที่หากใช้ภาษาปัจจุบัน ก็ต้องบอกว่า productive สุดๆ มาให้ทุกคนได้ทายกัน
***นี่คือคอนเทนต์แนะนำหนังสือจริงๆ นะเออ***
1.) ทำงานแบบมีเป้าหมาย
“xxx สรุปว่า เราไม่อยากเป็นเผด็จการ แต่เมื่อยึดอำนาจมาแล้วก็ไม่อยากให้เสียของ ไม่อยากเห็นบ้านเมืองถอยหลังกลับไปสู่วิกฤตหรือทางตันอีก ไม่อยากเห็นความขัดแย้งรุนแรงแบบบ้านเมืองใกล้ล้มละลายกลับมาอีก จึงจำเป็นต้องมีอำนาจพิเศษนี้เป็นอาวุธหรือเครื่องมือ” (หน้า 53)
2.) เด็ดขาด พูดคำไหนคำนั้น กล้าได้กล้าเสีย
“ตามที่ผมสังเกตเห็นเองและจากคำบอกเล่าของคนใกล้ชิด xxx เป็นคนเด็ดขาด พูดคำไหนคำนั้น กล้าหาญ กล้าได้กล้าเสีย ใครอย่าไปท้าอะไรเป็นอันขาด” (หน้า 88)
3.) สนุกสนาน ร่าเริง เปิดเผย
“ขณะเดียวกันก็เป็นคนสนุก ร่าเริง เปิดเผย ตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบใครก็สามารถบอกผู้นั้นได้ตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อมว่าผมไม่ชอบคุณ ไม่ใช่คนปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่คนชนิดยอมให้น้ำขุ่นอยู่ใน น้ำใสอยู่นอก เพราะทั้งน้ำขุ่นน้ำใสจะกระฉอกออกมาจนเห็นได้ชัด ความเปิดเผยโปร่งใสนี้กระมังที่ทำให้มักเก็บอารมณ์ไม่อยู่ พอขุ่นใจก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ออกอาการหงุดหงิดอย่างเปิดเผยให้เห็นแต่หายเร็ว โดยเฉพาะเมื่อแสดงอาการหงุดหงิดออกไปแล้วก็ดูจะโอ่โถงโล่งแจ้งสบายใจลืมเรื่องเก่า” (หน้า 88)
4.) ความจำดี ชอบบรรยาย
“xxx เป็นคนความจำดีและเป็นนักพูดนักบรรยายคนหนึ่ง ได้ยินว่าสมัยเป็น xxx ก็บรรยายได้เป็นฉากๆ ตอนเป็น xxx สามารถยืนบรรยายได้เป็นชั่วโมงโดยไม่ต้องดูโพย บางครั้งนานถึง 2-3 ชั่วโมงเพราะข้อมูลเพียบ แล้วมีลูกเล่นลูกฮาแทรกด้วยเสมอ” (หน้า 91)
5.) มีความคิดรวดเร็ว
“ความคิดรวดเร็วทำให้ข้อเขียนสั่งการจะหวัดมาก แทบจะอ่านไม่ออก ผมเคยพยายามเดาแต่ก็อ่านผิดจนแทบจะปฏิบัติผิดอยู่แล้ว ดีที่ถือไปขอให้ผู้ทรงคุณวุฒิทางการอ่านลายมือ xxx ถอดความให้ หลังจากนั้นจะมีผู้ถอดความด้วยดินสอกำกับมาด้วยเสมอ ซึ่งหลายครั้งผมพยายามอ่านเทียบกับลายมือจริงก็นึกไม่ออกว่าไฉนจึงถอดความออกมาได้เช่นนั้น” (หน้า 93)
6.) ขยัน ทำงาน 24 ชั่วโมง
“นอกจากเป็นคนพูดเร็วเขียนเร็วแล้ว ท่านยังเป็นคนขยันทำงานไปทำงานแต่เช้ากว่าจะกลับก็เย็นค่ำ ใครมีแฟ้มด่วนส่งไปที่บ้านได้ตลอดเวลา รับไลน์ส่งไลน์โต้ตอบได้เกือบตลอด 24 ชั่วโมง ผมเคยได้รับไลน์จากท่านตอนตี 1 ตี 2 ท่านยังเป็นคนคิดเร็ว คิดอะไรทีละมากๆ เป็นชุดๆ ไม่รู้จักเหนื่อย อึดจริงๆ ถือว่ามีดีเอ็นเอพิเศษ” (หน้า 93)
7.) รับฟังเสียงท้วง ไม่ถูกพร้อมแก้ไข
“นอกจากนั้น ยังเป็นคนเชื่อมั่นตัวเอง เด็ดขาด ตัดสินใจไว แต่ถ้าปรากฏภายหลังว่าไม่ถูกต้องก็พร้อมจะแก้ไขเปลี่ยนแปลง ไม่อายที่จะบอกว่าผิดหรือไม่รู้ ใครที่เห็นว่าดุดัน ตัดสินใจไว ความจริงคือฟังความเห็นที่ทักท้วงอยู่มาก ข้อสำคัญคือท้วงให้ถูกกาละและเทศะ” (หน้า 93)
8.) อ่านหนังสือละเอียด จับประเด็นได้ไว
“ท่าน xxx เป็นคนอ่านหนังสือเร็วและอ่านได้ละเอียด จับประเด็นไว ฟังใครอธิบายนิดเดียวก็จะสรุปได้เป็นข้อๆ ทันทีว่าใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ทำไม ดังนั้นจึงไม่ใคร่ชอบฟังคำอธิบายยาวๆ เยิ่นเย้อ เว้นแต่ผู้นั้นพูดเร็วปรื๋อจนท่านขัดจังหวัดไม่ทัน” (หน้า 94)
9.) ทำงานเร็ว ไม่เคยต้องตาม
“เวลาใครเสนอแฟ้มหรือบันทึกอะไร xxx จะอ่านและขีดเส้นใต้บ้าง วงกลมบ้าง กาดอกจันบ้างเสมอ และแฟ้มมักจะกลับลงมาภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เคยต้องตามทวง” (หน้า 94)ๆ
10.) สุขภาพแข็งแรง
“โชคดีที่สุขภาพของท่าน xxx ดี ไม่เคยเห็นเจ็บป่วย วันพุธเย็นยังลงมาออกกีฬาที่สนามหน้าตึกไทยคู่ฟ้าเป็นประจำจนองค์การอนามัยโลกยกย่องว่าเป็น xxx อนามัย ส่งเสริมสุขภาพ แต่เหลียวมองคนนั่งเรือแป๊ะทั้งหลายซึ่งเป็นฝ่ายขับเคลื่อนเห็นครั่นเนื้อครั่นตัวเมื่อยขบ นั่งก็โอยลุกก็โอยกันอยู่หลายคน รวมทั้งผมด้วย” (หน้า 94)
11.) มีอารมณ์ขัน
“ในที่ประชุม xxx บ่อยครั้งที่ท่านมีอารมณ์ขัน ปล่อยมุกคลายเครียดในที่ประชุมบ่อยๆ เมื่อเห็นว่าชักเครียดไปแล้ว บางทีก็หันไปกระเซ้า xxx ซึ่งเอาแต่นั่งยิ้มเผล่ แต่ xxx ขันจนหายเครียดไป xxx คนไหนพูดยาวๆ ท่านเคยขัดว่า เอาล่ะ! พอแล้วมั้ง เขาจ่าย 100 บาท คุณแสดงเสียยังกับจ่าย 1,000 บาท ของบสิบล้านยี่สิบล้าน อธิบายเสียราวกับจะขอสักพันล้าน” (หน้า 96)
12.) มีอารมณ์ศิลปิน อ่อนไหว อ่อนโยน
“จะว่า xxx เป็นคนดุ ฉุนเฉียว อารมณ์เสียตลอดเวลาคงไม่ได้ เพราะท่านมีอารมณ์ศิลปินอ่อนไหวอ่อนโยนอยู่มาก การส่งเสียงดังออกอาการล้งเล้งหัวเสียคงเป็นอย่างอารมณ์ศิลปินมั้ง แต่เป็นศิลปินที่เครียดนะ xxx ฝาแฝดของท่านก็เป็นศิลปินนักดนตรี ยามอารมณ์ดีท่านก็จะร้องเพลง ครม.ถูกเกณฑ์ให้ไปร้องเพลงหลายหนแล้ว” (หน้า 97)
13.) ชอบแต่งกลอน
“ที่สำคัญคือชอบแต่งโคลงกลอน กลอนที่ท่านแต่งสัมผัสอาจสะดุดบ้าง เพราะไม่ใช่กวี แต่ก็ไปได้ และแต่งได้เร็วเสียด้วย” (หน้า 97)
14.) เอาใจใส่ลูกน้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา
“ด้วยความที่เคยเป็น xxx ท่านจึงเป็นคนมีลูกน้อง และเป็นธรรมดาที่ย่อมมีน้ำใจเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขผู้ใต้บังคับบัญชา เรื่องนี้เมื่อเป็น xxx ก็เผื่อแผ่มาถึงการปฏิบัติตนต่อ xxx และบุคคลใน xxx ด้วยการไต่ถามถึงทุกข์สุข สุขภาพ ถามถึงคนในครอบครัวแบบกุ๊กๆ กิ๊กๆ เป็นกันเองจึงมีอยู่เสมอ การกระเซ้าเย้าแหย่ในยามไม่ใช่ราชการก็มีเป็นประจำ (หน้า 98)
15.) ไม่ชอบการผัดวันประกันพรุ่ง
“xxx เป็นคนขี้รำคาญและไม่ชอบการพิรี้พิไร ผัดวันประกันพรุ่ง หรือการทำงานแบบไม่สะเด็ดน้ำ ผักชีโรยหน้า น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง เมื่อผสมกับความเป็นคนตรง พูดจาโผงผาง อนิฏฐารมณ์จึงเกิดได้ง่าย ท่านไม่ยอมอดทนอดกลั้นกับเรื่องเหล่านี้ ถือว่าเป็นการขาดระเบียบวินัย หรือไม่ก็เป็นการดูหมิ่นเหยียดยามขาดสัมมาคารวะ ไม่ให้เกียรติตำแหน่งหน้าที่” (หน้า 102)
16.) เรียนรู้งานได้เร็ว
“แม้ xxx จะไม่เคยผ่านการทดลองงานด้านบริหารราชการแผ่นดินในระดับรัฐมนตรีมาก่อน พ.ศ. 2557 แต่ก้าวพรวดเดียวเป็นนายกรัฐมนตรีเลย แม้กระนั้นก็ต้องถือว่าเรียนรู้การบริหารราชการแผ่นดินได้เร็ว ความจริง “การเป็นให้เป็น” นั้นทำได้ยาก ไม่งั้นคงต้องงกๆ เงิ่นๆ เคอะๆ เขินๆ มะงุมมะหงาหราอยู่พักใหญ่กว่าจะตั้งตัวติด” (หน้า 113)
17.) บริหารงานด้วยข้อมูล
“xxx น่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่บริหารงานด้วยข้อมูลข่าวสารทั้งในและนอกระบบมากที่สุดคนหนึ่ง อาจเพราะยุคสมัยมาถึงเข้าพอดี อันดับแรกในฐานะเป็น xxx เก่าและ xxx ท่านจึงมีสายงานการข่าวมาก มีเครือข่ายโยงใยเกือบทั้งประเทศ ข่าวเหล่านี้มาจากทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน..อันดับต่อมา xxx เป็นคนขยันอ่านหนังสือ แทบจะเรียกว่าอ่านทุกเล่มที่ผ่านเข้ามาแม้แต่ถุงกล้วยแขก” (หน้า 115-116)
18.) ทำการบ้านก่อนประชุม
“สมัยรัฐบาล xxx (ในการประชุม xxx) วาระเพื่อทราบจะไม่ต่างจากวาระพิจารณาเท่าไรนัก เพราะ xxx ทำการบ้านมาดี ท่านจะซักและเสนอนำประกอบแทบทุกเรื่อง จึงใช้เวลาอภิปรายนานพอกับวาระเพื่อพิจารณา ดังนั้นพอจบวาระเพื่อทราบจึงมักจะเหนื่อยอ่อนไปต่ามๆ กัน ทีนี้ก็เกิดธรรมเนียมพักการประชุมราว 10-15 นาที” (หน้า 130)
19.) กินง่าย อยู่ง่าย
“ท่าน xxx เป็นคนไม่พิถีพิถันเรื่องอาหารการกิน เป็นคนกินง่าย อยู่ง่าย เสิร์ฟอะไรก็รับประทานอย่างนั้น ไม่บ่น แต่ถ้าถามความชอบ เห็นว่าชอบน้ำพริก อาหารผัก ต้มจืด ผัดกะเพราไก่ย่าง ส้มตำ ชอบอาหารประเภทเนื้อ เช่น สเต๊ก ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ราดหน้าเนื้อ ไม่ชอบอาหารที่มีกลิ่นคาว เช่น ปลาบางชนิด” (หน้า 172)
20.) รู้จักขอบคุณคน
“เมื่อคราวที่ xxx จะปรับ xxx ครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2560 ท่านพิจารณาเงียบๆ อยู่คนเดียว…นอกจากนี้ ท่านยังส่งไลน์เข้าโทรศัพท์มือถือถึงทุกๆ คนให้ร้อนๆ หนาวๆ ทั่วกันอีกด้วย ใจความดังนี้ “ขอได้รับความขอบคุณจาก xxx อย่างมากมายและลึกซึ้งกับความร่วมมือในการทำงานของ xxx ทุกคน ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เราได้ร่วมกันแก้ไข ปฏิรูป สร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยด้วยการทำงานกันอย่างหนักอาจจะมีคนไม่เข้าใจ ไม่เห็นค่า แต่เรารู้ตัวเราเองดี สักวันเมื่อทุกอย่างดีขึ้น คนไทยจะนึกถึงเราเอง ไม่ว่าจะเป็น xxx ต่อไปหรือต้องปรับออก อย่าเสียใจ xxx เป็น xxx ความผูกพันที่มีเหมือนให้ทหารทุกคนที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมา ความผูกพันระหว่างพวกเราจะไม่มีวันหมดสิ้นไปจนกว่าจะตายจากกัน อย่าดีใจหรือเสียใจ หวังว่าทุกคนจะยังคงเป็นกำลังใจให้กัน สนับสนุนกัน ข่วยเหลือกัน ไม่โกรธกัน ประเทศชาติยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับพวกเราเสมอ ขอบคุณครับ” ก็เก๋ไปอีกแบบ ทุกคนอ่านแล้วเสียววูบถามกันเองว่าหมายถึงใคร หรือจะโละยกทีม แต่ผมเชื่อว่าเป็นส่วนลึกในใจของท่าน xxx จริงๆ เพราะท่านยังเปรยเช่นนี้ด้วยความเสียดายกับคนใกล้ชิดต่อมาอีกหลายครั้ง” (หน้า 183-184)
21.) นักประดิษฐ์คำ
“xxx เคยเป็น xxx ชินกับศัพท์ xxx เมื่อเริ่มการทำงานไปสักพัก ท่านก็นำศัพท์เก่าทางทหารแต่ใหม่ทางพลเรือนมาใช้หลายคำ บางคำก็เอาคำเก่ามาให้ความหมายใหม่ บางคำก็มาจากต่างประเทศ และบางคำก็คิดขึ้นเอง ภาษาไทยวันละคำในรัฐบาลนี้จึงมีหลายคำ อาทิ การสร้างความรับรู้ความเข้าใจ, ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง, รากฐาน พื้นฐาน, ปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ และปรองดอง, มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน, ไทยนิยมยั่งยืน, ไทยแลนด์ 4.0, ขับเคลื่อน, ประชารัฐ, นวัตกรรม ฯลฯ (หน้า 187-195)
แต่เราจะไม่เฉลยหรอกนะว่าใครคือคนๆ นั้น อยากรู้คำตอบไปหาอ่านได้จากหนังสือเล่มใหม่ของวิษณุกันเอาเอง