มาถึงโค้งท้ายสุดกับการดีเบตเวทีสุดท้ายระหว่างผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน และโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา การดีเบตในครั้งนี้จะสร้างจุดเปลี่ยนอะไรต่อการเมืองและการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรยากาศสังคมสหรัฐฯ ที่ดูเหมือนจะขัดแย้งมากขึ้นเรื่อยๆ
การดีเบตในครั้งสุดท้ายนี้ดำเนินรายการโดย คริสเทน เวลเคอร์ จาก ‘NBC News’ และยังคงใช้เวลา 90 นาทีเต็มโดยไม่มีโฆษณาคั่นเช่นเคย แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือผู้ท้าชิงที่หมดเวลาพูดและไม่ได้อยู่ในเวลาพูดของตัวเองจะถูกตัดเสียงไมโครโฟนเพื่อป้องกันกันพูดแทรกและก่อกวนผู้ท้าชิงอีกฝ่าย อย่างที่เคยเกิดความโกลาหลในการดีเบตครั้งแรก การดีเบตครั้งสุดท้ายนี้นับเป็นการดีเบตครั้งที่ 2 ภายหลังจากการดีเบตครั้งก่อนที่ถูกยกเลิกไปเพื่อความปลอดภัยจากการที่ทรัมป์ติดเชื้อ COVID-19
ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่าไบเดนทำผลงานออกมาได้ดีและแหลมคมกว่าทรัมป์ แต่การดีเบตในครั้งนี้ไม่ต่างอะไรไปจากการดีเบตในครั้งแรก เพียงแต่ผู้ฟังฟังรู้เรื่องมากขึ้นว่าแต่ละคนพูดอะไรไปบ้าง โดยทรัมป์พูดแต่เรื่องที่จะทำให้สหรัฐฯ แตกแยกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการแบ่งรัฐสีแดงสีฟ้า ในขณะที่ไบเดนพยายามพูดถึงการรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ยังมีการวิเคราะห์อีกว่าทรัมป์ยังคงพูดโกหกเรื่อย ๆ เช่นเคย และทรัมป์พูดเสมือนว่าเขาเป็นคนนอกทั้ง ๆ ที่เขาเองนั้นแหละที่เป็นประธานาธิบดีตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
ส่วนทั้งสองจะตอบคำถามในแต่ละหัวข้อดีเบตอย่างไร The MATTER ได้รวบรวมมาให้แล้ว
การต่อสู้กับเชื้อไวรัส COVID-19
การดีเบตครั้งสุดท้ายนี้เริ่มต้นขึ้นด้วยคำถามต่อสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 เวลเคอร์เริ่มต้นคำถามต่อทรัมป์ว่าเขาจะจัดการต่อสถานการณ์นี้อย่างไร ทรัมป์ตอบว่าเรากำลังต่อสู้กับ ‘ไวรัสจีน’ เขายังโทษจีนที่เป็นต้นตอของไวรัส COVID-19 เขากล่าวย้ำว่าตอนนี้สหรัฐฯ มีวัคซีนแล้วก่อนเขาจะพูดอีกครั้งว่ายังไม่มีการการันตีว่าจะมีวัคซีนในเร็ว ๆ นี้ เขากล่าวเสริมว่าเขารู้อะไรเกี่ยวกับโรคนี้เยอะขึ้นหลังจากเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจนหายดีและมีภูมิต้านทาน
ส่วนด้านของไบเดนได้กล่าวชี้ถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตที่พุ่งสูงขึ้นกว่าสองแสนราย ใครก็ตามที่อยู่ในตำแหน่งไม่ควรจะเป็นผู้นำต่อไป ไบเดนย้ำว่าทุกคนควรใส่หน้ากาก ก่อนจะปิดท้ายว่าทรัมป์ยังคงไม่มีแผนใด ๆ เช่นเคย และคนสหรัฐฯ กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ร้ายแรงและไร้ประสิทธิภาพในการจัดการที่สุด
ไบเดนยังย้ำถึงการบริหารสถานการณ์เช่นนี้ว่าจำเป็นจะต้องมีความโปร่งใส เขายังย้ำอยู่เช่นเคยว่าทรัมป์ยังไม่มีแผนใด ๆ เลย ด้านทรัมป์ตอบกลับว่าเขาเป็นคนปิดประเทศไม่ให้จีนเข้า ก่อนที่ไบเดนจะโต้ว่าทรัมป์ปิดประเทศหลังจากที่ 40 กว่าประเทศได้ปิดประเทศไปแล้ว โดยทรัมป์แก้ต่างว่าเขาต้องเปิดประเทศ ต้องเปิดโรงเรียน เปิดภาคธุรกิจ สหรัฐฯ ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับไวรัสชนิดนี้ ในขณะที่ไบเดนสวนว่ามันคือการที่เราเรียนรู้ที่จะตายกับมันหากทำตามสิ่งที่ทรัมป์พูด ไบเดนเสนอนโยบายของตนว่าเขาจะสั่งให้ปิดสถานที่บางสถานที่ที่ควบคุมการระบาดได้ยาก เช่น โรงเรียน ยิม บาร์ สถานบันเทิง และใช้นโยบายเว้นระยะห่าง (social distancing) การใส่หน้ากาก แผ่นพลาสติกกั้นตามสถานที่ต่าง ๆ ก่อนที่ทรัมป์จะโจมตีกลับว่าไบเดนเอาแต่พูดเรื่องการขังตัวเองและพวกเราจะอดตาย
สุดท้ายเวลเคอร์ถามทรัมป์ถึงการที่เขาโจมตีหมอแอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐที่ออกมาโจมตีทรัมป์จากการบริหารที่ล้มเหลว ว่าเป็น ‘ไอ้งั่ง’ ทรัมป์รีบแย้งว่าเขาไม่ได้โจมตีใคร และเขาฟังผู้เชี่ยวชาญเสมอ ไบเดนโจมตีทรัมป์เช่นเคยว่าทรัมป์ที่บอกว่าเชื่อผู้เชี่ยวชาญคือคนเดียวกันกับที่ออกมาบอกในตอนท้ายว่าเขาไม่กล้าบอกว่าโรคนี้แก้สาธารณชนว่ามันคือโรคระบาดที่ร้ายแรงเพราะทรัมป์กลัวว่าผู้คนจะแตกตื่นจึงโกหกเรื่องไวรัสดังกล่าว
ความมั่นคงแห่งชาติ
เวลเคอร์เริ่มจากปัญหาความพยายามในการแทรกแซงการเลือกตั้งจากรัสเซียและอิหร่านที่เป็นข่าวในช่วงไม่กี่วันมานี้ ไบเดนตอบว่าประเทศใดก็ตามที่เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในอเมริกาจะต้องรับผิดชอบต่อการเข้ามาแทรกแซงดังกล่าว ไบเดนย้ำว่าทรัมป์ไม่เคยพูดอะไรเลยเกี่ยวกับข้อหาของการที่รัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในครั้งก่อน เขาย้ำว่ารัสเซียไม่ต้องการให้พวกเขาชนะการเลือกตั้ง เพราะพวกเขารู้ทะลุปรุโปร่งเกี่ยวกับรัสเซีย ทรัมป์ตอบกลับด้วยการกล่าวหาว่าไบเดนรับเงินจากรัสเซียและมีแต่เขาเท่านั้นที่เอารัสเซียอยู่ ก่อนที่ไบเดนกล่าวว่าเขาไม่เคยรับเงินจากรัสเซีย และโต้ตอบด้วยการพูดถึงเรื่องการเลี่ยงภาษีของทรัมป์ ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตและผลประโยชน์จากต่างชาติ
เวลเคอร์ถามไบเดนอีกครั้งว่าปัญหาที่ลูกชายเขาทำธุรกิจในจีนและยูเครนนั้นจะส่งผลอย่างไรต่อความมั่นคงแห่งชาติ ไบเดนตอบว่าเขาไม่เคยรับสินบนใด ๆ จากทั้งยูเครนและจีน และลูกชายของเขาไม่เคยรับเงินใด ๆ ที่เกิดจากการทุจริต ในขณะที่เวลเคอร์ตั้งคำถามเดียวกันกลับไปยังทรัมป์ว่าเขาทำธุรกิจกับต่างชาติจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดบัญชีธนาคารในต่างประเทศจะส่งผลอย่างไรต่อความมั่นคงแห่งชาติ ทรัมป์ตอบว่าเขาไม่ได้ทำ เขาปิดบัญชีธนาคารก่อนที่จะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว ก่อนที่เขาจะโจมตีไบเดนอีกครั้งในเรื่องเดิม
ต่อมา เวลเคอร์ถามไบเดนว่าเขาจะให้จีนจ่ายค่าเสียหายต่อการติดเชื้อที่จีนไม่โปร่งใสไหม ไบเดนกล่าวว่าเขาจะจัดการด้วยการจัดการตามกฎระเบียบระหว่างประเทศ เขายกตัวอย่างของการส่งเครื่องบินไปบริเวณทะเลจีนใต้ในฐานะที่พื้นที่บริเวณนั้นไม่ใช่ของจีน เขากล่าวโจมตีจีน เกาหลีเหนือ และรัสเซียว่าเป็นพวกอันธพาล เวลเคอร์ถามถึงความสัมพันธ์ต่อเกาหลีเหนือที่กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อยู่ ทรัมป์บอกว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อเกาหลีเหนือ และจะไม่มีสงครามนิวเคลียร์แน่ ๆ ส่วนไบเดนย้ำว่าเกาหลีเหนือจะต้องปฏิบัติตนตามกฎระเบียบด้วยการแบนอาวุธนิวเคลียร์ และเขาจะใช้นโยบายคว่ำบาตรกดดันเกาหลีเหนือ
ระบบประกันสุขภาพ และกฎหมายคนเข้าเมือง
ปัญหาสำคัญคือเรื่องการสาธารณสุขในสหรัฐฯ ที่ Affordable Care Act กำลังจะถูกยกเลิก และจะมีผู้คนกว่า 20 ล้านรายที่ได้รับผลกระทบ ทรัมป์กล่าวโจมตีโอบามาแคร์ก่อนจะบอกว่าเขาจะมีแผนสาธารสุขที่ดีมาก ทุกคนจะได้เห็นหลังจากที่เขาชนะการเลือกตั้ง ไบเดนกล่าวว่าทรัมป์กำลังจะทำให้คนนับ 20 ล้านคนและคนอีกหลายคนสูญเสียสิทธิขั้นพื้นฐานในการรักษาพยาบาล
ไบเดนย้ำว่ายาและประกันสุขภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องมี ทรัมป์โจมตีกลับว่าไบเดนทำให้ยาเป็นเรื่องสังคมนิยมและจะทำให้สังคมอเมริกันล่มสลาย ในขณะที่ไบเดนย้ำว่าเขาจะลดเพดานราคายาลงเพียงเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงการรักษาอย่างถ้วนหน้า และทรัมป์กำลังทำลายประกันสังคม และมัวแต่เห็นภาพหลอนคิดว่าเขาคือเบอร์นี แซนเดอร์ส อดีตผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตที่มีนโยบายในแนวทางสังคมนิยม
ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ กำลังพบกับปัญหาความอดอยากและความยากจน ทรัมป์โทษแนนซี เพโลซีประธานสภาสหรัฐฯ ว่าเธอไม่ยอมผ่านแผนความช่วยเหลือจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เวลเคอร์ย้อนกลับว่าแต่เขาคือประธานาธิบดีซึ่งมีอำนาจแยกกันกับสภา ก่อนที่ทรัมป์จะบอกว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเดโมแครตที่จะเอาชนะในทางการเมือง ในขณะที่ไบเดนกล่าวว่าพรรคเดโมแครตได้ผลักดันเรื่องงบประมาณและนโยบายค่าแรงขั้นต่ำช่วยผู้คนที่ตกอยู่ในสถานะลำบากมาตลอด แต่ทรัมป์เอาแต่พูดว่าจะทำให้ประเทศล้มละลาย ทำไมถึงไม่ยอมไปบอกสมาชิกสภาจากรีพับลิกันให้ช่วยผ่านแผนความช่วยเหลือดังกล่าวแทน
ในด้านนโยบายส่งตัวคนเข้าเมืองผิดกฎหมายกลับประเทศจนทำให้ลูกถูกแยกจากอกพ่อและแม่นั้น ทรัมป์ย้ำว่าเด็กเหล่านี้ถูกนำเข้ามากับพวกค้ายา ไบเดนตอบกลับว่าเด็ก 500 กว่าคนเหล่านี้มากับพ่อแม่ของตัวเอง และทรัมป์กำลังแยกพวกเขาออกจากกัน เขาโจมตีนโยบายนี้ว่าคือ ‘อาชญากรรม’ ก่อนที่เวลเคอร์ถามไบเดนว่านโยบายของผู้อพยพในยุคโอบามาล้มเหลว ชาวสหรัฐฯ จะมั่นใจกับเขาได้อย่างไร ไบเดนกล่าวว่าประชาชน 11 ล้านคนที่ไร้เอกสารจะได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศจนไปจนถึงการได้รับสัญชาติภายในเวลา 100 วันหลังจากที่เขาชนะและเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์กล่าวโจมตีว่าคนที่จะกลับเข้ามาในสหรัฐฯ มีแต่พวก ‘IQต่ำ’
เชื้อชาติในอเมริกา
ปัญหาการเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของชนชาติโดยเฉพาะเรื่องสีผิวกำลังเป็นเรื่องสำคัญในสังคมสหรัฐฯ โดยเฉพาะการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อคนผิวสีที่ถูกฆ่าโดยที่พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ไบเดนกล่าวว่าสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับปัญหาที่สถาบันต่าง ๆ ถูกวางอยู่บนพื้นบานของการเหยียดเชื้อเชิดและเลือกปฏิบัติ ส่วนทรัมป์โจมตีไบเดนกลับว่าไบเดนอยู่ในตำแหน่งทางการเมือง 47 ปี แต่ไม่เคยทำอะไรเลย และนอกจากเขา ยกเว้นอับบราฮัม ลินคอล์น ไม่เคยมีใครทำเพื่อชุมนุมคนผิวสีได้เท่าเขาเลย ไบเดนกล่าวว่าทรัมป์คือคนที่เลือกปฏิบัติต่อคนผิวสีมาโดยตลอด
ส่วนปัญหา Black Lives Matter ที่ทรัมป์มีท่าทีต่อต้านมาโดยตลอดนั้น ทรัมป์กล่าวว่าก่อนหน้านี้เขาคิดว่าขบวนการนี้แย่ แต่เขาเป็นคนที่เหยียดสีผิวน้อยที่สุดในประเทศนี้ ไบเดนโจมตีว่าทรัมป์มีนโยบายต่อต้านชาวมุสลิม ชาวแม็กซิกัน และมองข้ามคนดำมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีจับคนดำเข้าเรือนจำในข้อหายาเสพติด ไบเดนกล่าวเพิ่มเติมว่าเขาจะเปลี่ยนกฎหมายยาเสพติดจากการจำคุกผู้เสพไปเป็นการนำผู้เสพเข้าศูนย์บำบัดแทน ทรัมป์กล่าวโจมตีว่าทำไม 8 ปีในตำแหน่งของไบเดน ทำไมเขาไม่ทำให้เป็นจริงได้ ไบเดนตอบสั้น ๆ ว่า เพราะ ‘ส.ว.ริพับลิกัน’
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ทั้งสองมีมุมมองต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันมาก ทรัมป์กล่าวว่าเขาดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมดีมาโดยตลอด ขณะที่ไบเดนกล่าวย้ำว่าปัญหาดังกล่าวกำลังเป็นภัยคุกคามของมนุษยชาติ ไบเดนย้ำว่าทรัมป์ยกเลิกกฎหมายต่าง ๆ ที่จะช่วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ เขากล่าวย้ำว่าเขาจะเปลี่ยนการใช้น้ำมันไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าแทน รวมไปถึงการปรับปรุงการก่อสร้างที่กระทบสิ่งแวดล้อม และกิจการที่ไม่กระทบสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะสร้างงานและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่สหรัฐฯ มากกว่าที่ทรัมป์ทำได้ โดยทรัมป์โจมตีว่าไบเดนแค่อยากจะสร้างตึกที่มีหน้าต่างที่เล็กลงก็เท่านั้น
ไบเดนบอกว่านโยบายของเขาได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มกิจการที่ส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมรวมไปถึงกลุ่มแรงงานก็ให้การสนับสนุนด้วย ไบเดนยกตัวอย่างการสร้างกังหันลมที่จะช่วยประหยัดพลังงาน และการควบคุมการขุดเจาะน้ำมันที่ส่งผลเสียต่อธรรมชาติ โดยเขากล่าวว่าสหรัฐฯ จะเจริญเติบโตได้และการเจริญเติบโตนั้นจะเป็นการเจริญเติบโตที่ใสสะอาด ทรัมป์โจมตีกลับว่ากังหันลมทำให้นกตาย และเขาย้ำว่าไบเดนต่อต้านการขุดเจาะน้ำมัน ก่อนที่ไบเดนจะท้าให้ทรัมป์หาวิดีโอที่เขาพูดคำนั้นมายืนยัน ทั้งนี้ เวลเคอร์ถามทรัมป์ถึงผู้ได้รับผลกระทบจากที่อยู่อาศัยที่ใกล้แท่นขุดเจาะและโรงกลั่นน้ำมันโดยคนส่วนใหญ่เป็นคนผิวสี ทรัมป์ไม่ได้อธิบายชัดเจนว่าเขาจะจัดการปัญหานี้อย่างไร ไบเดนกล่าวว่าสหรัฐต้องเข้าสู่การปล่อยค่าแก๊ซเรือนกระจก เป็น 0 ภายในปี 2050
ภาวะผู้นำ
เวลเคอร์ถามว่าหากให้จินตนาการว่าวันนี้เป็นวันที่พวกเขาชนะการเลือกตั้งแล้วกลายมาเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ พวกเขาจะแถลงการณ์ต่อผู้ที่ไม่ได้เลือกเขาให้เป็นประธานาธิบดีอย่างไร ทรัมป์ตอบว่าเขาจะทำให้ประเทศประสบความสำเร็จ ก่อนที่เขาจะโจมตีจีนอีกครั้ง และชมคนผิวสี คนแม็กซิกัน คนเอเชีย ผู้หญิง ฯลฯ การประสบความสำเร็จจะทำให้พวกเราเป็นหนึ่งเดียว เรากำลังจะประสบความสำเร็จ เขาจะตัดภาษี ส่วนไบเดนนั้นแหละที่กำลังจะขึ้นภาษี ถ้าไบเดนชนะ ไบเดนจะทำให้สหรัฐฯ ประสบกับวันที่เศร้าโศกที่สุด
ส่วนไบเดนกล่าวว่าเขาจะเป็นตัวแทนให้แก่คนสหรัฐฯ ทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ลงคะแนนให้เขาหรือไม่ก็ตาม เขาจะมอบความหวัง พวกเราจะเดินหน้าต่อไป เราจะเลือกวิทยาศาสตร์มากกว่าเรื่องแต่ง เราจะเลือกความหวังมากกว่าความกลัว เราจะเลือกที่จะเดินหน้าเพราะมีโอกาสอันยิ่งใหญ่รอเราอยู่ เราจะพัฒนาเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยความเป็นธรรม และขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดที่จะสร้างงานนับล้าน เขาย้ำว่าการเข้าคูหาครั้งนี้จะเป็นตัวแทนอัตลักษณ์ ความถูกต้อง เกียรติภูมิ การให้เกียรติการ ปฏิบัติต่อผู้คนด้วยความเคารพ และการมีโอกาสของทุก ๆ คน และเขาจะทำให้มั่นใจว่าทุกคนจะได้รับโอกาสนั้นหลังจากที่พวกเราขาดโอกาสเหล่านี้ไปกว่า 4 ปีแล้ว