อยากได้วัคซีนดีๆ มีไหมแถวนี้ อยากเจอของดีๆ แถวนี้มีไหมเอ่ย?
วัคซีนเป็นคำที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา เพราะถือเป็นทางออกสำคัญจากวิกฤต COVID-19 โรคระบาดนี้ แพร่กระจายไปทั่วโลก และเราต้องทนอยู่กับมันมานานเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ตอนนี้ หลายประเทศทั่วโลกเดินหน้าฉีดวัคซีนกันไปถึงไหนต่อไหน ไทยเราเพิ่งมีอัตราประชากรที่ได้ฉีดแบบครบโดสไปแค่ 0.6% นิดๆ เท่านั้นเอง
แถมเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีน ก็เป็นประเด็นที่เราได้ยินกันอยู่บ่อยครั้ง เมื่อวัคซีนที่รัฐบาลดีลมาเพื่อใช้ในกลุ่มเสี่ยงสูงและบุคลากรหน้าด่าน กลับมีคนออกมารีวิวผลข้างเคียงที่น่ากังวลเสียเยอะ และยังเป็นวัคซีนที่หลายประเทศก็สั่งระงับการใช้งานไปแล้วด้วย
ตอนนี้วัคซีนแต่ละตัวอยู่ในขั้นตอนไหนบ้าง แล้วเรามีวัคซีนอื่นๆ ให้เลือกไหม? The MATTER จะพาทุกคนมาชมกัน
วัคซีนที่ได้ครบตามดีลแล้ว
ยังไม่มี วัคซีนตัวหลักๆ ที่เราดีลมาก่อนอย่าง Sinovac และ AstraZeneca ยังอยู่ในระหว่างการจัดส่งให้ครบตามดีลที่รัฐบาลสั่งซื้อไว้ โดยของ AstraZeneca นี้ จะมีวัคซีนที่ผลิตในโรงงานของไทยเองด้วย
เริ่มฉีดแล้ว
AstraZeneca นำเข้าโดย บริษัทแอสตราเซเนกา (ประเทศไทย) จำกัด ดีลทั้งหมด 61 ล้านโดส และจะผลิตในไทยโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ออกมา 6 ล้านโดส ในเดือนมิถุนายน และทยอยผลิตเดือน 10 ล้านโดส ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
ส่วนวัคซีนอีกตัวที่ได้ยินชื่อกันมานาน อย่าง Sinovac นำเข้าโดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กระทรวงสาธารสุขระบุว่า ภายในเดือนนี้จะมีวัคซีนเข้ามาประเทศไทยจำนวน 3.5 ล้านโดส รวมแล้วจะเท่ากับว่า ไทยจะมีวัคซีน Sinovac 6 ล้านโดส
อย่างไรก็ดี วัคซีน Sinovac นี้มีประเด็นเรื่องผลข้างเคียงต่างๆ โดยมีผู้คนมาร่วมกันแชร์ประสบการณ์ที่ผลข้างเคียงที่ได้รับจากวัคซีนดังกล่าว และทาง ศบค.ก็ระบุว่า อาการแพ้เหล่านี้เป็นอาการที่ ‘คล้ายอัมพฤกษ์’ เป็นอาการที่เข้ากับความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง จากการทำให้เส้นเลือดเกิดภาวะหดเกร็งขึ้น ซึ่งทำให้หลายคนกังวลอย่างมากกับวัคซีนดังกล่าว
ขึ้นทะเบียนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว
ทั้ง AstraZeneca และ Sinovac เป็นวัคซีนสองตัวที่ดำเนินการจัดซื้อมาก่อนตัวอื่นๆ และผ่านการขึ้นทะเบียนแล้ว จึงเริ่มฉีดให้กับบุคลากรในกลุ่มด่านหน้าและประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงก่อน
ขณะที่ Johnson & Johnson วัคซีนสัญชาติสหรัฐฯ ทางภาครัฐแจ้งว่าได้ขึ้นทะเบียนแล้ว และจะนำเข้าโดย บริษัทแจนเซ่น-ซีแลก จำกัด
อยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
Moderna วัคซีนสัญชาติสหรัฐฯ ที่ อนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุข ระบุว่า ทางบริษัทนำเข้ายื่นเอกสารมาเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างประเมินคำขอขึ้นทะเบียน เพื่อจะเจรจาต่อไป
ส่วนวัคซีนที่อยู่ในการยื่นเอกสารประเมินคำขอขึ้นทะเบียน ได้แก่ Bharat Biotech วัคซีนจากบริษัทสัญชาติอินเดีย และ Sputnik V วัคซีนจากบริษัทสัญชาติรัสเซีย
และอีกหนึ่งวัคซีนสัญชาติสหรัฐฯ อย่าง Pfizer อนุทิน ก็ระบุว่า อยู่ในระหว่างการขอขึ้นทะเบียนแล้วเช่นกัน คาดว่าจะใช้ในกลุ่มอายุ 12-18 ปี
เมื่อคืนนี้ (4 พฤษภาคม) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในคลับเฮาส์ว่า “วันนี้ไฟเซอร์ หากเข้าไปดูเว็บไซต์ ประเทศไทยมีเอาเข้ามาแล้ว แต่ว่าเอาเข้ามาไม่มาก วันนี้หากสั่งไม่ได้ ทำไมไม่ยืมมาก่อน”
ขณะเดียวกัน มีผู้ที่ร่วมฟังในคลับเฮาส์ถามว่า จะหาข้อมูลการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์มาจากที่ไหน ซึ่งทักษิณก็ตอบว่า จากเว็บไซต์และแผนที่ประเทศ ถ้ามีสีเหลืองขึ้นคือเอาเข้ามาแล้ว แต่เขาเขียนว่า เป็นฉุกเฉิน แสดงว่าเอาเข้ามาไม่มาก ก็มีหลักฐานอยู่
แต่ทางเลขาธิการฯ อย. แถลงในวันนี้ (5 พฤษภาคม) ว่า ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนวัคซีนจากบริษัท Pfizer และได้ติดต่อกับทางบริษัท Pfizer ของประเทศไทยแล้ว ซึ่งทางบริษัทระบุว่า ยังไม่ได้มายื่นขึ้นทะเบียน ยังอยู่ในช่วงของการเจรจา และมีนโยบายว่าจะขายวัคซีนให้กับภาครัฐเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ทางบริษัท Pfizer ในประเทศไทย ก็ออกแถลงการณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า วัคซีนของ Pfizer อยู่ระหว่างการทำงานและหารือกับกระทรวงสาธารณสุข และไม่มีนโยบายจัดจำหน่ายวัคซีน COVID-19 ผ่านตัวแทนหรือตัวกลางใดๆ และจนถึงปัจจุบันไม่เคยมีการนำเข้าวัคซีน COVID-19 ผ่านสำนักงานในประเทศไทยแต่อย่างใด
เตรียมยื่นเอกสารเพื่อขึ้นทะเบียนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
Sinopharm เป็นอีกหนึ่งตัวที่ไทยดีลด้วย โดยเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ตอนนี้ทางผู้ผลิตอยู่ในขึ้นตอนเตรียมยื่นเอกสารกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และเมื่อทุกอย่างเป็นไปอย่างถูกต้องแล้ว ไทยก็พร้อมขึ้นทะเบียนให้
อ้างอิงจาก