แม้คลิปพนักงานต้อนรับแต่งชุดไทยคล้องพวงมาลัยให้นักท่องเที่ยวจีนแบบเซ็งๆ (แต่พอเห็นกล้องกลับฉีกยิ้มได้ฉับพลัน) จะกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ของจีน
แต่ถึง ‘เจ้าบ้าน-นักท่องเที่ยว’ 2 ชาตินี้ จะทั้งรักทั้งชังกันและกัน และมีเรื่องให้อำกันได้ตลอด ทว่าถ้าจะว่ากันตามตรง ทั้งคู่ก็แยกขาดจากกันไม่ได้
เพราะไทยเป็นเป้าหมายหลักในการออกมา ‘เที่ยวต่างประเทศ’ ของจีน เป็นอันดับที่สองรองจากฮ่องกงเท่านั้น โดยในปีนี้ คาดกันว่าจะมีจำนวนถึง 10.4 ล้านคน หรือพอๆ กับประชากร กทม. เมืองหลวงของไทยทั้งจังหวัด !
ในขณะที่เงินจากกระเป๋าของนักท่องเที่ยวจีน ก็ช่วยให้เศรษฐกิจอันซบเซาของไทยยังเดินต่อไปได้ เฉพาะปีนี้ คาดว่าจะมีสูงถึง 5.73 – 5.84 แสนล้านบาท คิดเป็นราว 20% ของงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลเลยทีเดียว
แต่ท่ามกลางคนจีนที่ค่อยๆ เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ ไปไหนก็เจอ อยากรู้กันไหมว่า นักท่องเที่ยวจีนที่มาเมืองไทยกันนั้น เขาไปเที่ยวไหนกันบ้างนะ?
เร็วๆ นี้ มีงานวิจัยชื่อ ‘การวิเคราะห์แบ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนตามพฤติกรรม การท่องเที่ยวในประเทศไทย’ จัดทำโดยสรรเพชญ ภมรินทร์ นักวิจัยจาก ททท. และอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อดีต ผอ.นิด้าโพลผู้โด่งดัง ได้นำข้อมูลมาวิเคราห์ และให้คำตอบไว้หมดแล้ว
กลายเป็น ‘11 พฤติกรรมการท่องเที่ยว’ ของคนจีนในเมืองไทย ที่ The MATTER เห็นว่าน่าสนใจ และขอหยิบมานำเสนอต่อ
ข้อมูลพื้นฐาน
ระหว่างปี 2550-2558 พบกว่า 60% ของนักท่องเที่ยวจีนที่มาเมืองไทย เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก (first visit) โดย 60% มาเที่ยวด้วยตัวเอง ส่วนอีก 40% มากับกรุ๊ปทัวร์ ขณะที่สัดส่วนผู้ที่เที่ยวด้วยตัวเองก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ แม้นักท่องเที่ยวจีนมาเมืองไทยส่วนใหญ่จะยังเป็นผู้มีรายได้ไม่มากนัก คือไม่เกิน 20,000 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 640,000 บาท) ต่อปี แต่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวจีนก็ยังสูงเป็นอันดับสองของนักท่องเที่ยวมาเมืองไทย คือ 6,000 คน/คน/วัน (น้อยกว่านักท่องเที่ยวจากฮ่องกงเพียงชาติเดียว ที่ใช้จ่าย 6,100 บาท/คน/วัน)
และค่าใช้จ่ายรวมเฉลี่ยต่อทริป ก็เพิ่มจาก 28,000 บาทในปี 2550 มาเป็น 48,000 บาท ในปี 2558 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 70%
นั่นแปลว่า ยิ่งนานวัน นักท่องเที่ยวก็ยิ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยมากขึ้นเรื่อยๆ
ไลฟ์สไตล์การเที่ยวไทยของคนจีน
งานวิจัยนี้ได้ข้อมูลจากการสอบถามนักท่องเที่ยวจีน อายุ 15 ปีขึ้นไป ที่มาเที่ยวในเมืองไทย และพักค้างคืนอย่างน้อย 1 คืน ระหว่างปี 2556-2558 เป็นจำนวน 1,900 ตัวอย่าง พร้อมกับแยกกรุ๊ป พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนที่ ‘มาด้วยตัวเอง’ กับ ‘มากับกรุ๊ปทัวร์’ ออกจากกัน เพราะ 2 กลุ่มนี้ เที่ยวต่างกัน
แม้สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมจะยังวนเวียนใกล้เคียงกัน คือ กรุงเทพ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี และกระบี่/สุราษฎร์ธานี เหมือนๆ กัน
ผลที่ได้ออกมา กลายเป็นสิ่งที่เราอยากเรียกว่า ‘11 แพ็คเกจเที่ยวไทยยอดนิยม’ ของเหล่าตี๋หมวย อาเฮียอาเจ๊ อากงอาม่า ที่สู้อุตสาห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาความสำราญในแดนสยาม
กรณีมาเที่ยวด้วยตัวเอง
1.ดูวิถีชีวิตและแสงสียามค่ำของเมืองกรุง
เหมาะกับคนจีนที่เคยมาเมืองไทยแล้ว และมีค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมจำกัดกว่าคนอื่นๆ ส่วนใหญ่มักเป็นโสด มากับเพื่อน และค้างในไทยแค่ราว 5 คืนเท่านั้นเอง
สิ่งที่คนกลุ่มนี้สนใจคือเที่ยวชมวิถีชีวิตคนกรุงเทพ ชมเมือง และเที่ยวแสงสีความบันเทิงยามค่ำคืน
2.ประวัติศาสตร์กรุงเทพ-ผจญภัยภูเก็ต
คนที่เที่ยวแนวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ที่มักมากับเพื่อนหรือคู่สมรส เกือบ 77% มาเมืองไทยครั้งแรก และอยู่ในประเทศค่อนข้างนานถึง 7 คืน
สิ่งที่คนกลุ่มนี้สนใจ คือเที่ยวชมสถานที่ประวัติศาสตร์ทั้งในกรุงเทพและภูเก็ต มักใช้บริการนวด/สปา ลองกินอาหารไทย และทำกิจกรรมผจญภัย เช่น พายเรือแคนู ไต่หน้าผา หรือขับรถ ATV
*แพ็คเกจท่องเที่ยวนี้ ยังเหมาะกับ ‘คู่สมรสใหม่’ ที่มาฮันนีมูน
3.กระบี่-ภูเก็ต
เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่โปรไฟล์ไม่โดดเด่น อายุเฉลี่ยกลางๆ เคยมาเมืองไทยอยู่บ้าง อยู่ในประเทศ 5-6 วัน ค่าใช้จ่ายในการซื้อของและทำกิจกรรมก็กลางๆ
แต่จุดร่วมของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็คือ ชอบทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับทะเล ทั้งทำกิจกรรมริมหาดไปจนถึงดำน้ำตื้น นอกจากนี้ ยังชอบท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ใช้บริการนวด/สปา ชมแสงสียามค่ำคืน และกินอาหารไทย
*แพ็คเกจท่องเที่ยวนี้ ยังเหมาะกับ ‘คู่สมรสที่มีบุตรแล้ว’ มาฉลองวันครบรอบ จึงมักพิจารณาสถานที่เที่ยวที่เหมาะกับเด็กๆ ด้วย
4.นิเวศในเมืองหลวง-แสงสีชลบุรี
เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบไฮบริดที่สนใจการเที่ยวเชิงนิเวศในเมืองหลวง เช่น เดินชมสวนสาธารณะ สวนสัตว์ แต่พอไปที่ชลบุรีจะลุยเข้าดงแสงสี และไปใช้บริการนวด/สปา มักมากับเพื่อนหรือมาคนเดียว กว่า 60% เป็นคนที่เพิ่งเคยมาเมืองไทย มักค้างอยู่ในไทย 5-6 วัน
จุดเด่นที่สำคัญ คือ มีค่าใช้จ่ายในการซื้อของมากกว่าคนกลุ่มอื่นๆ เรียกง่ายๆ ว่ามือเติบ ซื้อเก่ง ช็อปเก่ง
5.ทะเลภูเก็ต-ชลบุรี
คนที่เลือกแพ็คเกจนี้ มักเป็นผู้หญิง และเป็นวัยรุ่น เพราะอายุเฉลี่ยน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ เห็นได้ชัด คือแค่ 25 ปีเท่านั้น (กลุ่มอื่น 28-30 ปี) เกือบเก้าในสิบคนมาไทยเป็นครั้งแรก มาเพื่อพักผ่อนให้เต็มที่ จึงมักอยู่ยาวถึง 10 คืน และค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มักทุ่มไปที่การทำกิจกรรมต่างๆ หวังใช้ชีวิตให้คุ้มค่า
สถานที่ที่คนกลุ่มนี้ไป จึงมักเป็นทะเล ชายหาด ดำน้ำ กินอาหารไทย และดูประวัติศาสตร์
*มีความเป็นไปได้ว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมาดู ‘สถานที่แต่งงาน’ มากกว่ากลุ่มอื่นๆ
6.เชียงใหม่
คนที่เลือกแพ็คเกจนี้ เกินครึ่งเคยมาเมืองไทยแล้ว ครั้งนี้จึงเน้นปักหลักที่เชียงใหม่แค่จังหวัดเดียว หวังเที่ยวให้พรุน มาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ มักมากับเพื่อนหรือญาติ ค้างคืนราว 6-7 วัน
ที่เที่ยวส่วนใหญ่ เน้นกิจกรรมที่หาได้ครบในเชียงใหม่ ทั้งเที่ยวเชิงนิเวศ เชิงผจญภัย เชิงประวัติศาสตร์ ใช้บริการนวด/สปา และลุยแสงสียามค่ำคืน
*ไม่ใช่เป้าหมายหลักของชาวจีนจากคุนหมิง ที่มีภูเขาเหมือนๆ กัน
กรณีมาเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์
1.กรุงเทพ-ชลบุรี
นิยมมาท่องเที่ยวในจังหวัดหลักๆ ของภาคกลาง ตะวันออก และภาคใต้ นอกเหนือจากกรุงเทพและชลบุรี ที่เป็นตัวแทน ‘ต้องมา’ อยู่แล้ว โดยกิจกรรมที่ทำ คือทำทุกอย่างที่ไม่มีในจีนและทำได้ในเมืองไทย คือเที่ยวเชิงนิเวศ ประวัติศาสตร์ นวด/สปา ชิมอาหาร สันทนาการ เที่ยวงานเทศกาล แสงสียามค่ำคืน และดำน้ำลึก
ถ้าจะบอกว่า เป็นกรุ๊ปทัวร์สาย mass ก็คงจะไม่ผิดนัก 80% ของคนกลุ่มนี้ มาไทยเป็นครั้งแรก และส่วนใหญ่มักมาจากเซี่ยงไฮ้
2.เที่ยวหลากหลายชลบุรี
เป็นโปรแกรมเที่ยวที่กรุ๊ปทัวร์มักจัดให้กับลูกค้าชาวจีนมากที่สุด hot hit เน้นทำการท่องเที่ยวทุกอย่างให้จบในชลบุรี ทั้งในเชิงวิถีชีวิต กินอาหารไทย ไปทะเล และงานเทศกาล
กลุ่มนี้มีจุดเด่นตรงที่มีค่าใช้จ่ายในการซื้อของและทำกิจกรรมสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ อาจเรียกได้ว่าเป็นกรุ๊ปทัวร์ ‘กระเป๋าหนัก’
3.กรุงเทพ-เชียงใหม่
เน้นท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ดูวิถีชีวิตผู้คนและลองชิมอาหารท้องถิ่น โปรไฟล์อื่นๆ ไม่หวือหวาเท่า 2 กลุ่มแรก แถมดูเหมือนกระเป๋าจะแฟบกว่านักท่องเที่ยวที่มากับกรุ๊ปทัวร์กลุ่มอื่นๆ ด้วยซ้ำ
*คนจีนจากกว่างโจวจะชอบมาเที่ยวเชียงใหม่
4.ทะเล-อาหารภูเก็ต
เป้าหมายชัดเจนคือมากิน-เที่ยวในภูเก็ต จะเน้นทำกิจกรรมทางทะเล กินอาหารท้องถิ่น และดำน้ำตื้น มักมาอยู่นานกว่ากรุ๊ปทัวร์อื่นๆ คือ 6 วันนิดๆ และมักแถมการจัดประชุมสัมมนาเข้ามาด้วย
*กรุ๊ปทัวร์แพ็คเกจนี้ มักมาจากเฉิงตูหรือปักกิ่งที่ไม่มีทะเล เลยอยากเที่ยวทะเลให้จุใจ
5.ภูเก็ต-ดำน้ำกระบี่
ไม่ต่างจากกลุ่มก่อนหน้า คือเน้นทำกิจกรรมทางทะเล แต่นอกจากอยู่ในภูเก็ตแล้ว ยังจะไปทำกิจกรรมต่อที่กระบี่อีกด้วย มาครั้งเดียวได้เที่ยวแบบ 2-in-1 นั่นเอง ส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวแนวนี้มักมีสตางค์พอสมควร
*กรุ๊ปทัวร์แพ็คเกจนี้ มักมาจากเฉิงตูหรือปักกิ่งเช่นเดียวกัน
รู้กันแล้วหรือยัง ว่าอาตี๋อาหมวยอาเฮียอาเจ่อากงอาม่า เขาไปเที่ยวกันที่ไหนบ้าง ทำไมบางที่ถึงเจอทัวร์จีนเยอะ แต่ในบางที่กลับเจอแต่นักท่องเที่ยวจีนที่มาแบบฉายเดี่ยว