เมื่อก่อนถ้ามีคนบอกว่าอยากทำงาน ‘พิทักษ์โลก’ คงฟังดูเป็นงานที่เพ้อฝัน แต่ภารกิจล่าสุดโดย NASA ทำให้งานเมื่อครู่ใกล้ความเป็นจริงขึ้นมาทุกวัน
เมื่อวันที่ 26 กันยายน ค.ศ.2022 เวลา 19.14 ตามเวลาท้องถิ่น (ราวๆ 6.14 น.ในวันที่ 27 ก.ย. ของไทย) ยานอวกาศพุ่งชน ‘ไดมอร์ฟอส’ ดาวเคราะห์น้อยที่โคจรรอบ ‘ไดดีมอส’ ดาวเคราะห์น้อยอีกดวง ถ้าฟังจากบริบทอื่นนี่ดูเหมือนข่าวความผิดพลาด แต่ในที่นี้นี่คือความสำเร็จของภารกิจ Double Asteroid Redirection Test หรือชื่อย่อ DART ภารกิจที่ทดสอบการหันเหเส้นทางการโคจรของดาวเคราะห์น้อยผ่านแรงกระแทก
DART เป็นภารกิจที่ NASA จับมือกับองค์กร Johns Hopkins Applied Physics Laboratory ภายใต้ทุนโดยสำนักงานความร่วมมือเพื่อปกป้องดาวเคราะห์ องค์กร NASA (Planetary Defense Coordination Office) โดยหน้าที่ของภารกิจ DART คือการทดสอบการเบนวิถีการโคจรของไดมอร์ฟอสเพื่อเป็นเครื่องมือในการปกป้องโลกจากการพุ่งชนของวัตถุที่อาจเป็นภัยต่อประชากรและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ทั่วโลก
โดยแรกเริ่มโปรเจ็กต์ DART เคยเป็นการร่วมมือระหว่าง NASA และ ESA หรือ European Space Agency ที่จะปล่อยยานอวกาศชื่อ AIM ขึ้นไปเพื่อโคจรรอบไดดีมอส ดาวเคราะห์น้อยที่ใหญ่กว่าเพื่อศึกษาไดมอร์ฟอส แต่หลังจากนั้นก็เกิดการปรับเปลี่ยนแผนการที่ทำให้โปรเจ็กต์ AIM ถูกยกเลิกไป แล้ว ESA จะปล่อยตัวภารกิจ Hera ยานอวกาศที่จะศึกษาดาวเคราะห์น้อย 4 ปีหลังจาก DART ทำภารกิจของมันลุล่วงไปแล้ว
“DART แสดงถึงความสำเร็จอย่างล้นเหลือในแง่มุมการป้องกันดาวเคราะห์ แต่มันก็ยังเป็นภารกิจที่เกี่ยวกับความสามัคคีและประโยชน์ส่วนรวมของมนุษยชาติ” บิล เนลสัน (Bill Nelson) ผู้อำนวยการ NASA กล่าว “ระหว่างที่ NASA ศึกษาจักรวาลและบ้านของเรา เราก็ยังพัฒนาวิธีการปกป้องบ้านหลังนั้นด้วย และการร่วมมือครั้งนี้เปลี่ยนนิยายวิทยาศาสตร์ให้กลายเป็นข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ได้” เขาพูดต่อ
การทำงานของ DART นั้นไม่ใช่เพียงการปล่อยตัวออกไปปุบปับเหมือนยิงปืน แต่ยานอวกาศ DART นั้นถูกปล่อยตัวตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ.2021 โดยจรวด SpaceX Falcon 9 และด้วยความที่นี่คือการทดสอบ การเลือกเป้าหมายเป็นไดมอร์ฟอสนั้นมีเหตุผลมาจากระยะห่างของมันจากโลกนั้นใกล้พอที่กล่องส่องทางไกลจากโลกจะสามารถเห็นและบันทึกภาพการทดสอบได้
โดยแรกเริ่ม ไดมอร์ฟอสใช้เวลาในการโคจรรอบไดดีมอสอยู่ที่ 11 ชั่วโมง 55 นาที และหลังจากการการชนเข้าอย่างจังโดย DART นักวิทยาศาสตร์จาก NASA คาดว่าความเร็วของกรโคจรจะลดลงราวๆ 10 นาทีจากเดิม ไม่ได้เพื่อทำลายดาวเคราะห์น้อย “ความเร็วที่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยคือทั้งหมดที่เราต้องการเพื่อจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย” โธมัส เซอร์บูเคน (Thomas Zurbuchen) รองผู้อำนวยการแผนก Science Mission Directorate จาก NASA กล่าว
“เรามีโอกาสมากกว่าได้โนเสาร์เมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว…พวกมันทำได้แค่มองท้องฟ้าแล้วพูดกันว่า ‘โอ้ ดาวเคราะห์น้อยล่ะ’” โฆษกองค์กร NASA เกล็น เนเกิล (Glen Nagle) กล่าว และ DART เป็นครั้งแรกที่เราสามารถพูดแบบนั้นได้ และมันเป็นจุดเริ่มต้นของโปรเจ็กต์ทีจะเพิ่มความปลอดภัยจากภายนอกดาวเคราะห์ของเรา
อ้างอิงข้อมูลจาก