คุณสามารถสืบสายประวัติบรรพบุรุษที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขร่วมกับคุณได้หลากหลายช่องทาง ลองดูกะโหลกและกระดูกสิ มันบอกได้ว่าบรรพบุรุษคุณหน้าตาแบบไหน หรือหากลองดูฟันก็จะรู้ว่าเขาชอบกินอะไร ดูหม้อข้าวและเครื่องมือทำกินคุณก็จะเห็นวัฒนธรรมที่ห่อหุ้มเขาไว้ หรือแยบยลไปกว่านั้นคือการดู ‘จีโนม’ (genome) ข้อมูลทางพันธุกรรมทั้งหมดของสิ่งมีชีวิตหนึ่งๆ ที่บอกเรื่องราววิวัฒนาการราวกับนั่งไทม์แมชชีนแห่งกาลเวลา
10 ปีที่แล้ว มีความพยายามในการหาลำดับเบสในดีเอ็นเอของมนุษย์ดึกดำบรรพ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ‘นีแอนเดอทัล’ ที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์ที่สุดเป็นครั้งแรก เปิดประตูวิทยาการครั้งสำคัญ เพราะเมื่อนำมาเทียบกับของมนุษย์ยุคปัจจุบันแล้ว ผลปรากฏว่า เรา (โฮโม เซเปียน) และนีแอนเดอทัล แชร์ความเหมือนกันอย่างพิลึกพิลั่น ที่แสดงให้เห็นว่ามีการผสมข้ามสายพันธุ์มาตั้งแต่ครั้งอดีต
แต่ที่น่าช็อกไปกว่านั้น นักวิทยาศาสตร์พบอะไรบางอย่างที่ไม่เคยคาดฝัน เมื่อในจีโนมมนุษย์ปัจจุบันมีรหัสลับปริศนาแอบซ่อนอยู่ นักวิทยาศาสตร์เรียก DNA ปริศนานี้ว่า ‘ผี’ (ghost) เป็นดีเอ็นเอที่ไม่เชื่อมโยงกับบรรพบุรุษโฮมินิดส์
ในปี 2008 นักวิจัย Svante Pääbo และทีมวิจัยจากสถาบัน Max Planck Institute for Evolutionary Anthropology ในเยอรมนี ทำการจัดลำดับเบสดีเอ็นเอมนุษย์นีแอนเดอทัล และพบว่า มนุษย์ Homo sapiens ผสมข้ามสายพันธุ์กับ Homo neanderthalensis อย่างมีนัยยะสำคัญ
ใช่แล้ว เราเคยมีสัมพันธ์สวาทร่วมกันเมื่อราว 700,000 ปีก่อน จนกลายเป็นคุณในปัจจุบัน เพราะอย่างน้อย 2-4 เปอร์เซ็นต์ของตัวคุณก็ยังเป็นของนีแอนเดอทัล
แต่คำถามที่น่าสนใจคือ เราจะมีความสัมพันธ์กับนีแอนเดอทัลแค่นั้นเหรอ? แน่ใจแค่ไหนว่าแค่ 2 สายพันธุ์ หรือถ้ามีมากกว่านั้นล่ะ? หากคุณดูจากธรรมชาติของมนุษย์ที่มีศักยภาพสืบพันธุ์ได้หลากหลายรสนิยม มันต้องมากกว่านั้นสิ
นี่เองสิ่งที่ Svante Pääbo พบ เขาพบ DNA ผีที่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร หรืออาจเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า Denisovans ที่เป็นสายแยกจากนีแอนเดอทัลอีกทีเมื่อราว 500,000 ปีก่อน แต่ในปี 2016 Denisovans ก็ยังไม่ใช่ ‘ผีที่แท้จริง’ ตามที่นักวิทยาศาสตร์เสาะหา แต่น่าจะเป็นมนุษย์สายพันธุ์ลึกลับที่เคยอยู่ร่วมกับเรามาก่อนเมื่อ 45,000 ปี ไม่นานอย่างที่คิด ดังนั้นมนุษย์อาจพบปะมนุษย์โบราณสายพันธุ์อื่นที่ขณะนี้เรายังไม่มีหลักฐานใดๆ ชี้ชัดว่าเขาเป็นใคร นักวิทยาศาสตร์เรียก ‘ผี’ ที่ซ่อนอยู่ในดีเอ็นเอคุณว่า ‘Basal Eurasians’
‘Basal Eurasians’ ผีที่หายจากหน้าประวัติศาสตร์
ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางฟอสซิลใดๆ ที่บ่งบอกการดำรงอยู่ของ Basal Eurasians เราพอรู้ได้ว่าพวกเขาอยู่ในแถบทวีปยูเรเชียนี้ร่วมกันกับเรา แต่เราไม่รู้ว่าพวกเขามีโครงสร้างทางวัฒนธรรมแบบไหน มีรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างไร มีชุดความเชื่ออันเป็นเอกลักษณ์หรือไม่ หรือพวกเขาอาจไม่ได้ดำรงชีวิตเหมือนโฮโม เซเปียน เลยด้วยซ้ำ
เราเจอกันในเวลาที่รวดเร็ว อาจไม่ได้อยู่ร่วมกันเป็นล้านๆ ปีแบบโฮมินิดส์อื่นๆ จนแฝงฝังอัตลักษณ์อันแน่ชัดในจีโนมของคุณ เพราะเราอาจผสมกับมนุษย์ปริศนาจนได้ร่องรอยดีเอ็นเอผีภายใต้เวลาเพียง 45,000 ปีเท่านั้น การเดินทางออกจากแอฟริกาของโฮโมเซเปียน จึงน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์เผ่าพันธุ์อื่นๆ หลากหลายที่ล้วนสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว
เราพยายาม ‘สืบพันธุ์’ กับมนุษย์ต่างสายพันธุ์ตลอดเวลา หรือการเดินทางมันช่างเปลี่ยวเหงา การ cross breeding จึงเป็นความเชี่ยวชาญประการหนึ่งของมนุษย์
คุณอาจเติมช่องว่าง DNA ผี นี้ด้วยคำตอบว่าอาจเป็น ‘เอเลี่ยน’ จากนอกโลกก็ได้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้ห้ามจินตนาการของคุณเลยซะทีเดียว (แต่ก็ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์สถาบันไหนกล้าชี้ชัดเช่นนั้น) เพราะตราบใดที่เรายังมีหลักฐานไม่เพียงพอในปัจจุบัน ก็ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะไม่มีโอกาสได้เจอ เมื่อวิทยาการก้าวหน้าไปกว่าเดิม พันธุกรรมศาสตร์อาจไขปริศนาที่ทับซ้อนกันในขณะที่บรรพชีวินทำไม่ได้ เพราะการสืบสายบรรพบุรุษอาจไม่จำเป็นต้องใช้หลักฐานทางฟอสซิลอีกแล้ว
“พันธุกรรมศาสตร์จะทำให้เราพบกับบรรพบุรุษปริศนา แต่อาจไม่ใช่เร็วๆ นี้” Tomas Marques Bonet นักพันธุศาสตร์ประชากรจากมหาวิทยาลัย Pompeu Fabra University
มนุษย์โฮโม เซเปียน อาจพบปะกับมนุษย์ Basal Eurasians หลายต่อหลายครั้งภายในหมื่นกว่าปี พวกเรามีสัมพันธ์สวาทเป็นครั้งคราวมีลูกมีหลานสืบเชื้อสาย แล้วพวกเขาหายไปไหน?
แต่อย่างน้อยพวกเขาทิ้งร่องรอย ‘ความเป็นผี’ ในตัวคุณและนี่คือการฝากไว้ในกายเธอของจริงในโลกของพันธุศาสตร์
อ้างอิงข้อมูลจาก
Ancient human genomes suggest three ancestral populations for present-day Europeans
New Branch Added to European Family Tree