พอถึงเวลาบ่ายคล้อย ก็เหมือนว่าเปลือกตากำลังร่วมมือกับแรงโน้มถ่วงของโลก พร้อมกับความรู้สึกเหนื่อยล้าจนอยากทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆ มากกว่าเก้าอี้ในออฟฟิศ แต่แน่นอนว่า ในความเป็นจริงเราคงทำแบบนั้นไม่ได้ เลยต้องมีไอเท็มแก้ง่วงมาเป็นตัวช่วยระหว่างวัน ซึ่งเราได้รวบรวม 10 ไอเท็มพิชิตความง่วงมาฝาก!!
และถ้าใครเคยประสบปัญหาง่วงนอนระหว่างทำงาน หรือตื่นมาแบบไม่สดชื่นเหมือนกัน แล้วมีไอเท็มเจ๋งๆ อยากจะแชร์เพิ่มเติม ก็แวะมาป้ายยากันได้เลยนะ
ลูกอมโกปิโก้
ลูกอมรสกาแฟจากอินโดนีเซีย เจ้าของเดียวกับขนม Choki-choki และ beng-beng ที่เราคุ้นเคย นอกจากรสขมจนทำให้เราหลับไม่ลงแล้ว โกปิโก้ยังมีคาเฟอีนอยู่ในลูกอมด้วย (โกปิโก้ 4-5 เม็ดมีคาเฟ่อีน = เอสเปรสโซ่ 1 แก้ว) เลยเหมาะจะพกติดกระเป๋าในวันที่เราแวะซื้อกาแฟไม่ทันและอยากเคี้ยวอะไรเพลินๆ ระหว่างทำงาน
ราคา : 50 บาท/ชิ้น (350 กรัม)
ฮาร์ตบีท ลูกอมผสมเกลือกลิ่นมะนาว
ลูกอมซองเขียวที่คว้าใจมนุษย์อออฟฟิศด้วยรสเปรี้ยวเคี้ยวกรุบสู้กับเปลือกตาที่กำลังจะปิดลงในตอนบ่าย และถ้าเห็นตัวอักษรบนซองแวบแรก บางคนอาจนึกว่าเป็นลูกอมจากประเทศญี่ปุ่นหรือเปล่า แต่จริงๆ แล้วเป็นแบรนด์ฮาร์ตบีทของไทยที่เราคุ้นเคย ส่วนชื่อบนซองรับรองว่าคนญี่ปุ่นอ่านแล้วงงแน่นอน เพราะเป็นคำว่า ‘Lime Salt’ ชื่อรสภาษาอังกฤษนั่นเอง
ราคา : 25 บาท/ชิ้น (100 กรัม)
สารัช มะขามจี๊ดจ๊าด
สารัชคือแบรนด์ผลไม้แปรรูปจากเพชรบูรณ์ที่มีมายาวนานกว่า 40 ปี แต่ไอเท็มแก้ง่วงสุดฮิตของแบรนด์นี้คงจะเป็น ‘มะขามจี๊ดจ๊าด’ ที่มีทั้งรสเปรี้ยว-เค็มจี๊ดจ๊าดสมชื่อ โดยมีทั้งรสดั้งเดิม รสบ๊วย รสเกลือ รสน้ำผึ้งมะนาวแป้น
ราคา : 20-25 บาท / กระปุก
บ๊วยเค็ม ฟูจิพลัม
สำหรับคนไม่ชอบรสเปรี้ยวและไม่ใช่สายคาเฟอีน เราขอแนะนำบ๊วยเค็ม ฟูจิพลัมที่ได้รสเค็มกำลังดี กินไปทำงานไปก็พอจะบรรเทาความง่วงได้ในระดับหนึ่ง และสำหรับคนรักบ๊วย แบรนด์นี้ยังมีบ๊วยอร่อยๆ อีกหลายแบบให้เลือกด้วยนะ
ราคา : 40 บาท/ซอง (100 กรัม)
ซูกัส
แบรนด์ลูกอมที่มีต้นกำเนิดจากสวิตเซอร์แลนด์ นับว่าเป็นคู่หูช่วงน้ำตาลตกและทำให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้ด้วยรสหวานอมเปรี้ยวเคี้ยวหนึบ แถมยังมีหลายกลิ่นให้เลือก (และบางทีก็หายง่วงเพราะมัวโฟกัสกับการเลี่ยงหยิบรสที่ไม่ถูกใจนี่แหละ 555)
ราคา : 14 บาท/ซอง (45 กรัม)
Handy Herb Ener-G
ถ้าใครเป็นสายสุขภาพ พยายามลดน้ำตาล เลี่ยงคาเฟอีน ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งคือ Handy Herb Ener-G อาหารเสริมที่มีสารสกัดจากชาเขียวและใบแปะก๊วย ช่วยเติมวิตามินบี 6 และบี12 ให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นยามเช้า แถมยังหาซื้อแบบซองเล็กๆ ได้ง่ายๆ ตามร้านสะดวกซื้อ (ควรทานหลังอาหารครั้งละ 1-2 แคปซูล และไม่เกิน 1 ซองต่อวัน)
ราคา : 20 บาท/ซอง
กาแฟพร้อมดื่ม
ทางเลือกที่ตอบโจทย์ เมื่อร่างกายต้องการคาเฟอีนแต่กำลังรีบไปทำงานและอยากประหยัดเงินในกระเป๋า ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็เริ่มมีตัวเลือกเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่กาแฟกระป๋องที่เราคุ้นเคย ไปจนถึงกาแฟรูปแบบใหม่ๆ อย่าง Nescafe ที่มีแบบ cold brew หรือ BOSS Coffee จากญี่ปุ่นที่มี Flash Brew ออกมาสู้ (คล้ายกาแฟ Cold Brew แต่วิธีสกัดต่างกันและกาแฟเข้มกว่า)
ราคา : ประมาณ 14-35 บาท
กาแฟเต่าบิน
หนึ่งในแบรนด์เครื่องดื่มที่กำลังมาแรงตอนนี้คงจะเป็น ‘เต่าบิน’ แบรนด์ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นคาเฟ่กับตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติ เหมาะกับคนที่มองหาเครื่องดื่มแบบชง พร้อมเมนูนับร้อยให้เลือกตั้งแต่ชา กาแฟ โกโก้ นม โซดา โดยสามารถเลือกระดับความหวาน เพิ่มช็อตกาแฟ หรือแม้แต่เลือกรับหลอด/ฝาได้ เหมือนมีคาเฟ่ขนาดย่อมที่อยู่เป็นเพื่อนคนทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเลยล่ะ
ราคา : ประมาณ 20-60 บาท
เครื่องดื่มชูกำลัง
ไอเท็มเติมพลังที่เป็นขั้นกว่าของกาแฟ เช่น M-150 กระทิงแดง คาราบาวแดง ฯลฯ มีส่วนผสมหลักคือน้ำตาลและคาเฟอีน รวมทั้งส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยกระตุ้นให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่า เช่น ทอรีน (Taurine) ช่วยกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจและการหดตัวของกล้ามเนื้อ แม้จะเป็นตัวช่วยที่แข็งแกร่ง แต่ก็ควรเลี่ยงการดื่มเป็นประจำ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
ราคา : 10 บาท
Bewell Premium Nap Pillow
สุดท้ายถ้าไม่มีวิธีไหนที่ได้ผลจริงๆ ‘การนอน’ คงจะเป็นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดมากที่สุด แต่แน่นอนว่าเราคงพกเตียงถือหมอนไปนอนที่ออฟฟิศไม่ได้ เลยมีแบรนด์ที่ทำหมอนงีบออกมาตอบโจทย์คนง่วงในออฟฟิศอย่าง ‘Bewell Premium Nap Pillow’ หมอนสำรับงีบที่ใช้ได้หลายฟังก์ชัน ไม่ว่าจะหยิบมางีบแบบเนียนๆ ได้โดยไม่ปวดแขน หรือจะใช้พิงหลัง วางแขนระหว่างทำงานก็ได้เหมือนกัน
ราคา : 690 บาท
อ้างอิงข้อมูลจาก