มีสามคนก็ดีอยู่แล้ว จะมีสี่คนทำไม
พอทางการ์ตูนเน็ตเวิร์คประกาศเซอร์ไพรส์แฟนๆ ว่า สามสาวพาวเวอร์พัฟฟ์เกิร์ลส์กำลังจะมีสมาชิกใหม่ แฟนๆ จำนวนหนึ่งก็ออกอาการไม่ยอมรับน้องคนใหม่ หลายคนกดแองกรี้ แสดงความเห็นไปต่างๆ ว่า มีสามคนก็ดีอยู่แล้วจะมีอีกคนมาทำไม พาวเวอร์พัฟมันต้องมีน้องสามคน มีบลอสซัม บัตเตอร์คัพกับบับเบิลส์ แค่นี้ก็พอแล้ว สมบูรณ์แล้ว เป็นแบบนี้มาเกือบ 20 ปี
สงสารน้อง อย่าว่าน้อง แต่อย่างว่า ด้วยความที่เราเติบโตมากับการ์ตูนพาวเวอร์พัฟฟ์ แฟนๆ ก็อยากจะเก็บความทรงจำไว้กับตัวว่า พาวเวอร์พัฟฟ์มันต้องเป็นแบบนี้ มีน้องแค่สามคนสิ แต่ในอีกด้านผู้ผลิตเองก็คงอยากจะให้ซีรีส์นี้มันมีต่อไป มีพาวเวอร์พัฟฟ์ที่สร้างความทรงจำใหม่ๆ มีน้องคนใหม่มาสร้างเรื่องราวกันต่อ แถมการพูดถึงน้อง Bliss สมาชิกใหม่นี่ก็ดูจะเป็นการหมุนไปตามโลกด้วยเพราะน้องเป็นวัยรุ่น เป็นผิวสี ซึ่งดูจะทำให้พาวเพอร์พัฟฟ์มีเนื้อหาที่เติบโตไปตามยุค…เพราะพาวเวอร์พัฟฟ์เองก็ดูจะพูดถึงพลังหญิงและเชื่อมโยงกับกระแสเรื่องผู้หญิง-สตรีนิยมมาตั้งแต่แรก
3 is a magic number
ประเด็นหลักที่แฟนๆ ไม่พอใจกับการเปิดตัวน้องคนใหม่น่าจะอยู่ที่ว่าแฟนๆ อยากรักษาความทรงจำของตัวเองเอาไว้ ตอนที่การ์ตูนเน็ตเวิร์คประกาศจะทำพาวเวอร์พัฟฟ์รีบูทในปี 2016 (หลังจากภาคแรกจบสมบูรณ์ไปในปี 2005) แฟนๆ จำนวนหนึ่งก็ออกมาบอกว่า โอ๊ย ไม่โอเคเลย ตำนานพาวเวอร์พัฟฟ์มันจบไปแล้ว มันควรจะเป็นความทรงจำวัยเด็ก ไม่ควรจะถูกเอามาทำซ้ำอีกต่อไป พอมาล่าสุดมีน้องคนใหม่ ที่โอเค ดูเป็นฮีโร่สาวผิวสีที่น่าจับตา แฟนๆ ก็ยังบอกว่า จะมีฮีโร่แบบนี้ก็ได้ แต่ไปสร้างซีรีส์ใหม่ๆ สิ ไม่ใช่พาวเวอร์พัฟฟ์
ถ้าไม่นับเรื่องความทรงจำที่เราอยากแช่แข็งสามสาวไว้ในจินตนาการตลอด การที่ทีมมีสมาชิกสามคนก็ดูเป็นจำนวนที่มีความหมายทางวัฒนธรรมดีอยู่แล้ว ในทางวัฒนธรรม-และศาสนา เลขสามเป็นเลขที่เราพบได้บ่อย มักเป็นตัวแทนของเอกภาพ ความครบถ้วนสมบูรณ์ในตัวเอง ในขณะที่ถ้าบอกว่ามีสี่ มีอีกคนก็ดูจะขาดๆ เกินๆ ไปหน่อย
สามหรือสี่ก็เป็นเรื่องของความรู้สึกเนอะ เรามี Fantastic Four ก็ยังได้ ถ้ามองในมุมของผู้ผลิต การผลิตเรื่องใหม่ๆ และตัวละครใหม่ๆ ก็ถือเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวให้กับตัวซีรีส์ ไม่ได้เป็นตำนานที่ตายไปแล้ว หรือเป็นอดีตและความทรงจำเท่านั้น แถมการสร้างสามสาวเองก็ดูจะอิงกับกระแสสตรีนิยม เป็นการสร้างฮีโรผู้หญิงในการ์ตูนยุคแรกๆ ซึ่งในปัจจุบันเองทางผู้สร้างก็คงอยากจะปรับและปรุงเรื่องราวของสามสาวให้สอดคล้องกับกระแสของยุคสมัย
พาวเวอร์พัฟฟ์ไม่ได้มีแค่ความกุ๊กกิ๊ก เรื่องจริงจังในฮีโร่สาวน้อย
มีงานเขียนและงานศึกษาจำนวนมากที่บอกว่าเฮ้ย พาวเวอร์พัฟฟ์นี่พูดเรื่องพลังผู้หญิง ก่อนนี้ไม่เห็นจะมีการ์ตูนที่วาดภาพผู้หญิงและพลังผู้หญิงออกมา
บทความวิชาการชิ้นหนึ่งจาก Monash University ตั้งข้อสังเกตว่าพาวเวอร์พัฟฟ์น่าจะเกี่ยวข้องและเป็นผลจากกระแสสตรีนิยมที่เฟื่องฟูในขณะนั้น คือในยุคนั้นเราเริ่มให้ความสนใจกับผู้หญิง พลังผู้หญิง และความหลากหลายของผู้หญิง สามสาวพาวเวอร์พัฟฟ์เป็นการจินตนาการถึงฮีโร่หญิงที่มีพลังสามอย่าง เป็นตัวแทนของพลังผู้หญิงสามแบบ
บทความชิ้นนี้ตั้งข้อสังเกตว่าฮีโร่ที่เป็นเด็กหญิงนี้ไม่ได้เรือนร่างทรวดทรงองค์เอว แต่เป็นเด็กหญิงที่มีพลังและใช้ ‘ความรุนแรง’ ในรูปแบบบของตัวเอง เด็กหญิงจากส่วนผสมทั้งสามจึงเป็นเสมือนตัวแทนพลังของผู้หญิงที่แตกต่าง บลอสซัมเป็นตัวแทนของการใช้สมอง คอยควบคุมการใช้กำลังและความรุนแรงต่างๆ บับเบิลส์ส่วนผสมหลักคือน้ำตาล เป็นตัวแทนของความสุขและเสียงหัวเราะ – ถึงกระนั้นก็มีพลังรุนแรงที่แฝงอยู่ และบัตเตอร์คัพ สาวผมดำสุดเฟียร์ซที่พร้อมจะบู๊ได้ตลอดเวลา – ส่วนผสมหลักของเธอคือเครื่องเทศเผ็ดร้อน ซึ่งพลังแบบหญิงๆ นี้ก็ถือเป็นลักษณะที่เฉพาะ และตีความออกมาจากลักษณะพิเศษของเพศหญิง
ดังนั้น การสร้างพัฟฟ์ใหม่ในปี 2017 เลยเป็นการเสนอประเด็นจริงจังที่ร่วมสมัยตามขึ้นมา สำหรับสาวน้อย Blisstina Francesca Francia Mariam Alicia Utonium เองก็ดูจะมี ‘ข้อความ’ จริงจังแฝงอยู่ Bliss เป็นสมาชิกผิวสี วัยรุ่น สีม่วงที่เป็นสีหลักก็เป็นสีของ ‘Bunny’ สมาชิกคนที่สี่ถูกสร้างขึ้น แต่โผล่มาตอนเดียวก่อนจะคลุ้มคลั่งและพังพินาศไปในตอนจบ คล้ายๆ ปีศาจในเรื่องแฟรงเกนสไตน์
การปรากฏตัวของบลิซ และการใช้สีเดียวกับบันนี่ เป็นการพูดถึงประเด็น ‘ครอบครัว’ ที่ศาสตราจารย์เองก็สร้างสิ่งที่ ‘มีปัญหา’ และต้องจัดการแก้ไขขึ้นมา เจ้าโมโจ โจโจ้ตัวร้ายในภาคดั้งเดิมไปจนถึงบันนี่เองต่างก็เป็นผลผลิตที่เกิดขึ้นจากห้องทดลองของแกแล้วไปทิ้งๆ ขว้างๆ ไว้ ท้องเรื่องเดิมของบลิซเองก็ทำนองเดียวกัน คือเป็นสิ่งที่ศาสตราจารย์สร้างไว้ก่อนที่จะมีสามสาว แต่พี่แกไม่สามารถจัดการพลังตอนที่บลิซอารมณ์อ่อนไหวได้ บลิซเลยต้องหายตัวไปก่อนที่จะกลับมาสู่ครอบครัวอีกครั้งในตอน Power of Four ตอนล่าสุด ถึงเวลาที่ศาสตราจารย์ต้องจัดการกับผลผลิตของตัวเองและปัญหาในครอบครัวบ้างแล้ว