ระยะหลังดูเหมือนว่าปัญหาเรื่องการกลั่นแกล้งที่รุนแรงหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ นึกภาพว่าการกลั่นแกล้งนั้น แน่นอนว่าตัวบุคคลและวัฒนธรรมของทั้งครูและนักเรียนเป็นสิ่งสำคัญในการต่อต้านการกลั่นแกล้ง แต่ถ้าเราลองนึกภาพของโรงเรียน บรรยากาศและลักษณะทางกายภาพของพื้นที่นั้นก็เป็นสิ่งที่ส่งเสริมพฤติกรรม หรืออำนวยให้เกิดการกลั่นแกล้งรังแกเลวร้ายลง นึกภาพของโถงทางเดินมืดๆ ภาพของห้องล็อกเกอร์ มุมตึกหรือพื้นที่รกร้างลับตาในโรงเรียนล้วนเป็นพื้นที่ที่ส่งเสริมความรุนแรงได้ทั้งสิ้น
แนวคิดเรื่องว่าพื้นที่รอบๆ ตัวเราส่งผลกับพฤติกรรมเป็นเรื่องได้รับการยอมรับ ในแง่สถาปัตยกรรมเช่นสถาปัตยกรรมของโรงเรียนและห้องเรียน จากที่อาจจะเคยเน้นเรื่องประสิทธิภาพ คือจุนักเรียนได้เยอะๆ ลงทุนไม่มาก ใช้พื้นที่คุ้มค่า เมื่อการกลั่นแกล้งนั้นรุนแรงขนาดส่งผลถึงการสูญเสียที่นำกลับมาไม่ได้ สถาปนิก นักออกแบบ รวมถึงนักการศึกษาก็เลยทบทวนพื้นที่ของโรงเรียน
งานศึกษาในปี 2012 ระบุว่า สภาวะแวดล้อมหรือ build environment นั้นทำให้การกลั่นแกล้งรังแกกันทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ในความหมายทั่วไปก็มีกระแสเรื่องการออกแบบเช่นในอังกฤษ มีประเด็นและแนวทางที่ใช้แนวคิดเรื่องการออกแบบที่ดีเข้ามาใช้ร่วมออกแบบโรงเรียน โดยมีความเชื่อว่าการออกแบบที่ดีนำไปสู่พฤติกรรมและการเรียนรู้ที่ดี
แน่นอนว่าการกลั่นแกล้งเป็นกระแสที่หลายภาคส่วนให้ความสำคัญและร่วมกันแก้ไข เมื่อมีข้อสังเกตว่าตึก อาคารและห้องเรียนอันเป็นบรรยากาศสำคัญที่ทำให้การกลั่นแกล้งเกิดขึ้นได้ ก็มีหลายสตูดิโอหรือหลายบริษัทเข้ามาร่วมใช้ความรู้เพื่อแก้ปัญหา สตูดิโอ HMC Architects จากสหรัฐเป็นหนึ่งในสตูดิโอที่ทำงานกับพื้นที่โรงเรียนเป็นสำคัญก็เป็นหนึ่งในสตูดิโอทางสถาปัตยกรรมที่ร่วมออกแนวทางการออกแบบโรงเรียนเพื่อต้านการกลั่นแกล้ง
กระทั่งบริษัท Dunhams บริษัทด้านสุขภัณฑ์และห้องน้ำผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบห้องน้ำขนาดใหญ่ก็มีการทำการศึกษาและหาทางออกจากงานออกแบบ โดยบริษัทสุขภัณฑ์จากอังกฤษนี้ระบุว่าการกลั่นแกล้งมักเกิดในห้องน้ำ และนักเรียนหญิง 40% ไม่เข้าห้องน้ำที่โรงเรียน และเด็กชาย 12% ยอมรับว่าเกิดเรื่องแย่ๆ ในห้องน้ำโรงเรียน ดังนั้นทางบริษัทก็เลยร่วมกับสถาบันการศึกษาและออกแบบเป็นห้องน้ำต้นต้านการกลั่นแกล้งต้นแบบขึ้นที่ Ormiston Denes Academy
ความน่าสนใจของแนวทางการออกแบบเพื่อลดการกลั่นแกล้งนั้นส่วนใหญ่ก็จะสอดคล้องกับงานออกแบบพื้นที่ที่ดี ทั้งเรื่องแสง เรื่องการมองเห็น ที่สำคัญคือการออกแบบโดยคำนึงถึงความหลากหลายเพื่อให้โรงเรียนนั้นเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเด็กทุกคน
ลดจุดอับ เน้นการมองเห็นที่ทั่วถึง
เรื่องแย่ๆ มักเกิดขึ้นในจุดอับ จุดบอด การกลั่นแกล้งก็เช่นกัน อันนี้พูดถึงกรณีทั่วไปที่ครูไม่ได้เป็นคนกลั่นแกล้งซะเองเนอะ งานออกแบบห้องเรียนและโรงเรียน ซึ่งจริงๆ รวมถึงงานออกแบบที่ดีทั่วไปด้วย จึงจะต้องเน้นเรื่องการมองเห็น ทำให้ทั้งครู เจ้าหน้าที่อื่นๆ มองเห็นกิจกรรมต่างๆ ที่ดำเนินไปได้โดยตลอด ไม่มีพื้นที่ลับตาให้นักเรียนทำเรื่องที่เสียหายต่อกัน
หน้าต่างขนาดใหญ่
โรงเรียนที่มืดๆ มักนำไปสู่บรรยากาศที่น่ากลัว ดังนั้นห้องเรียน หรือห้องใดใดในโรงรียนที่เน้นการติดตั้งหน้าต่างขนาดใหญ่จึงช่วยสร้างบรรยากาศเชิงบวกในหลายระดับ ทั้งในการนำสายตาของครูออกไปสู่พื้นที่นอกอาคารเช่นลานกว้าง หรือมุมตึก ตลอดจนหน้าต่างบานใหญ่นี้ยังนำแสงธรรมชาติเข้าสู่อาคาร เชื่อมต่อพื้นที่ธรรมชาตินอกอาคาร ให้ความรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
แสงที่มีความนุ่มนวลขึ้น
นึกภาพห้องเรียนแบบคลาสสิก แสงของฟลูออเรสเซสต์ทำให้บรรยากาศห้องเรียนกระด้าง การออกแบบให้โรงเรียนมีความสว่างเพียงพอ ตลอดจนปรับโทนของแสงให้เหมาะสมและเพียงพอส่งผลกับบรรยากาศที่ตึงเครียดของพื้นที่ห้องเรียนลง เพิ่มความรู้สึกปลอดภัยให้กับนักเรียน
การสร้างพื้นที่ที่หลากหลาย
โรงเรียนมักออกแบบและสร้างด้วยลักษณะที่เหมือนๆ กัน แต่ในระยะหลังการออกแบบรวมถึงกระแสเรื่องความหลากหลายชี้ให้เห็นว่า ความไม่หลากหลายของพื้นที่ในโรงเรียนทำให้เด็กๆ รู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นการออกแบบพื้นที่ที่มีความแตกต่างจึงจะไปสัมพันธ์กับการสร้างความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นที่ปลอดภัยของเด็กๆ ที่มีลักษณะที่แตกต่างกัน อาจจะมีพื้นที่สำหรับเด็กที่ชอบเก็บตัว ไม่ได้เก่งกีฬา หรือมาจากหลากหลายภูมิหลัง เท่านี้โรงเรียนก็จะโอบรับเด็กๆ ได้ครบถ้วนมากขึ้น
ห้องน้ำต้านการกลั่นแกล้ง
อ้างอิงจากห้องน้ำต้นแบบจากบริษัท Dunhams ข้อมูลระบุว่าการกลั่นแกล้งมักเกิดขึ้นในห้องน้ำเพราะเป็นที่ลับตา การออกแบบห้องน้ำแบใหม่ที่ลดการเป็นจุดอับของห้องน้ำลง ตัวห้องน้ำน้ำก็จะใช้รูปทรงเหลี่ยม มีการนำเอาอ่างล้างมือเป็นอ่างล้างมือรวมไว้ที่โถงทางเดิน เน้นออกแบบอ่างล้างมือรวมนี้ให้แข็งแรงและเหมาสมขึ้น มีการลดขนาดห้องสุขาลงเพื่อลดพื้นที่ส่วนตัว ทั้งยังออกแบบให้เป็นห้องน้ำที่ไม่ระบุเพศ เข้าถึงได้โดยง่าย ลดพฤติกรรมเชิงลบ และลดการทำลายทรัพยสินลง ความพิเศษของงานออกแบบนี้คือการให้เด็กๆ อยู่ร่วมในกระบวนการออกแบบด้วย เช่นเลือกแบบ เลือกสี เพื่อให้รู้สึกว่าเป็นห้องน้ำของตัวเองและร่วมใช้ได้โดยอย่างปลอดภัย
สุดท้ายแล้วภาพรวม ในที่สุดตามแนวทางการออกแบบโรงเรียนเช่นแนวทางของทางอังกฤษก็พูดเรื่อง Good design ที่แน่นอนว่างานออกแบบโรงเรียน- ห้องเรียนที่ดีโดยรวมนั้นนำไปสู่พฤติกรรมและการเรียนรู้ที่ดี การออกแบบพื้นที่ทั้งแสง ระบบป้องกันเสียง การใช้พื้นที่ที่มีความยืดหยุ่น อุณหภูมิที่พอเหมาะ การระบายอากาศที่เหมาะสม สีสันและการออกแบบที่ทำให้เด็กๆ รู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่โดยเสมอกันนั้นก็เลยเป็นส่วนส่งเสริมพฤติกรรมและการเรียนรู้ที่ดี เป็นโรงเรียนที่นักเรียนรู้สึกปลอดภัย แต่แน่นอนว่าในที่สุดพฤติกรรมการกลั่นแกล้งและใช้ความรุนแรงก็ต้องเป็นวัฒนธรรมร่วมของพื้นที่เรียนรู้อันสำคัญกว่าสถาปัตยกรรมและงานออกแบบ
อ้างอิงข้อมูลจาก