จะหมดปีแล้ว ใครยังไม่มีคู่ เทคโนโลยีอาจจะช่วยท่านได้ Facebook ดินแดนออนไลน์ที่เราชาวไทยแทบทุกคนใช้ชีวิตอยู่กับไทม์ไลน์ วันนี้เปิดฟังก์ชั่นสำหรับการหาคู่แล้ว เปิดแอพฯ แล้วกดไปที่ไอค่อนรูปหัวใจและเตรียมรับผู้คนใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตกัน
จากการปัดซายปัดขวาในทินเดอร์ ตอนนี้เฟซบุ๊กเริ่มทดลองเปิดระบบหาคู่ ให้ผู้ใช้จำนวนมหาศาลได้จับคู่ชู้ชื่น ทางเฟซบุ๊กได้เริ่มทำการทดลองระบบหาคู่ครั้งแรกในประเทศโคลอมเบียเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และในวันนี้—เดือนพฤศจิกายน—ทางเฟซบุ๊กทำการขยายประเทศทดสอบมาที่แคนาดาและไทยแลนด์แดนบ้านเราด้วย
ถ้ามองว่าเฟซบุ๊กเป็นที่ที่มีผู้ใช้อยู่หลัก 52 ล้านคน เรียกได้ว่าน้อยมากที่คนไทยคนไหนจะไม่มีเฟซบุ๊ก การมีระบบเดทขึ้นมาจึงเป็นการเพิ่มช่องทางประสบการณ์การสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ ในโอกาสนี้ The MATTER ชวนมาดูระบบโลกของการเดทเบื้องต้น แถมด้วยกลเม็ดเคล็ดวิชาในการสร้างโปรไฟล์เดทของเราให้เป๊ะปัง เตะตาต้องใจ ได้ไปต่อดีๆ ไม่มีนก จะเขียนโปรไฟล์ยังไง ใช้รูปเซลฟี่ดีไหม ใช้รูปอะไรบ้างดี ทักคำแรกว่าอะไร นานแค่ไหนถึงเจอหน้า แค่ไหนถึงนานนมเกินไป
Pass — Interested — Conversation
ระบบของ Facebook Dating เบื้องต้นไม่ค่อยแตกต่างกับแอพฯ เดทออนไลน์อื่นๆ มากนัก พอกดเข้าไปที่ไอคอนรูปหัวใจก็จะมีการให้สร้างโปรไฟล์ของเราขึ้นมาใหม่ มีให้เลือกรูป กรอกข้อความแนะนำตัว ให้เลือกว่าจะเปิดเผยข้อมูลอะไรบ้าง สร้างโปรไฟล์เสร็จก็เตรียมออกลุย
หลักๆ แล้วเฟซบุ๊กจะเลือกคนที่มีเพื่อนร่วมกันกับเรา แต่ก็แปลกดีคือ คนที่ปรากฏขึ้นมาจะไม่ใช่คนอยู่ในวงจรชีวิตใกล้ชิดขนาดนั้น ที่หน้าแนะนำก็จะคล้ายๆ การปัดซ้ายปัดขวาในทินเดอร์ แต่ใช้คำว่า ‘ข้าม’ (Pass) หรือ ‘สนใจ’ (Interested) แทน ทีนี้การแสดงความสนใจก็ไม่ใช่สนใจเปล่า ทางเฟซบุ๊กจะบังคับให้เรามีบทสนทนากับคนนั้นไปเลย ต้องส่งข้อความอะไรสักอย่างไป
ด้วยความที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กมีจำนวนมหาศาล ระบบที่เก๋มากคือการไปหาคนน่าสนใจผ่านกรุ๊ปและผ่านอีเวนต์ต่างๆ ที่อยู่ร่วมกัน เช่น คุณอาจจะชอบเดินป่าก็มักจะอยู่กลุ่มเดินป่า ชอบกล้อง ชอบเล่นเกม ตรงนี้สามารถทำให้เราพบปะและพัฒนาความสัมพันธ์กับใครสักคนที่มีความสนใจร่วมกัน
ณ เวลาปัจจุบัน ระบบเดทในเฟซบุ๊กสามารถใช้ได้แล้วทั้งใน iOS และ Android เบื้องต้นผู้ใช้พบว่า ในระบบ Android ทางแอพฯ จะมีการห้ามแคปหน้าจอเอาไว้ คงจะเอาไว้ป้องกันการเอาไปเมาท์และเอาไปฟ้องชาวบ้าน แต่ใน iOS มีรายงานว่าสามารถแคปได้จ้า
Profile – Online Identity
เราต่างอยู่ในโลกของการแข่งขันเนอะ ข้อที่เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกันของแอพฯ เดทคือความง่ายและความรวดเร็ว เราสามารถ ‘เจอ’ ผู้คนได้แค่ปลายนิ้วปัด ในไม่กี่วินาที เราสามารถปัด-กดผ่านชายหนุ่มหญิงสาวสุดฮอตไปได้นับสิบคน และในทางกลับกัน เราเองก็ไปปรากฏผ่านสายตาใครคนอื่นและมีเวลา ‘เตะตา’ คนเหล่านั้นแค่ในเวลาไม่กี่วินาที
แอพฯ เดทจึงเป็นทั้งพรและคำสาป ตัวตนของเราจะถูกกวาดตามองและตัดสินผ่านแค่เพียงหน้าโพรไฟล์ของเรา ผ่านรูปไม่กี่รูป ข้อมูลไม่กี่ตัวอักษร แต่โลกก็เป็นแบบนี้เนอะ เราก็ต้องเล่นไปตามเกม ดังนั้นกฎข้อแรกคือ ห้ามขี้เกียจและมีความคิดสร้างสรรค์ บางคนไม่เขียนอะไรเลยในหน้าโปรไฟล์ คนก็งงและว่าแล้วเราจะรู้จักเธอได้ยังไง ทีนี้จะเขียนโปรไฟล์ของเรายังไงก็เป็นเทคนิคเฉพาะของแต่ละคน จะทำยังไงให้ไม่น่าเบื่อ ไม่พูดตรงๆ ว่าเป็นคนยังไง เช่น ถ้าเราเป็นคนตลกเขียนว่าเป็นคนตลกจ้าก็อาจจะพอได้ แต่ถ้าเขียนอะไรที่คนอ่านแล้วอมยิ้ม หรืออยากทำความรู้จักอันนี้ได้ใจไปเลยตั้งแต่หน้าโปรไฟล์
ใช้รูปอะไรดี เซลฟี่ดีไหม
ออกตัวก่อนว่า เคล็ดวิชาทั้งหมดไม่ได้มีกฎตายตัว แต่เป็นการเรื่องของการนำเสนอตัวตนในโลกออนไลน์ผ่านภาพและภาษา ทีนี้ในโลกมัลติมีเดีย ภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ง่ายสุดในการเลือกไปต่อหรือไม่ไปต่อ เชื่อว่าเกือบทั้งหมดดูจากภาพทั้งหลายที่เราโพสต์ลงไปก่อนเป็นหลัก
คำถามแรก เราควรใช้รูปเซลฟี่ไหม ข้อคิดเห็นนี้ค่อนข้างหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่ให้ความเห็นตรงกันว่ารูปหลักรูปแรกไม่ควรเป็นรูปเซลฟี่ แต่ด้านในจะมีรูปเซลฟี่ในนั้นด้วยก็ไม่น่าเกลียด ส่วนหนึ่งการที่เราลงรูปที่มีการถ่ายอย่างจริงจังทำให้โพรไฟล์ของเราดูจริงจังมากกว่าการจะมีรูปเซลฟี่เป็นรูปแรก และรูปเซลฟี่ด้านในก็อาจจะลองเลือกฟิลเตอร์ดีๆ เป็นธรรมชาติ ลองนึกดูว่าเราเองเวลาเห็นภาพเผลอๆ เรามักจะรู้สึกว่าคนคนนั้นดูน่ารักเป็นธรรมชาติ ถ้าเป็นภาพที่ตั้งใจถ่าย แต่งอย่างดีก็จะมีความหมายถึงความตั้งใจ รสนิยม
อ้อ แล้วก็อย่าอัพรูปขึ้นโปรไฟล์แค่รูปเดียว คนเขาก็อยากเห็นหลายๆ มุมเนอะ
จัดการกับพิพิธภัณฑ์ตัวตน
การเลือกภาพของเราในโปรไฟล์เดทก็เหมือนกับการที่เราคัดเลือกตัวตนของเราในแง่มุมต่างๆ มาเล่าเรื่องราวสังเขปให้คู่เดทในอนาคตของเราดู ดังนั้นถ้าเรามีแต่รูปเซลฟี่เป็นพรืดๆ บางทีเหมือนถ่ายต่อๆ กัน สามสี่ภาพเหมือนกันหมด แบบนี้คนดูก็ไม่เข้าใจอะไรมากขึ้นเกี่ยวกับตัวเรา แถมยังไม่ค่อยสวยงามและหลากหลาย
ดังนั้น เราอยากให้อีกฝ่ายรับรู้เราในแง่มุมไหนบ้าง รูปภาพของเราเป็นสิ่งที่พอจะให้ข้อมูลได้ เป็นภาพตัวเราที่สดใสซาบซ่า อยากบอกว่าเราชอบเดินทาง เราเคยไปไหนมาบ้างแล้ว ภาพที่เกี่ยวกับการศึกษา กิจกรรมต่างๆ ปีนเขา วิ่งออกกำลัง เดินป่า พายเรือ อ่านหนังสือ ทำอาหาร ทั้งหมดนี้นอกจากจะดึงความสนใจแล้ว ยังสามารถนำไปสู่บทสนทนาที่งอกงามได้
มีงานศึกษาของทินเดอร์บอกว่า คนส่วนใหญ่จะเลือกใช้ภาพที่ตัวเองใส่เสื้อผ้าสีเรียบๆ เช่น ดีดำ สีพื้น สีขาว และสีเทา ดังนั้นเลยแนะนำว่าถ้าอยากจะโดดเด้งเตะตา อาจจะลองเลือกรูปที่ใส่เสื้อผ้าสีสดใส และงานศึกษาในปี 2016 บอกว่า การใส่หมวกหรือแว่นตาดำในภาพมีโอกาสที่จะโดนปัดข้าม 15%
เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวอยู่คนเดียว
เคล็ดลับพิเศษในการใช้รูปคือ ถึงจะเป็นโปรไฟล์ของเรา ใช่ว่าจะมีรูปคนอื่นในนั้นไม่ได้ การใส่รูปเรากับคนอื่น(ที่ไม่ใช่แฟนเก่า)ลงไป เช่น เรากับแม่ เรากับครอบครัว เรากับเพื่อน จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับเรามากขึ้น ทำให้เราดูน่ารัก มีมิติมีความสัมพันธ์ที่หลายหลาย
รูปคู่กับคุณแม่เป็นหนึ่งไม้ตายลับ ข้อมูลจาก The League อีกหนึ่งแอพฯ เดทออนไลน์บอกว่า ผู้ใช้ที่มีรูปคู่กับคุณแม่อย่างน้อย 1 รูป มีโอกาสได้แมตช์มากกว่าคนที่ไม่มีอยู่ที่ 7% และการโพสต์ภาพกับกลุ่มเพื่อนที่ดูสบายๆ หรือกำลังมีความสุขกันก็จะยิ่งทำให้ตัวเราดูมีชีวิตชีวาและน่าดึงดูดมากขึ้น นอกจากนี้การโพสต์ภาพกับน้องหมา กับสัตว์ต่างๆ สำหรับบางคนอาจจะได้คะแนนพิเศษไปเลย แหม ใครๆ ก็ชอบเนอะ หนุ่มสาวรักสัตว์ จิตใจดี อบอุ่น
ดีจ้า! แมตช์แล้วชวนคุยยังไงให้ไปต่อได้เรื่อยๆ
แมตช์แล้ว กับบางคนนี่อย่างเขินเลย มีงานศึกษาบอกว่าการคุยเรื่องสัพเพเหระ ลมฟ้าอากาศอาจไม่นำไปสู่อะไร—คือไม่นำไปสู่การเรียนรู้และหยั่งรากความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันเท่าไหร่ คำถามที่ดีจึงเป็นคำถามที่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายและตัวเราได้เปิดเผยและเรียนรู้ตัวตนซึ่งกันและกัน นำไปสู่บทสนทนาคุณภาพที่ไม่รู้จบ
Celeste Headlee บอกกับเว็บไซต์ Bustle.com ถึงคำถามดีๆ เวลาที่เราตันไว้ 12 ข้อ หลักๆ แล้วก็เป็นคำถามชวนคุยที่นำไปสู่การแลกเปลี่ยนความคิด เช่นว่า ชอบทำอะไรช่วงวันหยุด เคยไปที่ไหนมาบ้าง ชอบที่ไหนมากที่สุด ตื่นมาแล้วชอบทำอะไร หลักๆ คำถามพวกนี้นอกจากจะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น ยังเป็นการแอบถามไลฟ์สไตล์เผื่อไว้สำหรับการเดทด้วย ส่วนตัวเห็นว่ามีคำถามหนึ่งที่ค่อนข้างโรแมนติกคือถามเรื่องเพลงที่ฟังอยู่ ถ้าปะเหมาะเจอคนที่รสนิยมเหมือนกัน ก็ถือโอกาสส่งเพลงกลับ ชวนฟังเพลงเดียวกันไปพร้อมๆ กัน เคยมีงานวิจัยบอกว่าคนที่มีรสนิยมทางเพลงในทางเดียวกันมีแนวโน้มจะมีความสัมพันธ์ที่ไปต่อได้
ในฟังก์ชั่นเดทของเฟซบุ๊กเองก็จะมีส่วนที่ให้เราตอบคำถามสั้นๆ คำถามที่แสดงทัศนคติ ตัวตน และเป็นการหาจุดร่วมระหว่างเรากับอีกฝ่ายด้วย จริงๆ คำถามง่ายๆ เช่น ชอบหมาหรือแมว ภูเขาหรือทะเล ก็ถือว่าเป็นคำถามที่ชวนให้มารู้จักแลกเปลี่ยนตัวตนกันที่น่ารักดี
คุยนานแค่ไหนถึงนัดเจอ
การนัดเจอคนแปลกหน้าในโลกออนไลน์ถือเป็นเรื่องที่ต้องระวังพอสมควร เอาเป็นว่าถ้าคนที่คุยด้วยอยู่ในย่านที่พบปะกันได้สะดวก ปลอดภัย การเจอหน้ากันอย่างเร็วที่สุดเท่าที่สองฝ่ายจะสะดวกก็ถือเป็นแนวทางที่ดี เพราะการคุยกันตัวเป็นๆ ย่อมดีกว่าการคุยแค่ในโลกออนไลน์ การที่คนสองคนสามารถจัดเวลา นัดหมาย มาใช้เวลาเดทกันจริงๆ ได้ ก็ถือเป็นจุดเริ่มของการพัฒนาความสัมพันธ์
สำหรับบางคู่ที่ระยะทางอาจจะเป็นอุปสรรค ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า การคุยแต่ในโลกออนไลน์ประมาณ 6 สัปดาห์ถือว่าค่อนข้างนานเกินไปแล้ว ถ้าระยะทางไม่อำนวยจริงๆ ก็ควรลองย้ายมาคุยในช่องทางที่มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น เช่น คุยผ่านเสียง ผ่านสไกป์
แต่อนุสติสำคัญคือ ความสัมพันธ์ใดๆ จะเป็นความสัมพันธ์จริงๆ ไม่ได้เลย ถ้าเราไม่ได้เจอตัวจริง
อ้างอิงข้อมูลจาก