หลายคนๆ อาจรู้จักเขาในฐานะ ‘ลูกชายบิ๊กจ๊อด’ แต่หากค้นประวัติของเขาดูดีๆ จะพบว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ หรือ ‘บิ๊กแดง’ ผบ.ทบ.คนใหม่ มีอะไรมากไปกว่าการเป็นทายาทของหัวหน้า รสช. เป็น ‘ดาวฤกษ์’ ที่มีแสงในตัวเอง ไม่ใช่แค่ ‘ดาวเคราะห์’ ที่เติบโตทางราชการทหาร โดยอาศัยบารมีของบิดาเท่านั้น
หากค้นข่าวเก่าๆ ชื่อของ อภิรัชต์ เริ่มเป็นข่าวในหน้าสื่อบ่อยครั้งขึ้น เมื่อบิดา พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีต ผบ.สส. เสียชีวิต ด้วยโรคมะเร็งปอด เมื่อปี 2542 ปิดตำนาน ‘นายพลเสื้อคับ’ เจ้าของวาทะ “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” ไว้เบื้องหลัง
เหตุที่ชื่อของอภิรัชต์ต้องออกสื่อบ่อยๆ ในช่วงนั้น ก็มาจากปัญหาการฟ้องร้องแย่งมรดกของบิ๊กจ๊อด กว่า 3,900 ล้านบาท ระหว่างมารดา คุณหญิงอรชร คงสมพงษ์ กับ อัมพาพันธ์ ธเนศเดชสุนทร ภรรยาใหม่ของบิ๊กจ๊อด ที่ทำให้อภิรัชต์ซึ่งขณะนั้นมียศเป็นพันโทต้องมาให้สัมภาษณ์บ่อยครั้ง แต่เจ้าตัวยืนยันว่า “ไม่สนใจเรื่องมรดกมาก แค่อยากปกป้องศักดิ์ศรี หากไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เคยเขียนว่า อภิรัชต์มีพ่อจ๊อด เป็น idol อยากเป็นทหาร และนักบินของกองทัพบกเหมือนพ่อ และก็ทำได้สำเร็จ ก่อนจะมาเติบโตในฐานะทหารราบ สาย ‘วงศ์เทวัญ’ พูดง่ายๆ คือเป็นทหารเมืองกรุง อยู่ในค่ายทหารใน กทม. ไม่เหมือนกับสาย ‘บูรพาพยัคฆ์’ ที่เติบโตในค่ายทหารในภาคตะวันออก
ที่สำคัญ เขาถือเป็นนายทหารสายวงศ์เทวัญคนแรกที่ได้เป็น ผบ.ทบ. ในรอบ 15 ปี นับแต่ พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ ได้เป็น ผบ.ทบ. ระหว่างปี 2541 – 2546
แต่ใช่ว่า อภิรัชต์จะรู้จักแต่บุคคลในแวดวงทหาร เขายังรู้จักคนกว้างขวางหลากหลวงวงการ หนึ่งในนั้นชื่อ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ซึ่งเขาเรียกอย่างสนิทสนมว่า เดวิส และบอกว่า “ความเป็นเพื่อนมันห้ามกันไมได้”
อีกฐานะที่คนมักพูดถึงเขาก่อนหน้านี้ ก็คือการเป็นสามีของ ดร.อ้อ กฤษติกา ศิริจรรยา พิธีกรรายการกำจัดจุดอ่อน ที่เคยโด่งดังเมื่อกว่า 20 ปีก่อน
สำหรับประวัติส่วนตัวอย่างย่นย่อ
– อภิรัชต์ ชื่อเล่นแดง เกิดเมื่อวันที่ 23 มี.ค.2503 เป็นบุตรของ พล.อ.สุนทร-คุณหญิง อรชร คงสมพงษ์
– จบการศึกษาจาก รร.เซนต์คาเบรียล ต่อ รร.เตรียมทหาร รุ่นที่ 20 รร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) รุ่นที่ 31 เทียบเท่าปริญญาตรี และไปต่อปริญญาโท MBA ที่ Southeastern University สหรัฐฯ จากนั้นก็เข้าอบรมหลักสูตร รร.เสนาธิการทหารบก วิทยาลัยเสนาธิการทหาร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 57
– สมรสครั้งแรกกับอมฤดา อมฤต มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ ร.อ.พิรพงษ์ คงสมพงษ์ และ ร.ท.พญ.อมรรัชต์ คงสมพงษ์ ก่อนจะหย่าขาดและไปสมรสกับ ดร.อ้อ กฤษติกา ศิริจรรยา อาจารย์ประจำสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, อดีตพิธีกรรายการเกมโชว์กำจัดจุดอ่อน ทางช่อง 3
– ตอนที่ อภิรัชต์ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. (ซึ่งตอนนี้เว็บไซต์เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินเข้าดูไม่ได้แล้ว เพราะอยู่ระหว่างปรับปรุง) กรณีเข้ารับตำแหน่ง สนช. เมื่อปลายปี 2557 เขาแจ้งว่ามีทรัพย์สินกว่า 123.7 ล้านบาท
– ทรัพย์สินที่น่าสนใจของอภิรัชต์ ก็คือรถยนต์หรู ที่มีหลายคันหลายยี่ห้อ อาทิ Range Rover (2 คัน) BMW (2 คัน) Jaguar (1 คัน) และ Porsche (1 คัน)
ส่วนเส้นทางการเติบโตในฐานะทหาร (เฉพาะที่สำคัญ)
– ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ปี 2543 – 2545) *ติดยศ พันโท
– ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ปี 2550 – 2554) *ติดยศ พันเอก
– ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 (ปี 2555 – 2556) *ติดยศ พลตรี
– ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 (ปี 2556 – 2557)
– ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ปี 2557)
– รองแม่ทัพภาคที่ 1 (ปี 2557 – 2558)
– แม่ทัพน้อยที่ 1 (2558 – 2559) *ติดยศ พลโท
– แม่ทัพภาคที่ 1 (ปี 2559 – 2560)
– ผู้ช่วย ผบ.ทบ. (ปี 2560 – 2561) *ติดยศ พลเอก
– ผบ.ทบ. (ปี 2561 – 2563?)
เส้นทางอาชีพในตำแหน่งอื่นๆ
หลังรัฐประหารเมื่อปี 2557 เขายังได้รับแต่งตั้งให้มีตำแหน่งสำคัญอีกหลายตำแหน่ง สิ่งที่หลายๆ คนน่าจะคุ้น ก็คือการแก้ไขปัญหาหวย 80 บาท
ตำแหน่งที่อภิรัชต์เข้าไปทำหน้าที่มีดังนี้
1.) สนช. (ปี 2557 – ปัจจุบัน) มีรายได้รวม 5.3 ล้านบาท
2.) บอร์ด บมจ.บางจากปิโตรเลียม จำกัด (ปี 2557 – 2561) มีรายได้รวม 7.1 ล้านบาท
3.) ที่ปรึกษาสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ปี 2557 – ปัจจุบัน) ไม่มีข้อมูลเรื่องรายได้
4.) ประธานบอร์ดสำนักงานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (ปี 2558 – ปัจจุบัน) มีรายได้เฉลี่ยปีละ 3 แสนบาท
นี่คือเส้นทางการเติบโตของ ‘บิ๊กแดง’ ผบ.ทบ.คนใหม่ ที่ขึ้นมาคุมกำลังทหารบกกว่า 2 แสนคน ในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไป เป็นครั้งแรกในรอบแปดปี