เน็ตฟลิกมีอนิเมะเรื่องหนึ่งชื่อ ‘Hozuki’s Coolheadedness’ ตัวเรื่องสนุกมากเพราะว่าด้วยยักษ์ที่ทำหน้าที่ดำเนินกิจการภายในนรก ดินแดนหลังความตายที่เด็กๆ เราเคยแสนจะกลัว ในเวอร์ชั่นอนิเมะและมังงะนี้เป็นการตีความความเชื่อและตำนานต่างๆ ของญี่ปุ่น (และของที่อื่นๆ ด้วย) ขึ้นมาใหม่ เป็นภาพนรกที่… ไม่เชิงว่าน่ารัก แต่เอาเป็นว่าชวนหัวและดูสนุกดี
ทีนี้พอดูๆ ไปก็พบว่า นรกของญี่ปุ่นก็มีความเป็นตะวันออก สัมพันธ์กับความเชื่อแบบพุทธและอีกหลายๆ ความเชื่อเป็นนรกเฉพาะตัว ความสนุกของเรื่องอยู่ที่การได้เห็นลักษณะทางกายภาพของนรก คนที่ทำงานที่นั่น การบริหารจัดการที่ก็ว่าเอ้อ การจะรันพื้นที่สำหรับคนบาปเป็นจำนวนมากมายไม่รู้จบมันน่าสนใจดี
ด้วยว่าพื้นที่ของนรกเป็นพื้นที่ที่สำคัญในมิติทางวัฒนธรรมและความเชื่ออย่างยิ่งยวด นรกของไทยเองที่มีรากฐานมาจากความเชื่อแบบพุทธก็เลยดูจะเป็นพื้นที่ๆ เราน่าเข้าไปสำรวจ ไปทัวร์เผื่อว่าใครที่อยากจะรู้ว่าเรานี่จะได้ไปพบเพื่อนที่ไหน หรือเตรียมตัวเตรียมใจไปอย่างไรดีนะ ก็อาจจะอ่านเตรียมพร้อมไปได้ก่อน
The MATTER จึงขอชวนเปิดทัวร์นรกในฉบับดิจิทัล ที่แต่เดิมนั้นคัมภีร์สำคัญที่พูดถึงพื้นที่นรกจะมีไตรภูมิพระร่วง พระนิพนธ์เก่าตั้งแต่สมัยสุโขทัย ในวรรณคดีและคัมภีร์โบราณจริงๆ มีการไปทัวร์นรกหลายครั้ง นอกจากพระมาลัยแล้ว ในชาดกอันเป็นเหมือนเรื่องเล่าย่อยๆ ในทศชาติชาดก 10 พระชาติสุดท้ายก่อนเสด็จมาเป็นพระพุทธเจ้านั้นก็มีพระเนมิราช
พระชาติลำดับที่ 4 ที่ก็ได้พระอินทร์พาไปทัวร์นรกเพื่อลบความกังขาในการทำความดี นรกที่เราคุ้นเคยอันประกอบด้วยกระทะทองแดงและต้นงิ้วนั้น นอกจากงานสำคัญๆ เช่น ขายหัวเราะหรือโฆษณาพิภพมัจจุราชแล้ว จินตนาการเรื่องนรกของเราก็สามารถสืบกลับไปยังคัมภีร์แก่และความเชื่อที่สถิตสถาพรอยู่ในเอเชียกลายที่หลั่งไหลถ่ายเทมาจนถึงแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา
สัณฐานของนรกแบบไตรภูมิ นรกร้อนใต้ดิน
อ้างอิงตามจักรวาลแบบไตรภูมิ ที่มีภูเขาพระสุเมรอยู่ตรงกลาง รอบๆ สี่ทิศมีทวีป 4 ทวีปตั้งอยู่สี่ทิศ ของเราชมพูทวีปอยู่ทิศใต้ ซึ่งในคัมภีร์บอกว่านรกอยู่ใต้แผ่นดินของเรา
จริงๆ นรกมีสองโลเคชั่นหลักๆ คืออยู่ลึกลงไปใต้ดิน นรกหลักมีแปดชั้น หน้าตาเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีประตูเข้าสี่ทิศพร้อมฝาปิด นรกแปดชั้นนี้จะอยู่ซ้อนกัน เริ่มจาก สัญชีพนรก อยู่บนสุด ไล่ลงไปที่มหาอวิจินรกที่อยู่ล่างสุด ทีนี้ที่แปลกคือคัมภีร์ทางพุทธของเราจะไม่อธิบายนรกใหญ่อันนี้ แต่จะไปพูดถึงนรกบริวาร 16 ขุมที่อยู่รอบๆ นรกใหญ่
นรกใหญ่แต่ละชั้นจะมีนรกบริวารของตัวเอง (และมีย่อยลงไปอีกนับไม่ถ้วนเพื่อรองรับความต้องการของคนบาป) ในตำราอธิบายนรกบริวาร 16 ขุมของนรกชั้นบนสุดคือสัญชีพนรก ทำนองว่านี่เบาสุดและนะ ก็ย่ำแย่มากๆ นอกจากนรก 8 ขุมใหญ่บวกนรกยิบย่อยที่อยู่ใต้ดินแล้ว เรายังมีโลกันตนรกที่เราได้ยินกันบ่อยๆ แต่จริงๆ โลกันต์ถือเป็นนรกพิเศษ คืออยู่นอกจักรวาล เป็นนรกเย็น ไม่ร้อน พวกใต้ดินคือร้อน ตามคำอธิบายคือพื้น ผนังเป็นเหล็กแดง
กล่าวโดยสรุปคือนรกแบบพุทธทางเถรวาทของเราใช้วิธีเล่าอ้อมๆ คือพูดถึงนรกเลเวลน้อยๆ โทษไม่หนักแต่ก็หนักมาก แถมเน้นย้ำว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกคน เป็นที่น่าสังเกตว่านรกหลักทั้ง 8 ชั้นนั้นจะมีอธิบายในคัมภีร์มหายานมากกว่าทางของบ้านเรา
กระบวนการเข้าสู่นรก
การตรวจคนเข้าเมืองของนรกแบบพุทธไทย ในพื้นที่นรกแน่นอนว่าต้องมีออฟฟิศ และมีพญายมราชเป็นผู้ดูแล พญายมราชมีเมืองของตัวเอง จุดเด่นของพญายมราชคือความเที่ยงธรรม ตัดสินบาปบุญของผู้ตายอย่างเที่ยงธรรม พญายมราชมีเลขาเป็นเทวดา 4 องค์ ทำหน้าที่ถือบัญชีบุญและบัญชีบาป
ขั้นตอนเมื่อมาถึงนรกแล้ว เราก็จะเข้าสู่การไต่สวนโดยพญายมราช โดยเราจะมีบัญชีบุญบาปเป็นของตัวเอง บัญชีบุญจะจารึกในแผ่นทองคำวางไว้บนแท่นทอง ส่วนบัญชีบาปทำจากหนังหมา ขั้นตอนการไต่สวนคือเราจะถูกถามถึงบุญกรรมที่ทำไว้ บุญในบัญชีทองคำก็จะจำได้ ส่วนพวกบาปกรรมทั้งหลายจะนึกไม่ออก ถึงเวลาเทวดาจะเอามาอ่านให้ฟัง ให้สำนึกอับอายกันไป แน่นอนว่าตรงนี้คัดกรองคนถ้าทำความดีมาก็จะขึ้นสวรรค์ ทำชั่วก็บ๊ายบาย
ยมบาลกับโครงการคนละครึ่ง
ทีนี้ ปกติถ้าเราเข้าเมืองทั่วๆ ไปเป็นประชากรก็เข้าแล้วคัดแยกไปเนอะ แต่นรกภูมิมีความพิเศษคือ การคัดเลือกนี้เราอาจจะได้รับการจ้างงาน ได้ทำหน้าที่เป็นยมบาล ทำงานให้นรกไปด้วยเลย
ในกรณีที่ว่าเฮ้ย เป็นพวกกลางๆ ทำบุญและบาปมาเท่าๆ กัน ตรงนี้ดวงวิญญาณนั้นก็จะได้รับสิทธิพิเศษ จัดจ้างเป็นยมบาล โดยความตรงกลางนี้ทำให้ดวงวิญญาณนั้นจะได้เป็นยมบาล 15 วัน ซึ่งใน 15 วันนี้ทำงานไปด้วย แต่ก็มีสมบัติและเสวยสุขเหมือนกับเทวดา ในขณะที่อีกกะหนึ่ง อีก 15 วันที่เหลือก็ตกนรกใช้กรรมไปจนกว่าจะหมดกรรม
ตรงนี้ก็ดูเหมือนจะตอบคำถามว่าแล้วเจ้าพนักงานในนรกมาจากไหน มีการจัดจ้างอย่างไร สวัสดิการดีมั้ย ก็ตามนี้ ในคัมภีร์กล่าวว่าครึ่ง 15 เสวยสุขนั้นเรียกได้ว่ารับสวัสดิการเต็มขั้นเท่ากับดวงวิญญาณบนสวรรค์ มีดาวบริวาร มีทรัพย์สมบัติทิพย์
ไพตรณี นรกไตรกีฬา
ด้วยความที่อ้างอิงจากทางพุทธแบบไทย ดังนั้นนรกที่เราคุ้นๆ จะไม่เกี่ยวกับนรกใหญ่ แต่จะเป็นนรกย่อยที่อยู่ในชั้นบนสุด เวตรณีแปลว่าข้ามลำบาก จุดเด่นของนรกนี้คือแม่น้ำ ลักษณะโดยรวมคล้ายๆ รายการทาเคชิแคซเซิลคือจะมียมบาลถืออาวุธไล่ตี ตีๆ ไปก็ต้องวิ่งหนีลงน้ำ
ในแม่น้ำก็เป็นเหมือนด่านหฤโหด เริ่มต้นจากมีกอต้นหวายที่ใหญ่โตมหึมาเท่าหลังคาปราสาท แถมเป็นเหล็กแดง ถ้าใครรอดจากเครือหวายไปได้ก็จะเจอกับด่านใบบัวสังหาร ตัวใบบัวนั้นมีเปลวไฟลุกอยู่ตลอดเวลา แถมใบบัวก็คมกริบ
สำหรับน้ำในแม่น้ำนี้นอกจากจะเค็มจัดทำให้แสบร้อนยิ่ง บางมียังมีเซอร์ไพรส์คือลุกเป็นไฟได้ พวกหัวหมอดำน้ำนานๆ ใต้น้ำก็มีดาบแทงขึ้นมา นานๆ ก็เกิดคลื่นพัดขึ้นลงให้ยิ่งบาดเจ็บจากสารพัดคมมีด
บาปที่ทำ : เป็นพวกที่ชิงข้าวของจากคนที่อ่อนแอกว่า
สุนักขนรก กับหมา 4 สีและสรรพสัตว์
ถือเป็นจุดร่วมทางวัฒนธรรม พูดถึงนรกก็ต้องมีหมา จะสามหัว หัวเดียว ในนรกญี่ปุ่นก็มีหมา บ้านเราก็มีนรกหมาตามชื่อสุนักขนรก นรกนี้เป็นนรกสรรพสัตว์ที่มีสุนัขเป็นเครื่องทรมานหลัก
ในนรกนี้จะมีหมา 4 จำพวก 4 สี ประกอบด้วยหมาสีขาว แดง ดำ และสีเหลือง หมาแต่ละตัวนั้นจะใหญ่เท่าช้าง นอกจากหมาแล้วยังมีหน่วยโจมตีทางอากาศเป็นแร้งและกาที่ระบุว่าตัวเท่าเกวียน แน่นอนว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนมีฟันมีเล็บเป็นเหล็กแดง ทำหน้าที่ไล่งับ จิกกัดทรมานลงโทษกันวนไป
บาปที่ทำ : คนที่กล่าวร้ายนักบวชและครูอาจารย์
โลหกุมภีนรก นรกหม้อไฟ
โลหกุมภี แปลว่าหม้อเหล็ก อันนี้น่าจะเป็นหนึ่งในต้นแบบภาพการลงโทษในนรกแบบลงหม้อ ในโลหกุมภนรกก็ตามชื่อเลยคือเป็นนรกที่มีหม้อใหญ่ ในหม้อจะมีโลหะละลาย
คนบาปจะถูกยมบาลจับเท้าแล้วเอาหัวจุ่มลงชาบูๆ ในหม้อร้อนนั้น ในนรกบ่าวมีนรกหม้อสองนรกที่คล้ายกัน ข้างต้นคือโลหกุมภีท่านว่าเอาไว้ลงโทษพวกที่ทำร้ายนักบวช ขุมถัดมาคือโลหกุมภนรก มีหม้อเหมือนกันแต่ในนรกขุมหลังการลงโทษคือเอาลวดเหล็กรัดคอแล้วโยนหัวลงไปทอดในหม้อยักษ์ ขุมหลังท่านว่าเอาไว้ลงโทษพวกฆ่าสัตว์หรือรัดคอสัตว์จนตาย
บาปที่ทำ : ทำร้ายนักบวชและผู้มีศีล
โลหสิมพลี ต้นงิ้วในตำนาน
โลหสิมพลี ตามชื่อเลยก็ต้นงิ้วเหล็ก นรกบริวารลำดับ 13 นี้ถือเป็นนรกแบบยูนิเซ็กซ์ คือมีทั้งชายหญิงตกอยู่ในนรกเดียวกัน (ขุมอื่นไม่ค่อยระบุเพศ) นรกขุมนี้ถือเป็นอีกไอคอนของนรกในจินตนาการของบ้านเรา
นรกขุมนี้ค่อนข้างดรามาติก มีการออกแบบการลงโทษที่ เอ้อ มีเรื่องราว คือแน่นอนในนรกจะมีต้นงิ้วเหล็กที่มีหนามเป็นไฟ หนาวนั้นยาวตั้ง 16 นิ้วมือ บนต้นงิ้วหนึ่งต้นก็จะประกอบด้วยชู้รัก โดยชู้นั้นจะแยกกันอยู่คนละฝั่งของต้นงิ้วคือโคนบ้าง ยอดบ้าง ถึงเวลายมบาลก็เอาหอกแทงว่าเอ้อ ขึ้นไปหาชู้บนนู้นสิ พอปีนขึ้นไปสุดชู้ที่เคยอยู่บนยอดต้นงิ้วก็ลงมาอยู่ที่โคนต้น เตรียมปีนขึ้นไปหาชู้ที่อยู่บนยอดวนเวียนไม่รู้จบ
บาปที่ทำ : คบชู้
อวิจีนรก นรกชั้นล่างสุดของนรกใต้ดิน
นรกอเวจี หรือมหาอเวจีนรกถือเป็นนรกที่ฮ็อตฮิตใครๆ ก็กล่าวถึง อเวจีถือเป็นนรกใหญ่ขุมสุดท้ายลำดับที่ 8 คืออยู่ในลำดับลึกที่สุด ความเจ็บปวดทรมานของนรกใหญ่ลำดับสุดท้ายด้านหนึ่งในไตรภูมิค่อนข้างใช้เป็นความเปรียบ
คืออธิบายนรกรอบๆ นรกใหญ่ชั้นที่1หรือชั้นบนสุดให้ฟัง แล้วบอกว่าชั้นอื่นๆ แย่กว่านี้เยอะมาก พอมาถึงอเวจี โดยภาพรวมไม่มีคำอธิบายมากในแง่ลักษณะการทรมาน แต่จะพูดถึงการถูกไฟนรกเผา สำหรับคนที่ทำบาปหนัง 5 ประการที่เรียกว่าอานันตริยกรรม คือมาตุฆาต (ฆ่าแม่) ปิตุฆาต (ฆ่าพ่อ) อรหันตฆาต (ฆ่าพระอรหันต์) โลหิตุปบาท (ทำให้พระพุทธเจ้าห้อเลือด) และสังฆเภท (ทำสงฆ์ให้แตกแยก)
สิ่งที่จะถูกอธิบายในนรกนี้คือความยาวนาน คือนรกยิ่งลึก ยิ่งอยู่นาน ใครตกอเวจีต้องอยู่นานสุดคือ 1 กัลป์ ซึ่ง กัลป์นี้เป็นห้วงเวลาที่ยาวนานที่สุดเท่ากับอายุจักรวาลๆ หนึ่ง นับเป็นหน่วยวัดไม่ได้ โดย 1 กัลป์นั้นนานขนาดไหน ท่านก็อธิบายในเชิงอุปมาว่า ถ้ามีภูเขา 1 ลูก สูง 1 โยชน์ กว้าง 3 โยชน์ ในทุกๆ 100 ปีจะมีนางฟ้าเอาผ้าที่อ่อนนุ่มเหมือนควันไฟกวาดภูเขาเขา เมื่อกวาดจนถูเขาราบเป็นหน้ากลองแล้วก็นับเป็น 1 กัลป์
ทีนี้ 1 กัลป์จริงๆ 1 วงจรของจักรวาล จะเกิดการรีเซ็ตจักรวาลคือมีไฟไหม้จักรวาลทั้งหมด คนก็ช่างถามว่าเอ้อ แล้วถ้าตกนรกนี้แบบกลางๆ กัลป์ รับโทษไม่หมดพอไฟล้างโลกมาแล้วจะรอดไหม ท่านก็ไม่ นรกนี้พิเศษ ขนาดไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ทั้งจักรวาลก็จะมีลมบาปวิเศษพัดเอาคนบาปให้พ้นจากไฟล้างโลก พอล้างเสร็จก็พัดกลับมาทิ้งไว้ในนรกเหมือนเดิม
บาปที่ทำ : ปัญจานันตริยกรรม
โลกันตนรก
โลกันตนรกถ้านับเลเวลความบาปถือว่าน้อยกว่าอเวจี แต่บาปก็หนักพอกัน โลกันตนรกถือเป็นนรกพิเศษที่อยู่นอกไปจากนรกหลักใต้ดินหรือนรกร้อน โลกันตนรกเรียกง่ายๆ ว่านรกเย็น ในด้านจักรวาลวิทยาแบบพุทธลักษณะจักรวาลประกอบด้วยภูเขา มีเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลาง สัณฐานโดยรวมเป็นทรงกลม ที่ขอบจักรวาลมีกำแพงจักรวาลกั้นไว้
ทีนี้คำว่าโลกันต หมายความว่านรกที่อยู่ขอบของโลก คืออยู่นอกกำแพงจักรวาลออกไป ในไตรภูมิอธิบายว่าจักรวาลที่เป็นทรงกลมนึกภาพเหมือนฝาชี แล้วเอาฝาชีวางต่อกัน ช่องว่างของวงกลมนั่นแหละคือที่อยู่ของโลกันตนรก
ดังนั้น โลกันตนรกก็เลยไม่มีไฟ แถมอยู่นอกสารบบ ตัวนรกโลกันต์นี้จึงเป็นนรกแห่งความมืดมิดและความหนาวเหน็บเพราะเป็นที่ๆ แสงของพระอาทิตย์ส่องไม่ถึง ที่ด้านล่างของนรกจะมีน้ำเย็นที่เลี้ยงจักรวาลไว้ ด้านบนเป็นพรหมโลก ความพิเศษของที่นี่คือความมืดสนิท ท่านว่ามืดเหมือนกับเราหลับตาในคืนเดือนมืด
คอนดิชั่นพิเศษของนรกโลกันต์นี้ใน 1 กัลป์จะเกิดแสงขึ้นเพียง 5 ครั้ง สัมพันธ์กับการลงมาเกิดของพระพุทธเจ้าในกัลป์นั้นๆ คือเมื่อพระโพธิสัตว์เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดุสิตลงมาปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา เมื่อเสด็จประสูติออกจากครรภ์ เมื่อทรงตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า เมื่อทรงแสดงปฐมเทศนา และเมื่อเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ในเหตุการณ์ 5 ครั้งนี้ในโลกันต์นรกจะเกิดแสงขึ้นแวบหนึ่งทำให้ขาวนรกมองเห็นกันได้ แสงนั้นจะแวบขึ้นเหมือนดีดนิ้วแล้วดับไป สำหรับแสงในครั้งแสดงปฐมเทศนาจะสว่างนานกว่าครั้งอื่นๆ เล็กน้อย
สำหรับชาวโลกันตนรกนี้จะมีลักษณะเล็บและมือเหมือนค้างคาว ใช้ชีวิตโดยการเกาะอยู่ที่กำแพง ถึงเวลาก็ไต่สุ่มๆ ไปเพราะมือ พอมือไปโดนกันก็จับกันกิน กินเสร็จบางทีเหนื่อยก็ร่วงตกลงไปในน้ำร่างแหลงสลาย พอตายลงก็เกิดขึ้นเกาะที่เขากำแพงจักรวาลวนเวียนไปไม่รู้จบ สำหรับโลกกันตนรกนี้เป็นที่สำหรับคนทำบาปหนักคือทำร้ายพ่อแม่นักบวชและยุยงสงฆ์ให้ผิดใจกัน
บาปที่ทำ : ทำร้ายบิดามารดา นักบวชผู้มีศีล และยุยงให้สงฆ์แตกแยก
อ้างอิงข้อมูลจาก