ช่วงนี้กระแสเรื่องขำขันกำลังมาแรง ทั้งงานนิทรรศการ ไหนจะตัวร้ายหลักคือ Joker ในภาพยนตร์ Suicide Squad ที่กำลังจะมาถึง แถมเรื่องออนไลน์ทั้งหลายก็เต็มไปด้วยเรื่องตลกๆ คลิปฮาๆ
จริงรึเปล่า ที่เรามักชอบคนตลก…อันนี้หมายถึงว่าชอบในแง่โรแมนติก หรือแม้แต่ตัวร้ายอย่าง Joker ก็เป็นตัวละครสุดแสบที่มีคนจัดอันดับว่าเป็นตัวร้ายที่ยอดเยี่ยมตลอดกาล
หรือความตลกและความร้ายกาจจะเกี่ยวข้องกัน แถมความตลกร้ายๆ ลึกๆ แล้วเป็นสิ่งที่มันน่ารัก?
ผลิต/ขำ/น่า/รัก?
คำตอบจากนักจิตวิทยาบอกว่า ‘จริง’ เอ้าคนโสดและสายนก (แปลว่าพวกจีบชาวบ้านแล้วเจ๊งประจำ) ฟังทางนี้ มีรายงานวิจัยจำนวนมากที่ไปในทางเดียวกันคือความตลกหรือการเป็นคนมีอารมณ์ขันเป็นสิ่งที่ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวมองหาเวลาที่จะสานสัมพันธ์กับใคร มีการสำรวจนักศึกษาวิทยาลัยพบว่า 90% ของหนุ่มๆ และ 81% ของหญิงสาว บอกว่าการมีอารมณ์ขันเป็นหนึ่งในคุณลักษณะสำคัญที่วัยรุ่นเหล่านี้มองหาเวลาที่จะคบหากับใครๆ
ประเด็นสำคัญของการมีอารมณ์ขันคือ คนเรามักจะมองว่าคนที่ตลกและมีอารมณ์ขัน มักเป็นสัญญาณว่าคนๆ นั้นมีความเฉลียวฉลาดในระดับหนึ่ง คำว่าฉลาดในแง่ของการเป็นคนตลก ที่มันฟังดูแบบ เอ้อ เป็นคนตลกดีเนอะ แต่ถ้าลองนึกดีๆ การที่เราจะตลกได้ มันต้องมีองค์ประกอบเยอะมาก คนที่จะตลกได้อย่างมีคุณภาพต้องเป็นคนที่มีทั้ง ‘ความรู้’ และไหวพริบ นึกดูว่าคนที่จะมีเรื่องตลกมาเล่าได้เยอะๆ ต้องเป็นคนที่มีความรู้กว้างขวางในระดับหนึ่ง แถมต้องเป็นคนที่รู้กาละเทศะ เพราะมุกตลกที่มันขำได้ มันอยู่ที่การเล่นกับเส้นแบ่งหรือเรื่องต้องห้ามต่างๆ อย่างพอเหมาะพอควร และความตลกมันอยู่ที่การรู้จังหวะ คือมุกที่มันจะขำต้องอาศัยเวลาและโอกาสที่เหมาะสม แถมคนตลกยังดูเป็นที่รักของคนอื่นๆ เพราะคนตลกคือคนที่ชอบทำให้คนอื่นมีความสุข เป็นคนที่ส่งผ่านอารมณ์บวกออกมาให้กับคนรอบข้าง ฟังดูดีเนอะ
![wallpaperswide.com](https://thematter.co/wp-content/uploads/2016/07/minion_laught-t2.jpg)
wallpaperswide.com
ผลิต/ขำ/ทำ/พัง?
ไหนจั่วหัวว่าเป็นเรื่องร้าย อย่างที่บอกไปว่ามุมมองสมัยใหม่เรามองว่าอารมณ์ขันเป็นคุณสมบัติที่ดี แต่ถ้าเราสำรวจไปที่ความคิดสมัยก่อน การมีอารมณ์ขันถือเป็นเรื่องงี่เง่าและห่วยแตก ถือเป็นลักษณะที่ไม่ดีของมนุษย์ เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์พัง
ตั้งแต่ยุคกรีกจนถึงราวๆ ศตวรรษที่ 20 พวกนักคิดคนสำคัญทั้งหลายต่าง ทั้งเพลโต ฮ็อบ หรือเดอร์การ์ต่างบอกว่าการหัวเราะหรืออารมณ์ขันมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เป็นสิ่งที่ต้องงดเว้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าการหัวเราะถูกเชื่อมโยงกับมิติของอารมณ์ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง และการหัวเราะก็มักเอาไปโยงกับการหัวเราะเยาะ
พวกนักปรัชญาที่เน้นการใช้เหตุผลก็จะมองว่าการหัวเราะเองก็เป็นเหมือนการปะทุของอารมณ์อย่างรุนแรง (และทำให้การใช้เหตุผลหายไป) ในขณะเดียวกันการหัวเราะก็ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นด้วย คือเราหัวเราะก็เพราะเยาะหยันหรือเรารู้สึกดูถูกคนหรือยินดีต่อเรื่องราวความวิบัติหายนะของใครคนใดคนหนึ่ง
จริงๆ ไอ้เรื่องตลกที่มันมีความรุนแรง หรือการเอานักแสดงมาแต่งตัวหรือขายความพิกลพิการ มันก็เป็นความตลกที่ถูกวิจารณ์ สิ่งที่นักคิดที่ต่อต้านอารมณ์ขันพูดก็มีส่วนถูกอยู่บ้าง ซึ่งตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องระมัดระวัง
ไอ้ตลกที่กลายเป็นเรื่องที่คนรับไม่ได้ จริงๆ น่าจะเกิดจากการที่ความตลกมันล้ำเส้นจนเกินไป ถ้าเรามองว่าความตลกโดยรวมคือการล้ำเส้น แต่ต้องเป็นการล้ำเส้นอย่างเหมาะสมและชาญฉลาด
กลับไปที่รากเหง้าของมุกตลก ตัวตลก หรือ Jester เป็นที่มาของคำว่ามุกตลกหรือ Joke โดยรวมเดาว่านักปรัชญาคงคิดถึงพวกตัวตลกในราชสำนักทั้งหลาย ตัวตลกในราชสำนักเป็นตำแหน่งที่…ดูเผินๆ แล้วอาจจะดูน่าเศร้า เพราะดูเป็นตำแหน่งที่น่าจะงี่เง่า ต้องแต่งตัวพองๆ โง่ๆ เดินไปเดินมาให้สมาชิกในราชสำนักหัวเราะเยาะ
แต่ลองนึกถึงพื้นที่ในราชสำนักเป็นพื้นที่ของอำนาจและกฏระเบียบ บุคคลแต่ละคนต้องอยู่ในตำแหน่งที่แน่นอนตายตัว มีวิถีปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด จะเดิน กิน นั่ง หรือพูดจาอะไรก็ต้องทำตามระเบียบแบบแผนและฐานันดรของตน คือถ้ามองเข้าไปเราจะเห็นโครงสร้างอำนาจบางอย่างอย่างชัดเจน ใครอยู่สูงต่ำ ใครทำอะไรได้ไม่ได้ คือแม้แต่กษัตริย์และราชินีที่น่าจะอยู่สูงสุดของโครงสร้างอำนาจ จริงๆ แล้วก็ยังต้องอยู่ในแบบแผนประเพณีบางอย่าง มีอะไรที่ทำได้และทำไม่ได้คอยจำกัดอยู่
แต่ ตำแหน่งที่ดูเหมือนว่าจะอยู่นอกโครงสร้างอำนาจ แถมยังสามารถล้อเล่นกับไอ้ระเบียบแบบแผนทั้งหลายได้ ก็ไอ้เจ้าตลกหลวงนี่แหละ วันดีคืนดีตลกหลวงก็อาจจะสามารถล้อเล่นกับพระราชาหรือพระราชินีเองได้ พูดง่ายๆ คือ ถ้าเรามองว่าระบบและอำนาจเป็นเรื่องของเหตุผล ตัวป่วนอย่างตัวตลก สิ่งที่ตัวตลกทำได้คือล้อเล่นกับระบบและทำอะไรทั้งหลายไปอย่างไร้เหตุผล
![wikipedia.org](https://thematter.co/wp-content/uploads/2016/07/jester.jpg)
wikipedia.org
ไอ้การป่วนระบบและก็การที่เราไม่อาจเข้าใจตัวตลกได้นี่แหละ เป็นเหตุผลหนึ่งที่หลายคนเอามาอธิบายว่าทำไมตัวละครร้ายอย่างโจ๊กเกอร์ถึงได้ถูกยกย่องว่าเป็นสุดยอดตัวร้ายตลอดกาล(Forbes ก็เอากับเขาด้วย) เพราะพี่แกทำทุกอย่างไปเพื่อความสนุกเป็นหลัก และในที่สุดแล้วเราไม่อาจมองเห็นแรงจูงใจหรือปลายทางที่แท้จริงที่อยู่ภายใต้รอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะนั้นได้เลย
ถ้ามองทักษะของตัวตลก แปลว่าตัวตลกที่ดูโง่เง่าจนเราเรียกว่าเป็น The Fool นั้น ลึกๆ ต้องเป็นคนที่เวรี่ฉลาด เพราะถ้าฉลาดไม่พอ ตลกไม่พอ และร้ายไม่พอ ย่อมเอาตัวรอดจากความเกรี้ยวกราดของอำนาจต่างๆ ไม่รอด คือถ้าจะเล่นมุกแรงๆ ล้อเล่นกับคนที่มีอำนาจ ต้องทำให้คมพอ เจ๋งพอ ขำพอ ไม่งั้นคงโดนเอาไปตัดหัว
![wikia.com](https://thematter.co/wp-content/uploads/2016/07/Why-so-serious-the-joker-3122768-1024-768.jpg)
wikia.com
ตลกร้าย…ก็ดี?
สรุปแล้ว ถ้าเรามองอารมณ์ขันและความตลก ลึกๆ มันก็มีจุดเล็กๆ ที่เราเรียกว่ามันว่าเป็น ‘ความร้าย’ ก็น่าจะได้มั้ง ถ้าเรามองตลกแบบรุนแรงพวกตลกตบหัว มันก็มีความไม่ดีที่รุนแรง แต่ลึกๆ แล้วเราก็ชอบ หรือตลกที่ต้องขบคิดเยอะขึ้นมาหน่อย เช่น พวกตลกเสียดสีหรือตลกล้อเลียน องค์ประกอบที่มันคมๆ ไอ้ความคมคายที่ว่ามันก็น่าจะหมายถึงการไปบาดหรือไปสะกิดวิพากษ์วิจารณ์สิ่งต่างๆ อย่างพอซิบๆ