วาเลนไทน์ปีไหนๆ ช็อกโกแลต ก็ยังเป็นเหมือนคำสารภาพรักแทนใจได้ดี ให้กับเหล่ามวลมนุษยชาติเสมอมา
ด้วยความหวาน หอม และอร่อยถูกใจใครหลายคน ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นหนึ่งในของหวานที่มีชื่อเสียงไปทั่วทุกมุมโลก และยังมีความเป็นมายาวนานหลายพันปี โดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก เมล็ดของต้นคาเคา (cacao) ซึ่งเป็นพืชท้องถิ่นของอเมริกากลางและอเมริกาใต้นั่นเอง
ถึงจะเป็นของหวานที่ฮิตตลอดเวลา แต่ความพิเศษของช็อกโกแลตก็ไม่ได้จางหายไปไหน ในช่วงวันวาเลนไทน์ของทุกๆ ปี หลายคนมักจะเอาช็อกโกแลตมาเป็นสื่อแทนคำสารภาพรักให้ใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็น คนในความสัมพันธ์ คนในแชท หรือคนในความลับก็ตาม
แน่นอนว่า ความรักมันไม่เข้าใครออกใครหร้อก แม้แต่ The MATTER เองก็ตาม (แอร้ย) เราเลยลองไปสำรวจช็อกโกแลต โดยคัดเลือกเอา 5 แบรนด์ ที่ถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดียของผู้คน ตั้งแต่วันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.2020 โดยเลือกจากคำว่า ช็อคโกแลต วาเลนไทน์ สุ่มชื่อช็อกโกแลตแบรนด์ต่างๆ จนออกมาได้ทั้งสิ้น 5 แบรนด์ ได้แก่ KitKat, Royce’, HERSHEY’S, GODIVA และ Ferrero Rocher
แบรนด์ไหนให้แคลอรี่มากที่สุด แบรนด์ไหนละลายก่อน ลองไปดูกัน
ปริมาณน้ำตาล
วาเลนไทน์ทั้งที ก็ต้องเติมความหวานกันหน่อยเนอะ .. แต่ระวังจะกินเยอะไปน้า
จากข้อมูลทางโภชนาการ ที่ติดอยู่ข้างซองกล่อง ข้างซองของแต่ละแบรนด์แล้ว เราลองนำมาเรียงปริมาณน้ำตาล โดยเทียบตามปริมาณ (กรัม) ของแต่ละแบรนด์ไปเลย และผลที่ได้คือ
KitKat: 25% (น้ำหนัก 35 กรัม)
Royce: 26% (น้ำหนัก 125 กรัม)
Hershey’s: 28% (น้ำหนัก 40 กรัม)
Godiva: 48% (น้ำหนัก 40 กรัม)
Ferrero Rocher: 25% (น้ำหนัก 37.5 กรัม)
เห็นตัวเลขกันแบบนี้ ต่อให้จะอยากเติมความหวานกันแค่ไหน แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่พอดี และออกกำลังกายกันด้วยเนอะ
ปริมาณพลังงาน
ตอนเด็กๆ ผู้ใหญ่จะเตือนว่า กินช็อกโกแลตเยอะๆ ระวังฟันผุนะ แต่เดี๋ยวนี้ เรามักจะเตือน (ใจ) ตัวเองว่า กินช็อกโกแลตเยอะๆ ระวังอ้วนนะ
เป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนจะกังวล เพราะโดยปกติแล้ว ช็อกโกแลตเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงมาก สังเกตได้ว่า เวลาเราไปท่องเที่ยวปืนเขา หรือต้องการเติมพลังงานให้ตัวเอง ช็อกโกแลต มักจะเป็นอาหารที่ช่วยกอบกู้พลังงานของเรากลับมาเสมอ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่หลายคนจะกังวลว่า อาจเผลอกินช็อกโกแลตมากเกินพอดีไปได้
เราลองเทียบสัดส่วนของช็อกโกแลตแต่ละแบรนด์ที่คัดสรรมา โดยเริ่มจากการคำนวณเล่นๆ ว่า ถ้าเราคิดช็อกโกแลตแบรนด์เหล่านี้เข้าไป 100 กรัม จะต้องรับกันไปกี่แคลฯ
เมื่อเรียงตามแบรนด์ที่ให้พลังงานมากที่สุด ผลที่ได้ก็คือ GODIVA > KitKat > Ferrero Rocher > Royce’ > HERSHEY’S
ระยะเวลาในการละลาย
ปัญหาที่หลายคนประสบพบเจอจากการซื้อช็อกโกแลตเก็บไว้ (ผิดที่) ก็คือ ละลาย! และหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตที่หลายคนมักเผลอลืมทิ้งไว้ก็คือ ในรถที่จอดทิ้งไว้นั่นเอง
เราเลยลองนำช็อกโกแลตไปวางไว้ในรถ เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ในช่วงฤดูหนาว (ของไทย) ที่อุณภูมิสูง 33 องศาเซลเซียล (หนาวจ้า) ช่วงเวลา 15.00-17.00 น. เพื่อหาคำตอบว่า แบรนด์ไหนละลายไปก่อน
ผลที่ได้ก็คือ Royce’ หรือชื่อเล่นระหว่างการทดลองว่า น้องรอยซ์ ร้อนจนทนไม่ไหวแล้วจ้า เริ่มมีน้ำมันเลอะออกมาก่อนแบรนด์อื่นๆ ตั้งแต่ประมาณ 5 นาทีแรกของการทดลอง และเริ่มคงรูปร่างเดิมไม่ไหว ช่วงประมาณนาทีที่ 21.00 ของการทดลองนั่นเอง
ส่วนแบรนด์อื่นๆ ก็ได้เวเฟอร์ หรือไส้ต่างๆ มาช่วยคงรูปร่างเอาไว้ ทำให้มีเพียงแค่น้ำมันที่ไหลเยิ้มออกมา แต่รูปร่างยังคงเดิมเท่านั้น (แต่ถ้าไปจับ ก็พังเหมือนกัน) โดย HERSHEY’S เริ่มมีคราบน้ำมันในนาทีที่ 11, Ferrero Rocher นาทีที่ 14, KitKat นาทีที่ 15 และ GODIVA ที่น้ำมันเริ่มไหลออกมา ตอนนาทีที่ 21
ดังนั้น ถ้าจะให้ช็อกโกแลตใคร ก็อย่าเผลอวางทิ้งไว้จนช็อกโกแลตละลายไปก่อนนะ
สี
สีแรกที่ใครต่อใครนึกถึง สำหรับช็อกโกแลตก็คือ สีน้ำตาล แต่ช็อกโกแลตไม่ได้มีแต่สีน้ำตาลเท่านั้นหรอกนะ ยังมีสีขาว สีชมพู หรืออื่นๆ อีกมากมายตามการผสมหรือรสชาติของช็อกโกแลตนั้นๆ
ช็อกโกแลตที่เราหยิบมา คือ รสชาติพื้นฐานของแต่ละแบรนด์ ซึ่งเป็นสีน้ำตาลทั้งนั้น แต่ถึงจะเป็นสีเดียวกัน เฉดและโทนของแต่ละสี ก็แตกต่างกันออกไป สีไหนเข้มสุด สีไหนอ่อนสุดกันเอ่ย?
แพคเกจช่วงวาเลนไทน์
แม้ช็อกโกแลตแทนคำสื่อรัก แต่จะให้แบบธรรมดาๆ ก็อาจจะชนะใจใครคนนั้นไม่ได้ ดังนั้น แต่ละแบรนด์เลยมักปรับแพคเกจเฉพาะกิจ ให้ในช่วงวาเลนไทน์ ไม่ว่าจะเป็น Gift boxes สีชมพู ผูกโบว์อย่างดี, พิมพ์ห่อลวดลายเป็นจดหมายให้เราเขียนความในใจลงไป หรือออกรสชาติใหม่พิเศษเฉพาะ เพื่อเพิ่มความพิเศษให้กัน
อ้างอิงจากเว็บไซต์ และการสำรวจตลาด พบว่า แต่ละแบรนด์ออกแพคเกจพิเศษในช่วงวาเลนไทน์ ดังนี้
KitKat: Gift set, พิมพ์ลายบนแพคเกจใหม่ และออกออกรสชาติพิเศษ
Royce’: Gift set และออกออกรสชาติพิเศษ
HERSHEY’S: Gift set และพิมพ์ลายบนแพคเกจใหม่
GODIVA: Gift set และออกออกรสชาติพิเศษ
Ferrero Rocher: ออก Gift set ใหม่
รสชาติ
ออกตัวก่อนเลยว่า ส่วนประกอบของแต่ละแบรนด์แตกต่างกันสุดๆ รสชาติที่ลิ้มรสได้ จึงแตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ดี 5 นักชิมสาวจาก The MATTER ได้อาสากิน และรีวิวแต่ละแบรนด์ เพื่อหาผู้ชนะจากศึกในครั้งนี้
KitKat: จุดเด่นคือ ความหวานที่พุ่งปรี๊ดนำออกมา มีรสชาติของนม ให้ความรู้สึกเหมือนเด็ก เวเฟอร์ตัดความหวานพอช่วยให้หายเลี่ยนได้บ้าง (แต่ก็ไม่มาก) แต่ไม่ค่อยมีความเข้มข้นของช็อกโกแลตมากเท่าไหร่ กลิ่นไม่แสบจมูก
Royce’: กลิ่นช็อกโกแลตผงโชยชัด นุ่มลิ้นกำลังดี ละลายในปาก รสชาติไม่หวานเกินไป มีความเข้นข้นของทั้งผงที่โรยอยู่ แล้วเนื้อช็อกโกแลตที่หนากำลังดี แต่ข้อเสียคือ เละง่าย และเลอะมือ [นักชิมแมทเทอร์โหวตให้ยี่ห้อนี้ 3 จาก 5 คน]
HERSHEY’S: กลิ่นหอมกำลังดี ไม่แรงเกินไป รสชาติเข้มนิดๆ ไม่เลี่ยนมาก แต่ไม่ค่อยมีความเข้มข้นมากนัก เคี้ยวแล้วแตกเป็นเสี้ยวๆ ไม่ละลายในปาก แต่ความบางทำให้กินได้เยอะ
GODIVA: กลิ่นช็อกโกแลตเข้มข้น มีความขมไม่เลี่ยนเกินไป นิ่ม มีเลเยอร์ 2 ชั้น ชั้นนอกกรุบกรอบ ชั้นในเป็นครีมละลายในปาก ไม่หวานมากเกินไป เพราะมีความขมมาช่วยตัดเลี่ยน [นักชิมแมทเทอร์โหวตให้ยี่ห้อนี้ 2 จาก 5 คน]
Ferrero Rocher: กลิ่นถั่วนำช็อกโกแลต ถ้าคนชอบถั่วก็จะชอบมากๆ ความเป็นช็อกโกแลต หรือความเข้มข้นค่อนข้างน้อย รสหวานนำเด่น แต่ได้ส่วนประกอบที่หลากหลายมาช่วยตัดเลี่ยนได้ดี เป็นความหวานที่อร่อย แต่ติดฟัน (กินแล้วต้องบ้วนปากนะ!)
ใครจะเอาช็อกโกแลตไปสารภาพรัก หรือมอบให้ใคร ก็ขอให้สมหวังดั่งใจหมายนะจ้ะ