‘ผู้ชายเอนเตอร์เทน’ งานที่หลายคนใฝ่ฝัน เนื่องจากเป็นงานที่สามารถสร้างรายได้ดีในระเวลาที่สั้นกว่าเมื่อเทียบกับทำงานประจำหรือเป็นพนักงานออฟฟิศทั่วไป รวมไปถึงสำหรับสายเที่ยว สายปาร์ตี้ การที่ได้ไปเที่ยวฟรี ดื่มฟรี แถมยังมีค่าเหนื่อยให้อีก
จึงเป็นแรงดึงดูดให้ผู้ชายหลายคนเข้ามาสู่วงการนี้ ประกอบกับความต้องการในการ ‘ใช้บริการ’ ของผู้บริโภคมีเพิ่มมากขึ้น
แต่ใช่ว่างานนี้จะมีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะมันต้องแลกมาด้วยความปลอดภัยในการทำงาน รวมไปถึงการถูกเหมารวมว่าต้องไปจบลงที่บนเตียง เป็นการขายบริการทางเพศทางรูปแบบหนึ่ง
ผู้เขียนมีโอกาสได้ทำวิจัยเกี่ยวกับ ‘อาชีพ’ นี้ และพบว่ามีหลายมิติที่น่าสนใจ จึงขอหยิบมานำเสนอต่อ
งานเอนเตอร์เทนคืออะไร
‘งานเอนเตอร์เทน’ คือ งานบริการรูปแบบหนึ่ง ซึ่งผู้ให้บริการจะคอยคลายเหงาให้ลูกค้า (ต่างเพศหรือเพศเดียวกัน) ผ่านพาไปการเที่ยว หรือร่วมทำกิจกรรมที่สนุกสนาน ปาร์ตี้ สังสรรค์ ชวนพูดคุยในบทสนทนาที่ดีร่วมกัน และช่วยผ่อนคลายความเครียด เพื่อให้ลูกค้ามีช่วงที่น่าจดจำในระยะเวลาที่ใช้ร่วมกัน
งานเอนฯ เป็นความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่เชิงสามี-ภรรยา ค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวแต่ละครั้ง โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ราคา 3,000-10,000 บาท/ครั้ง ส่วนทิปจะเป็นการให้ด้วยความเสน่หา ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล
ไม่ใช่มีแต่ผู้หญิงที่ทำงานเอนฯ ได้ ผู้ชายก็สามารถทำได้เช่นกัน
ผู้ชายเอนเตอร์เทนบางคนสามารถหาเงินได้เดือนละนับแสนบาทอย่างสบายๆ
สำหรับงานอาชีพเอนเตอร์เทนของผู้ชาย ผู้เขียนขอแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ประกอบด้วย
- พริตตี้บอย หนุ่มเสิร์ฟที่มามาพร้อมกับรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลาดูดี อีกทั้งยังมีความสามารถด้านการสร้างความบันเทิงมาอย่างครบครัน ทั้งร้องเพลง เต้น เดินแบบ
- หนุ่มโฮสต์ ผู้ชายเอนเตอร์เทนสายปาร์ตี้ ที่จะคอยดูแลและให้บริการในการสร้างความบันเทิง คลายเหงา ผ่านการดูแลเอาใจใส่ เอาอกเอาใจ ภายในบาร์
- เพื่อนเที่ยวออนไลน์ หนุ่มๆ ที่รักความอิสระ ให้บริการเป็นเพื่อคลายเหงา ทานข้าว ดูหนัง โดยเป็นการนัดใช้บริการผ่านโลกออนไลน์
ผู้ชายสายเอนฯ แต่ละประเภทมีความแตกต่างในบริบทของการทำงานและการให้บริการลูกค้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งในบทความนี้จะเน้นนำเสนอปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าและออกจาก ‘อาชีพ’ นี้เป็นหลัก ผ่านการสัมภาษณ์ผู้ประกอบอาชีพนี้ จำนวน 4 คน ได้แก่
นายเอ – เพื่อนเที่ยวออนไลน์
นายบี – พริตตี้บอยในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา
นายซี – ทำอาชีพเอนฯ คู่กับอาชีพอื่น
นายดี – อดีตหนุ่มโฮสต์ที่หันมาทำงานเพื่อนเที่ยวออนไลน์
เหตุผลที่มาทำอาชีพผู้ชายเอนเตอร์เทน
จากที่ได้พูดคุยมา หลายคนให้ปัจจัยหลักคือเรื่องของ ‘รายได้’
“ผมร้อนเงินด้วย เพราะได้รายได้สูงในเวลาที่ไม่นาน ผมเลยลองทำดู ปกติทางบ้านก็ให้ค่าขนมตามปกติในช่วงแรก พอหลังเกิดที่บ้านล้มละลายหลังโควิดจึงต้องเริ่มดูแลตนเองโดยไม่พึ่งผู้ปกครองครับ” นายเอ
“พี่เนี่ยไม่มีงานทำ ตกงานจากโควิด เลยเลือกที่จะมาทำงานนี้” นายบี
“รายได้เป็นปัจจัยหลักที่ผมมาทำงานนี้เลย ได้ผลตอบแทนดี” นายดี
ทำไมเลือกงานนี้? เท่าที่ได้พูดคุยกับแหล่งข่าวทุกคน มีอยู่ 2-3 ปัจจัย คือเป็นอาชีพที่ได้เงินจำนวนมากในเวลาสั้นๆ, ได้พบปะพูดคุยกับผู้คนที่หลากหลายไม่น่าเบื่อ และสามารถทำอาชีพอื่นคู่กันไปในเวลาเดียวกันได้
ถึงจะเป็นงานที่ได้เงินง่าย ก็ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ มันมี ‘ความท้าทาย’ บางอย่างซ่อนอยู่ เพราะการจะสร้าง ‘ความพึงพอใจ’ ให้กับลูกค้า นอกเหนือจากรูปลักษณ์ภายนอก คือบุคลิกดูดี หน้าตาหล่อเหลา การแสดงออกทำให้คนรักหรือเอ็นดู ยังต้องสามารถพูดคุยคลายเหงา รับฟังปัญหาหรือให้คำปรึกษา – โจทย์ทั้งหมดนี้ บังคับให้ผู้ชายเอนเตอร์เทนต้องดูแลตัวเอง ทั้งออกกำลังกาย เข้าคลินิกเสริมความงาม ดูแลการแต่งกายเสื้อผ้าหน้าผม ไปจนต้องทำตัวเองให้มีจิตใจรักบริการ เปิดกว้างสำหรับทุกๆ คน
“ดูลูกค้าก่อนว่าเปิดเผยแค่ไหน เช่น อนุญาตให้จับมือได้ก็จะจับ โอบได้ก็จะโอบ ห้ามเล่นมือถือตลอด ห้ามถามเรื่องส่วนตัวมากไป ถ้าเขาเล่าเองก็จะรับเอง ห้ามหยาบคาย การดูแลเป็นหลัก เช่น การป้อนอาหาร หยิบของ ถือของให้ พูดชมเขา ดูแลเต็มที่เลย พูดตรง ๆ มีความชอบอ้อน อีกทั้งยังมีการเล่นเกมส์ในโต๊ะ สร้างบรรยากาศให้ไม่น่าเบื่อ รับบริการได้หมด เพราะไม่สามารถเลือกลูกค้าได้ ไม่มีความกระอักกระอ่วน” นายซี
“เพื่อนเดินเที่ยว เขาจะพาเราไปกินข้าว เราบริการให้เขา ถ้าเราขับรถได้จะขับให้ ถ้าซื้ออะไรตนเองก็จะซื้อให้ บางทีลูกค้าก็มาปรนนิบัติเรา เรามักจะเจอลูกค้าเอใจเรามากกว่าที่เราต้องไปเอาใจเขา ตนเองก็สับสนเล็กน้อย เคล็ดลับคือใช้ความเป็นตนเอง ไม่เฟก เพราะปกติตนเองขี้เล่น และเอาใจเขาหน่อยเพราะเขาจ้างเรามา” นายเอ
สิ่งที่ต้องแลกของคนในอาชีพนี้
เมื่อเป็นงานบริการประเภทหนึ่ง สิ่งสำคัญก็คือการทำให้ผู้ใช้บริการพึงพอใจ
ยกตัวอย่าง ถ้าลูกค้าต้องการการให้บริการแบบ ‘ฟีลแฟน’ คือเสมือนว่าเป็นคนรัก ก็อาจจะมีการถูกเนื้อต้องตัว จับมือถือแขน โอบกอด ป้อนอาหาร เป็นต้น
และด้วยลักษณะของงานบางครั้งก็ทำให้เกิด ‘ความเสี่ยง’ หลายประการ เช่น ถูกมอมเหล้าจนขาดสติ ถูกบังคับให้ทำอะไรที่ไม่อยากทำเพื่อตอบสนองความบันเทิงของลูกค้า หรือกระทั่งถูกล่อลวงไปกระทำมิดีมิร้าย
“ผมเคยโดนโมเดลลิ่งหลอกให้ไปโรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อไปถึงโมฯ ให้ผมเข้าไปในห้องหนึ่งที่มีผู้ชายมีอายุกำลังอาบน้ำอยู่ พอผมไปถึงโมก็ได้ตะโกนบอกผู้ชายในห้องน้ำว่า ‘สินค้ามาถึงแล้ว’ ผมจึงได้ไหวตัวและอ้างว่าลืมกระเป๋าไว้ข้างนอก จากนั้นผมจึงรีบออกมาจากห้องและรีบขึ้นแท็กซี่กลับ” นายเอ
ไม่รวมถึงทัศนคติจากคนจำนวนมากในสังคม ที่ยังคิดว่าอาชีพนี้มีขั้นสุดท้ายคือต้องลงเอยที่บนเตียง
“คนกำลังเหมารวมว่าเป็นงานเดียวกับขายตัว แต่คนยุคใหม่ก็เรียกให้ดูดี แต่จริงๆ เค้าไม่ได้รู้งานมันแยกบทบาทกัน” นายดี
“พี่รู้สึกลำบากใจเวลาไปจีบใครก็จะค่อนข้างยาก เพราะถูกมองว่าเป็นผู้ชายกลางคืน” นายบี
“พ่อแม่ผมไม่ทราบครับ แต่เพื่อนที่ผมสนิทใจด้วยก็บอกครับ แต่ครอบครัวไม่ทราบเลยผมมีทัศนคติกับอาชีพโดยเลือกที่จะปิดบังครับพี่ เพราะในอนาคตเราอาจจะเสียชื่อเสียงจากคำพูดของคน เลยเลือกที่จะปิดบังคนที่ไม่ได้สนิทใจ” นายเอ
เหตุผลของการบอกเลิก (จากอาชีพ)
เมื่อผู้ชายจำนวนมากเข้าสู่งานเอนเตอร์เทนด้วยเรื่องของ ‘รายได้’ หนึ่งในเหตุผลที่คนออกจากวงการนี้ก็เป็นเรื่องของตัวเงินเช่นกัน
“พี่ตั้งใจไว้ว่าจะเก็บเงินสัก 1-2 ก้อน เมื่อเก็บเงินครบก็จะออกจากงานนี้ และออกมาทำธุรกิจของตัวเองเหมือนเดิม” นายบี
“คิดว่าจะทำต่อไปเรื่อยๆ เพราะอยากเก็บเงินให้ได้เยอะๆ ก่อน เมื่อเลิกทำจะเอาเงินส่วนนี้ไปทำธุรกิจและเรียนต่อ” นายซี
อีกเหตุผลคือเรื่องสุขภาพ เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ร่างกายค่อนข้างมาก ประกอบกับการต้องดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ เมื่ออายุมากขึ้นก็เป็นเรื่องที่ยากขึ้นเรื่อยๆ
“อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ต้องกินเหล้า สังสรรค์ทุกคืน ทำให้ไม่สามารถควบคุมเวลาพักผ่อนได้ สุขภาพก็มีแย่ลงบ้าง พออายุมากขึ้นเลยไม่อยากดื่มแล้ว” นายดี
ในงานวิจัยเดียวกัน ผู้เขียนยังมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้คนจากหลากหลายวงการซึ่งมีทัศนคติต่อคนในอาชีพนี้ที่ค่อนข้างหลากหลาย สำหรับผู้ที่เคยใช้บริการระบุว่านี่ไม่ใช่อาชีพที่ผิดกฎหมายอาชีพ เป็นอาชีพสุจริตอย่างหนึ่ง ไม่ต่างจากหมอในโรงพยาบาล เหตุผลที่มาจ้างผู้ชายเอนฯ เพราะความเหงา อยากหาเพื่อนคุย หาคนชงเหล้า หาแฟนชั่วคราว
ในขณะที่คนจากแวดวงอื่นๆ ซึ่งไม่เคยใช้บริการ ก็มีทั้งทัศนคติต่อผู้ชายสายเอนฯ ในหลายแง่มุม เช่น การมองว่านี่คือหนึ่งในอาชีพอิสระ ท่ามกลางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ, การเกิดขึ้นของอาชีพนี้แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของค่านิยมทางเพศ ที่เพศหญิงมามีอำนาจเพิ่มขึ้น ฯลฯ
ผู้เขียนขอสรุปว่า จากการทำงานวิจัยเกี่ยวกับอาชีพผู้ชายเอนเตอร์เทน ทำให้ได้รับรู้ถึงปัจจัยที่ทำให้เขาเข้าและออกจากอาชีพนี้ รวมไปถึงสิ่งที่ต้องแลกมา โดยเฉพาะการถูกตีตราหรือเหมารวมจากสังคม ทั้งที่คนเราควรมีสิทธิเสรีภาพในร่างกายของตัวเอง ที่จะสามารถเลือกทำในสิ่งที่ต้องการได้อย่างไม่เดือดร้อนคนอื่นและไม่ขัดต่อกฎหมาย
และจะว่าไปแล้วอาชีพนี้ก็ไม่ต่างจากคนในวงการงานบริการทั่วไป คือ “เป็นการบริการ สร้างความบันเทิง สร้างความสุข ด้วยความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย”
Writer: INNO4ENT
Proofreader: Pongpiphat Banchanont