การบริหารจัดการเงินที่ดูเป็นเรื่องที่ต้องปรับวิธีคิดไปตามอายุที่เติบโตขึ้น จะกินจะเที่ยวก็ต้องคิดหน้าหลัง จะไปไหนก็นั่งแต่รถเมล์ไม่ยอมขึ้นแท็กซี่เพราะเสียดายเงิน จะซื้อตั๋วคอนเสิร์ตก็ไม่ได้หลับหูหลับตากดแบบไม่คิด และยิ่งถ้ามีจิตใจชอบส่วนลด เก็บสะสมคูปอง แลกแต้มรับสินค้า สารพัดกลยุทธ์ที่งัดมาใช้เพื่อให้เห็นว่าเราเป็นคนที่มัธยัสถ์และมีความคิดในการใช้เงินอย่างชาญฉลาด (แน่ะ ไม่ได้เรียกว่างกเสียหน่อย)
ยิ่งในยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้ ใช้จ่ายอะไรทั้งที่ก็ต้องเลือกที่คุ้ม แถมวัยรุ่นอย่างเราต้องมีหัวคิดเก็บออมเงินและลงทุนให้งอกเงยในอนาคตอีกต่างหาก นี่เดี๋ยวเราจะพาไปดูว่า ทำอย่างไรให้บริหารเงินได้อย่างฉลาดมากที่สุด
ระบุความสำคัญของการใช้จ่ายในชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นเก็บเงินไปเรียนต่อต่างประเทศ อยากกินอาหารออร์แกนิกไปตลอดชีวิต (ที่ดันขายแพงกว่าผักผลไม้ปกติไปเสียอีก) อยากลาออกจากงานไปเที่ยวยุโรปสัก 3 เดือน จะเป็นอะไรก็ตาม ขอให้ระบุมาให้ชัดเจนและเรียงลำดับ 1,2,3,4,5 เพื่อกำหนดสัดส่วนการใช้จ่ายเงินให้เหมาะสม
เลือกใช้ระบบที่เหมาะสมกับเป้าหมายของเรา
เมื่อระบุความสำคัญของการใช้จ่ายแล้ว ลำดับต่อมาคือการเลือกระบบให้เราจัดการเงินเข้าไปในเป้าหมายนั้น ที่สำคัญคือการหมั่นเตือนตัวเองถึงเป้าหมายและเหตุผลที่ทำให้เราต้องจัดการเงินอย่างฉลาด เพราะเงินออมเป็นเรื่องใช้เวลา เพราะฉะนั้นอย่าละเลยความสำคัญและยอมแพ้ไปก่อน
- อาหารการกิน หลายคนรู้อยู่แล้วว่าอาหารในซูเปอร์ตามห้างนั้นลดราคา 50% ตอนสามทุ่ม ได้ของดีราคาถูกมาเพียบ หรืออาหารบางมื้อเลือกทำเอง ต้นทุนราคาไม่เท่าไหร่ แถมได้เมนูถูกใจอีกต่างหาก
- ไลฟสไตล์ ราคาตั๋วหนังวันปกติไม่เลือกดู ให้เลือก 100 บาททุกวันพุธ ตื่นมาจองก่อนผ่านแอปพลิเคชั่นได้แต่เช้า หรือถ้าอยากดูเสาร์-อาทิตย์ ก็ตื่นไปดูโรงภาพยนตร์ลิโด้หรือสกาล่ารอบก่อนเที่ยง ดูหนังเสร็จงดเข้าห้างนะ ไปเดินเล่นหอศิลป์ดีกว่า ฟรีด้วย ไม่โดยกระตุ้นให้ใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นด้วยป้าย SALE ด้วย
- การแต่งตัว ไม่ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่แต่ใช้วิธีการ mix&match ชุดเดิมที่มีให้ได้ลุคส์ที่ต่างออกไป ไม่ได้ไม่ตามแฟชั่นนะ แต่เพราะ ไอ แฮฟ สติ! ใช้เงินอย่างคุ้มค่ามากกว่า
- ที่อยู่อาศัย เมืองไทยเมืองร้อน ไม่ต้องอาบน้ำอุ่นทุกครั้ง ข้าวของเครื่องใช้ไม่กี่อย่างก็ปิดไว้ประหยัดค่าไฟได้เยอะ แอร์ใดๆ ไม่ต้องเปิดแต่ให้ลองเลือกต้นไม้มาปลูกแทน รับรองบ้านเย็นขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แถมมีมุมสีเขียวสบายตา แล้วยังสบายใจเมื่อเห็นบิลค่าไฟไม่กี่ร้อยบาท
- การเดินทาง แม้ระบบคมนาคมในกรุงเทพค่อนข้างจะบีบบังคับให้เราซื้อรถเป็นของตัวเอง แต่ช้าก่อน ลองวางแผนการเดินทางจากบ้านถึงออฟฟิศให้ดีด้วยการคมนาคมสาธารณะ อาจจะขึ้นสามล้อต่อรถเมล์บ้าง ใช้เวลามากขึ้น ต้องตื่นเช้าอีกหน่อย แต่รับรองว่าถ้าลองงดใช้รถส่วนตัวแล้ววางแผนการเดินทางดีๆ เงินเหลือเข้ากระเป๋าอีกสัปดาห์ละหลายพันบาท (บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นงก แค่รู้จักวางแผนการใช้เงินเฉยๆ)
ตรวจสอบและทบทวน
อย่ามองข้ามเรื่องการทำบัญชี ที่ตอนนี้ไม่ได้ดูน่าเบื่อหรือต้องมานั่งจดเหมือนเมื่อก่อน เพราะสารพัดแอปพลิเคชั่นบันทึกรายรับ-รายจ่ายทำให้เราสามารถติดตามได้ว่า เดือนที่ผ่านๆ มาเราใช้จ่ายเงินไปกับอะไรบ้าง เราขอแนะนำ Wally (Wally.me), Cashtrails หรือ Fudget ก็ดีทั้งนั้น ตรวจสอบรายจ่ายเพื่อนำมาทบทวนความเหมาะสมในการใช้เงิน และติดตามว่าเรายังบริหารจัดการเงินเพื่อเป้าหมายของเราอยู่หรือไม่นั่นเอง
มีผู้ช่วยคนสำคัญ
จัดการเงินอย่างฉลาดมากขึ้นด้วย ซิตี้ เรดดี้เครดิต ที่เป็นมากกว่าแค่บัตรกดเงินสด คุณสามารถเลือกผ่อนชำระสินค้า 0% ได้นานสูงสุด 24 เดือน หรือสามารถโทรสั่งเงินก้อนก็เลือกผ่อนชำระ ได้ 6 – 48 เดือน (ซิตี้ เรดดี้เครดิต จะโอนเงินเข้าบัญชีคุณในวันทำการถัดไป) หรือถ้าไปตกระกำลำบากอยู่ที่ไหน จะในหรือนอกประเทศ ก็หายห่วงได้เลย เพราะสามารถเอาบัตรไปกดเงินสดจากตู้ได้เลย ฟรีค่าธรรมเนียมการกดเงิน เสียดอกเบี้ยแค่ 10,000 ละ 8 บาทต่อวันเท่านั้น (แต่ควรรีบคืนในระยะสั้นๆ) นอกจากนี้ยังสามารถคำนวณดอกเบี้ยได้เองและกำหนดวันที่ต้องการยืมได้ด้วย ซิตี้ เรดดี้เครดิต จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะกับคนที่ฉลาดในการบริหารเงิน และไม่อยากเสียผลประโยชน์ทางการเงินอีกต่อไป
พกติดกระเป๋าไว้ไม่มีอะไรเสียหายเพราะไม่มีค่าธรรมเนียมตลอดชีพอยู่แล้ว ซิตี้ เรดดี้เครดิต บัตรเดียวจบ ครบทุกความต้องการเรื่องเงินสดเหมาะกับคนรุ่นใหม่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.citibank.co.th/th/ready-credit/ReadyCredit.htm สมัครวันนี้ได้รับกระเป๋าล้อลากฟรีด้วยนะ