“[…] มองว่าเรามีต้นทุนสันติภาพโลก ทำอย่างไรไทยจึงสามารถส่งออกสันติภาพสู่โลก … ไม่มีเวลาไหน โมงยามไหนดีกว่านี้แล้วที่เราคนไทยจะส่งออกพุทธธรรมสู่ประชาคมโลก”
ฟังแล้วก็งงๆ เพราะต่างรู้ว่า ‘ความเงียบ’ ไม่ใช่ตัวชี้วัดของ ‘สันติภาพ’ และสันติภาพที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ ทุกวันนี้เรามีสันติภาพอย่างล้นเหลือถึงขนาดพร้อมส่งต่อไปสู่คนรอบข้าง สู่โลกใบนี้ได้อย่างไร ยิ่งการพูดนี้ออกมาจากรายการของรัฐฯ ของการปกครองในทุกวันนี้ ที่บางที ‘ความสงบเรียบร้อย’ อาจไม่ได้หมายถึงสันติหรือความสงบเพียงอย่างเดียว แต่สันติภาพที่ผู้คนแสวงหาอาจมีความหมายมากกว่าสันติในเรือนใจจากมุมมองเชิงศาสนา เช่น ถ้าเราเห็นว่าในสังคมเต็มไปด้วยการปราบปราม การใช้กฏหมายอย่างเสมอกัน เราจะมีสุขสันติในใจต่อไปได้แค่ไหน สันติภาพที่ผู้คนฝันถึงคืออะไรกันแน่
องค์กร Vision of Humanity ทำรายงานดัชนีสันติภาพโลกประจำปี 2017 จัดให้ประเทศไทยมีสันติภาพอยู่ที่อันดับ 120 (จาก 163 ประเทศ) มีภาวะสันติภาพในระดับปานกลาง สำหรับดัชนีนี้ก็มีการพิจารณาสันติภาพประมวลขึ้นจากมิติต่างๆ เช่น การเมือง – ประชาชนมีเสรีภาพมั้ย การตุลาการเป็นธรรมและเป็นเอกเทศรึเปล่า มีการคอร์รัปชั่นเยอะมั้ย ทางเศรษฐกิจการลงทุนมีความเสรีและเป็นธรรมแค่ไหน เรื่อยไปจนถึงความเป็นธรรมทางสังคม เช่น ความเสมอภาคในการเข้าถึงทรัพยากร โดยรวมแล้วเราก็พอจะนึกภาพได้ว่าสันติภาพที่เราต่างพยายามสร้าง ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เป็นรูปธรรมอย่างมากมาย และก็ไม่แปลกเท่าไหร่ที่เราจะอยู่ในระดับครึ่งๆ กลาง
ตกลงแล้วสันติภาพที่มนุษยชาติใฝ่ฝันถึงคืออะไรกันแน่ อะไรคือราคาของสันติภาพที่เราต้องจ่ายหรือมองหา
“Peace is more important than all justice; and peace was not made for the sake of justice, but justice for the sake of peace.”
“สันติเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าความเป็นธรรมทั้งปวง และสันติภาพไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อความยุติธรรม แต่เราสร้างความยุติธรรมขึ้นเพื่อสันติ”
Martin Luther, On Marriage (1530)
“Peace is not an absence of war, it is a virtue, a state of mind, a disposition for benevolence, confidence, justice.”
“สันติไม่ใช่แค่ภาวะไร้สงคราม แต่คือคุณธรรม คือความคิดจิตใจ คือลักษณะของความดีงาม คือความมั่นใจ คือความยุติธรรม”
Baruch Spinoza (1677)
“Justice and peace can only thrive together, never apart.”
“ความยุติธรรมและสันติภาพต้องเติบโตเคียงคู่กัน ทั้งสองไม่อาจงอกงามได้อย่างโดดเดี่ยว”
Oscar Arias Sánchez (1987)
“There can be no peace without law.”
“ไม่อาจมีสันติถ้า ถ้าไม่มีกฎหมาย”
Dwight D. Eisenhower (1966)
“Peace, to have meaning for many who have only known suffering in both peace and war, must be translated into bread or rice, shelter, health and education, as well as freedom and human dignity.”
“สันติภาพ เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้เข้าใจความทุกข์ทรมานทั้งในภาวะปกติและภาวะสงคราม สันติอาจหมายถึงได้ทั้งข้าวปลา ที่พักอาศัย สุขภาวะและการศึกษา เท่าๆ กับที่หมายถึงเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”
Ralph J. Bunche, Nobel Lecture (1950)
“If you want to make peace, you don’t talk to your friends. You talk to your enemies.”
“ถ้าคุณต้องการสันติภาพ อย่าไปคุยกับเพื่อนของคุณ แต่จงไปคุยกับศัตรูของคุณซะ”
Moshe Dayan (1977)
“It isn’t enough to talk about peace. One must believe in it. And it isn’t enough to believe in it. One must work at it.”
“สำหรับสันติภาพ จะแค่พูดถึงย่อมไม่พอ เราต้องศรัทธาในสันติภาพด้วย แต่การจะศรัทธาอย่างเดียวก็ยังไม่เพียงพอ เราต้องลงมือสร้างขึ้นด้วย”
Eleanor Roosevelt (1951)