ช่วงนี้ดูเหมือนเราจะมีปัญหาเรื่อง ‘วิชาชีพพยาบาล’ ทั้งในบ้านเราที่มีปัญหาเรื่องการบรรจุ หรือในอังกฤษเองก็มีการรวมตัวเพื่อเรียกร้องรายได้ที่เป็นธรรมมากขึ้น แน่ล่ะว่าเราก็ต่างเข้าใจกันดีว่าทุกอาชีพต่างมีความสำคัญต่อภาคส่วนที่ร่วมกันทำให้งานสำคัญสำเร็จไปได้ แต่ในความเป็นจริง ยังมีหลายอาชีพที่ทำงานหนักแต่กลับถูกลืมหรือปล่อยเอาไว้ในเงาของความสำเร็จนั้นๆ
เรามีคำเรียกหนึ่งว่า ‘handmaiden‘ คือบทบาทหรือตำแหน่งที่เป็นเหมือนผู้ช่วย เป็นคนที่อำนวยให้ความสำเร็จและเรื่องราวยิ่งใหญ่ต่างๆ ดำเนินลุล่วงไปได้ ซึ่งคำว่า handmaiden ก็มีนัยถึงผู้หญิงในฐานะผู้ช่วยอยู่แล้ว ตรงนี้เองที่แม้แต่การกำหนดอาชีพต่างๆ ในปัจจุบัน ผู้หญิงก็มักถูกวางไว้ในตำแหน่งของการเป็นผู้ช่วยเหลือต่างๆ เช่น พยาบาล เลขา และภรรยา ในด้านหนึ่งก็เป็นเรื่องดีที่สาวๆ ได้ใช้ความสามารถและสติปัญญาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องที่ยิ่งใหญ่ แต่ในอีกด้าน ความสำคัญของเธอก็มักจะอยู่ภายใต้เงาของคนที่เธอช่วยเหลือ
ตรงนี้เองละมั้งที่บางครั้งในการเชิดชูความสำเร็จ เราก็หลงลืมเหล่าผู้คนที่อยู่เบื้องหลังที่คอยช่วยเหลือ เหล่าผู้คนที่เฉลียวฉลาดและมีคุณูปการต่อเรื่องราวยิ่งใหญ่ทั้งหลาย แต่ในที่สุดแล้วความสำเร็จและความยอดเยี่ยมทั้งหลายก็ควรจะต้องนับรวมทุกคนที่มีส่วนในการทำให้งานนั้นดำเนินลุล่วงไปได้
1. Clara Barton
ช่วงสงครามหรือช่วงที่มีโรคระบาด เรามักนึกภาพของนางพยาบาล ผู้หญิงในชุดเครื่องแบบที่วิ่งวุ่นและคอยดูแลคนป่วยคนเจ็บ เป็นกลุ่มอาชีพที่อุทิศตัวช่วยเหลือผู้คนในยามคับขันอย่างแข็งขัน ในช่วงสงครามกลางเมืองของอเมริกาก็มีพยาบาลคนสำคัญชื่อ คลาร่า บาร์ตัน เธอเป็นผู้ก่อตั้งสภากาชาดแห่งอเมริกัน ลองนึกภาพสมรภูมิในยุคนั้น เธอผู้ประกอบอาชีพครูตกลงใจที่จะรับหน้าที่เสี่ยงชีวิตนำเอาเสบียงทั้งหลายไปส่งที่ใจกลางสนามรบ
สิ่งที่คลาร่าทำไม่ใช่แค่เอาของไปส่งแล้วกลับบ้าน อาจด้วยเธอเห็นความสูญเสีย สิ่งที่เธอทำคือการปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรมและการดูแลรักษาผู้ป่วย คลาร่าได้จัดโปรแกรมบรรเทาทุกด้วยการจัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ เธอเดินทางไปกับหน่วยพยาบาล ทำการส่งเครื่องใช้ทางการแพทย์ พยาบาลผู้ป่วย ไปจนถึงดูแลเรื่องอาหารการกินให้กับคนเจ็บ จนได้รับฉายา ‘นางฟ้าแห่งสมรภูมิสงคราม’
2. Constance Lloyd
ออสการ์ ไวด์ นักเขียนผู้โด่งดังชาวไอริส นอกจากผลงานเขียนระดับขึ้นหิ้งที่เผ็ดร้อนคมคายแล้ว เรายังรู้จักชีวิตส่วนตัวในแง่ของการเป็นคนรักเพศเดียวกัน ดังนั้น คอนสแตนด์ ลอยด์ ภรรยาตามกฎหมาย และแม่ลูกสองของไวด์เลยไม่ค่อยถูกพูดถึงเท่าไหร่
ในแง่ของชีวิตรัก ไม่แน่ใจว่าคอนสแตนด์รู้เรื่องคนรักหนุ่มของไวด์เมื่อไหร่ แต่ความรักของไวด์และภรรยาสาวก็ดูจะมีความหวานซึ้งอยู่ ในจดหมายของวันแต่งงาน ไวด์เขียนว่า ‘ตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจ คุณคือคนรักของผม (As long as I live you shall be my lover)’ และสาวเจ้าก็เขียนตอบว่า ‘ถ้าขาดเธอไป ฉันรู้สึกไม่สมบูรณ์ (I feel incomplete without you)’ หลังแต่งงานไวด์เองก็ดูจะแฮปปี้กับบทบาทคุณพ่อและตัวไวด์เองก็สนับสนุนและชื่นชมภรรยา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถเชิงศิลปะ เรื่องการต่อสู้เพื่อสิทธิในการแต่งกาย และสิทธิในอาชีพของผู้หญิง แต่อนิจจาสุดท้ายแล้วไวด์เองก็ไม่อาจทิ้งใจจากแฟนหนุ่มไปได้ เขาตัดสินใจออกจากบ้านและใช้ชีวิตอยู่ตามโรงแรมในขณะที่ภรรยาสาวคลอดลูกคนที่ 2 และเลี้ยงดูลูกตามลำพังจนกระทั่งไวด์ถูกจับจากความรักต้องห้ามที่ผิดกฏหมาย สุดท้ายฝ่ายภรรยาก็แยกตัวออกมาและเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง แต่ทั้งสองไม่เคยหย่าขาดจากกันอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
3. Gala Dalí
สำหรับศิลปินที่ยิ่งใหญ่ ‘คนรัก’ หรือที่เรียกกันว่า ‘muse’ คือหญิงสาวที่อยู่เคียงข้าง เป็นหญิงสาวคนสำคัญในชีวิตที่ให้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ ซึ่งดาลีในฐานะเจ้าพ่อและตำนานแห่งศิลปะแนวเซอร์เรียลเองก็มี กาล่า ผู้เป็นทั้งภรรยาและแรงบันดาลใจคนสำคัญ
ตั้งแต่ช่วงต้นปี 1930 ดาลีเริ่มเซ็นชื่อตัวเองพร้อมภรรยา โดยกล่าวว่างานส่วนใหญ่ของเขานั้น ‘คือเลือดเนื้อของคุณ กาล่า ที่วาดระบายอยู่ในภาพทั้งหลายของผม’ ดาลีบอกว่ากาล่าคือตัวแทนและเป็นคนที่ช่วยให้เขาโฟกัสกับสิ่งต่างๆ
4. Clementine Churchill
วินส์ตัน เชอร์ชิล เป็นหนึ่งในไอค่อนของนักการเมืองและนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำในยามสงครามที่ชาญฉลาดและเฉียบคม แต่ในการรับใช้ประเทศช่วงแรกๆ เชอร์ชิลเองก็ประสบปัญหาผลงานไม่ค่อยโอเค เช่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง หรือการจัดการงบในช่วงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังในช่วงปี 1920
เป็นเรื่องธรรมดาที่ภรรยาต้องคอยส่งเสริมสามี คลีเมนไทน์ ทำหน้าที่เป็นศรีภรรยาและคนที่คอยสนับสนุนเชอร์ชิลในทุกๆ ด้าน อิทธิพลของเธอต่อเชอร์ชิลมีความสำคัญต่อผู้แข็งแกร่งคนนี้อย่างยิ่ง ครั้งหนึ่งเชอร์ชิลเขียนจดหมายถึงเธอว่า ‘ผมรู้สึกเสมอว่าชีวิตของผมเป็นหนี้คุณอย่างท่วมท้น (I always feel so overwhelmingly in your debt.)’
5. Lillian Disney
อาณาจักรดิสนีย์ เบื้องหลังก็มีศรีภรรยาคอยช่วยผลักดัน ลิเลียน สาวน้อยจากไอดาโฮเข้าทำงานกับวอลท์ในฐานะนักวาดหมึกและต่อมาก็ทำหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัวที่คอยให้ไอเดียต่างๆ บทบาทสำคัญและมรดกสำคัญอย่างหนึ่งของเธอคือการมอบชื่อ ‘มิกกี้’ ให้กับมิกกี้ เมาส์ ในปี 1982 ในขณะที่ทั้งสองนั่งรถไฟจากนิวยอร์กไปแคลิฟอร์เนีย วอลท์วาดรูปหนูขยุกขยิกยื่นให้ศรีภรรยาดูบอกว่า เนี่ย เจ้านี่ชื่อ ‘Mortimer’ ลิเลียนส่ายหน้าแล้วบอกว่า “เศร้าไป” จนวอลท์ไปจบที่ชื่อ ‘มิกกี้’ ศรีภรรยาค่อยพยักหน้าว่าโอเค ใช้ได้ ใครจะรู้ว่าหลังจากนั้นชื่อนี้ก็กลายเป็นชื่อที่ครองใจเด็กทั่วโลกมานานกว่า 80 ปี
6. Freda Kelly
ในวงดนตรีทุกๆ วงมีขุ่นแม่คอยดูแลหัวใจ เดอะบีเทิล วงระดับโลกมี ฟรีดา เคลลี หญิงผู้รับหน้าที่เป็นเลขาที่อยู่กับวงมาตั้งแต่ตอนยังดังระดับหนึ่งกระทั่งกลายเป็นวงดนตรีระดับโลก หน้าที่หลักๆ ของเธอคือการเป็นเลขานุการอำนวยความสะดวกและเรื่องราวต่างๆ ไปจนถึงดูแลแฟนคลับ (ซึ่งมีจำนวนมหาศาล) บทบาทของเธอสำคัญจนกระทั่งมีสารคดีชื่อ ‘Good Ol’ Freda’ สารคดีที่เก็บชีวิตและเรื่องราวของเธอตอนที่ทำงานร่วมกับวงตั้งแต่สมัยที่เธอเป็นวัยรุ่นจนเติบโต และดูแลกันมาอีกร่วมสิบปี