หลายเดือนมาแล้วรวมถึงช่วงนี้ เราอาจจะเจอน้องสัตว์หน้าตาประหลาดดูคล้ายกับสัตว์ตระกูลหนู หน้าแหลมๆ ขนาดตัวไม่ใหญ่นัก แต่จุดเด่นของมันคือ มักจะมี ‘อาการวีน’ ประมาณว่าน้ำตาลตกตลอดเวลา ซึ่งเราเองอาจเรียกพวกมันตามเสียงร้องได้ว่า ‘อวาว่า’
เจ้าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดกลางถือเป็นอีกหนึ่ง ‘สัตว์มหัศจรรย์’ ซึ่งโด่งดังจากโลกอินเทอร์เน็ต เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ชาวเน็ตชื่นชอบ จนตอนหลังกลายเป็นความคาดหวังว่า เมื่อเราเห็นเจ้าหน้าแหลมๆ น้อยๆ ของมันจะต้องร้องออกมาว่า อวาว่า และถ้าไม่อวาว่า เราก็ผิดหวังเล็กน้อย
สัตว์ตัวโปรดประจำคนขี้วีนมีชื่อว่า ไฮแรกซ์หิน (Rock Hyrax) เผินๆ ดูคล้ายจะเป็นญาติกับดารารุ่นพี่อย่างคาปิบาร่า แต่จริงๆ แล้วเจ้าไฮแรกซ์หินนี้ไม่ได้เป็นญาติใกล้ชิดกับสัตว์ฟันแทะ แต่พวกมันสืบเชื้อสายใกล้เคียงกับช้างและพยูนมากกว่า แถมจุดเด่นของเจ้าอาวาว่า เอ้ย ไฮแร็กซ์หิน ยังเป็นการส่งเสียงที่มีจุดเด่นด้วยการทำเสียงที่หลากหลาย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารต่อการอาศัยในทะเลทรายเป็นฝูงใหญ่
ครอบครัวตัววีน
ไฮแรกซ์หิน (Procavia capensis) อาศัยอยู่ตามผาหินและเทือกเขาในแอฟริกา เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีขนปกคลุม ดูเผินๆ คล้ายหนูตะเภาขนาดใหญ่ ขนาดตัวและใบหน้าคล้ายกระต่ายแต่ไม่มีหูยาว ซึ่งจุดสำคัญของไฮแรกซ์หินนั้นคือ ฟัน
ฟันด้านหน้าของไฮแรกซ์หินมี 2 ซี่ จนดูเหมือนว่าน้องฟันเหยิน แต่ตัวฟันเป็นลักษณะสำคัญที่บ่งบอกว่า น้องไม่ได้เป็นสัตว์ฟันแทะจำพวกหนู (Rodent) แค่หน้าเหมือนเฉยๆ น้องจึงอยู่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูล Pachydermata นั่นคือวิวัฒนาการสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่มีเท้าเป็นกีบ ญาติๆ ของน้องล้วนเป็นสัตว์รุ่นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นช้างหรือพยูน ลักษณะร่วมของน้องกับญาติที่เด่นชัดคือ ฟันคู่หน้า ซึ่งฟันจะเป็นฟันตัดที่ทำให้น้องเหมือนแวมไพร์ และเป็นลักษณะเดียวกับฟันคู่ของงาช้าง นอกจากฟันแล้ว น้องยังมีลักษณะร่วมอื่นๆ กับสัตว์ตระกูลนี้ด้วย เช่น รูปทรงกะโหลก และนิ้วเท้าที่เป็นปุ่มเหมือนกับเท้าช้าง
เราอาจจะพบเจ้าอวาว่าได้ทั้งในพื้นที่ทะเลทราย โขดหิน ชะง่อนผา พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่กันเป็นฝูง อาจเป็นครอบครัวเล็กๆ ที่มีจ่าฝูงเพศผู้หนึ่งตัว และอาจกลายเป็นฝูงขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกได้มากถึง 50 ตัว แถมพวกมันยังมีพฤติกรรมร่วมกันเป็นชุมชน เช่น ล่าด้วยกัน กินอาหารที่หามาได้ร่วมกัน กระทั่งช่วยกันเลี้ยงดูสมาชิกใหม่
นอกจากนี้ เจ้าไฮแรกซ์หินยังมีศัตรูตามธรรมชาติคือ เหล่าสัตว์นักล่า อาทิ เสือดาว งูเหลือม แมวป่า ไปจนถึงนก ในการระวังภัย พวกมันจะทำการล้อมพื้นที่เป็นรูปวงกลม หรือในเวลาสำคัญ เช่น ขณะกินอาหาร หรือดูแลลูกหลานของพวกมัน จ่าฝูงจะทำหน้าที่ระวังภัยและคอยส่งสัญญาณด้วยเสียง เพื่อเตือนสมาชิก ตรงนี้เองจึงเป็นหนึ่งในอาการวีนของน้อง ซึ่งทาง Smithsonian Magazine บอกว่า พวกมันสามารถทำเสียงต่างๆ ได้หลากหลายถึง 21 แบบ แล้วแต่ว่าพวกมันกำลังส่งสัญญาณเรื่องอะไร
ชีวิตเจ้าน้องสุดวีนถือว่าสบายใจได้ ถ้าไม่เจอใครล่า พวกมันจะขึ้นมานอนผึ่งแดดเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ก่อนจะออกไปล่า แต่ก็มีข้อเสียนิดหน่อยของการโตขึ้นมาในฐานะไฮแรกซ์หิน คือตอนเด็กๆ พวกมันจะต้องกินอึ (ทั้งของมันเองหรือของสมาชิกคนอื่นๆ) เพื่อเป็นการเพิ่มแบคทีเรียที่จำเป็นในการย่อยอาหารในลำไส้
Awawa มีหลายความหมาย
อันที่จริงเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่า พฤติกรรมของสัตว์ต่างๆ ย่อมมีฟังก์ชั่นในตัวมันเอง พวกมันไม่ได้วีนหรือโวยวายไปเฉยๆ เช่น การพูดถึงจ่าฝูงที่ส่งเสียงเพื่อแจ้งเตือนเมื่อฝูงของมันมีภัยคุกคาม ลักษณะลำคอหรืออวัยวะเปล่งเสียงของไฮแรกซ์หิน เลยเป็นอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่มีความพิเศษเฉพาะตัว นอกจากจะผลิตเสียงได้หลากหลายรูปแบบ เช่น เสียงเดาะเบาๆ เสียงหวีดเล็กๆ เหมือนผิวปาก หรือแหลมสูงที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว เสียงท่ีพวกมันร้องยังมีพลังทะลุทะลวงและได้ยินไปได้ไกลด้วย
เสียงร้องของไฮแรกซ์หินมีความหมายหลากหลาย สำคัญที่สุดคือการส่งสัญญาณเพื่อเตือนภัยอย่างที่ว่าไป และไฮแรกซ์หินตัวน้อยยังอาจจะร้องเรียกเมื่อต้องเผชิญกับความเครียดในบางครั้ง ถ้าเราหรือสัตว์อื่นๆ คุกคามไปในเขตแดน ไฮแรกซ์หินตัวผู้อาจจะร้องเพื่อขับไล่ผู้บุกรุก ไปจนถึงร้องเพื่อระบุตำแหน่งหรือแจ้งข่าวโดยทั่วไปด้วยเสียงที่ดัง แต่ไม่ได้ทะเลาะกันแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งความพิเศษของพวกไฮแรกซ์หินคือ สมองของพวกมันตอบสนองกับเสียงในการสื่อสารรูปแบบต่างๆ และประมวลผลให้พวกมันตอบสนองต่อเนื่องได้ในทันที พวกมันสามารถรับเสียงและแปรผลรูปแบบเสียงต่างๆ ที่มีการสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการฟังออกว่าเป็นเสียงเตือนภัย เสียงที่บ่งบงความเครียด รวมถึงเสียงสื่อสารประเภทอื่นๆ
น้องอวาว่าเป็นอีกหนึ่งสัตว์สุดน่ารักที่โลกอินเทอร์เน็ตพาเราไปเจอสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก เป็นอีกมีมที่แสนจะน่ารัก สำหรับบ้านเรา ไฮแรกซ์หินยังเป็นสัตว์ที่มีไม่มากนัก แต่เมื่อปี 2567 สวนสัตว์ขอนแก่นเพิ่งประกาศความสำเร็จ ในการเพาะพันธุ์น้องขี้วีนที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทยเป็นกลุ่มแรก
เจ้าไฮแรกซ์หินจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่มีแฟนคลับ ซึ่งชื่นชอบพวกมันจากการเป็นมีมของความหลุกหลิกและความขี้โวยวายของพวกมัน
อ้างอิงจาก