เพราะทุกที่คือเวที และใครๆ ก็เป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดงได้ หลังจากที่แอพพลิเคชั่น Vine ล่มสลายไป ทุกวันนี้วัยรุ่นไทยกำลังฮิตสร้างวิดีโอบนแอพฯ Tik Tok แอพพลิเคชั่นถ่ายวิดิโอที่เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กไปในตัว ตัวแอพพลิเคชั่นเองเน้นโปรโมทด้วยคนดังเซเลป แต่ดูเหมือนว่าผู้ใช้จะมีการบรอดแคสตัวตนในลักษณะที่…เฉพาะตัว เรามีคลิปเด็กหญิงฉายอารมณ์ความโศกเศร้าจากการสูญเสียพ่อ มีเด็กน้อยที่ทำการแสดงวิญญาณออกจากร่างประกอบเพลง ‘วิญญาณ’ ของแสตมป์
มองเผินๆ เราก็อาจจะรู้สึกว่าแปลกๆ นิดหน่อย แต่ในมิติทางวัฒนธรรมมีนักวิชาการเรียกยุคสมัยของเราว่าเป็นวัฒนธรรมแห่งการมองเห็น (visual culture) เราอยู่ในโลกแห่งมหรสพ (spectacle) เหล่าวัยรุ่นในวันนี้ก็ดูจะเติบโตขึ้นโดยมีมหรสพ รายรอบด้วยภาพ (image) – หนัง ละคร มิวสิควิดีโอ ยิ่งเราอยู่ในยุคดิจิทัล แอพแบบ Tik Tok จึงเป็นทั้งเครื่องมือให้เราใช้สร้างงาน ในขณะเดียวกันตัวมันเองก็เป็นแรงผลักดันให้เรา ‘ฉาย’ (broadcast) ตัวตนของเรา

ภาพจาก : 9tana.com
การกลับมาของวิดีโอโซเชียล
ก่อนหน้านี้เรามี Vine แอพพลิเคชั่นที่เป็นทั้งแอพถ่ายวิดีโอและแพล็ตฟอร์มโซเชียล คือให้เราฉายวิดีโอสั้นๆ ของตัวเอง มีกิมมิกตกแต่งภาพและมีระบบการฟอลโล ตัว Vine เองมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานก็ล้มหายตายไป ล่าสุดเรามีแอพฯ Tik Tok ที่กำลังเป็นที่นิยมในวงวัยรุ่นทั้งแถบเอเชีย ขึ้นเป็นหนึ่งในแอพฯ ที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุด ทางแอพพลิเคชั่นเองก็มีเป้าหมายเป็นกลุ่มวัยรุ่นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และใช้เหล่าดาราเซเลป เช่นดาราวัยรุ่นไทยไปจนถึงดาราเกาหลีมาช่วยสร้างความนิยม
จากรายงานในประเทศจีนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2018 มียอดการดาวน์โหลดสูง 62 ล้านครั้ง โดยนอกประเทศจีน แอพฯ Tik Tok เองก็กำลังมาแรงทั้งในประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง และในประเทศไทยด้วย ซึ่งบ้านเราเองก็เริ่มมีคลิปจาก Tik Tok มาให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ
ไม่ว่าอะไรก็ตามเมื่อมีคนใช้งานเยอะๆ ก็มักมีดราม่าตามมา ในฮ่องกงก็เกิดกระแสสังคมว่า วัยรุ่นมีความต้องการไลก์มากขนาดเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงในการถ่ายคลิปลง Tik Tok สำนักข่าว South China Morning Post ถึงรายงานพฤติกรรมที่เอาตัวเองไปเสี่ยง เช่น ไปยืนหน้ารถเมล์ ไปนั่งบนสะพาน แล้วเขียนข้อความทำนองว่า เนี่ย เราเอาชีวิตมาเสี่ยงแล้วนะ ช่วยกดไลก์ให้หน่อย ในบ้านเราเองก็มีกรณีเจ้าหน้าที่เล่นแอพฯ Tik Tok กับผู้สูงอายุในสถานดูแลที่ตัวเองทำงานอยู่ จนกระทั่งมีการไล่ออกกันเกิดขึ้น

ภาพจาก : heworldnews.net
Tik Tok กับปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมวิชวลของวัยรุ่น
เราต่างต้องการที่จะมีตัวตน ต้องการที่จะถูกมองเห็น ถ้าไม่นับเรื่องการเอาชีวิตไปเสี่ยง ปรากฏการณ์ Tik Tok ในวัยรุ่นไทยก็น่าจะนับเป็นผลกระทบหนึ่งของโลกสมัยใหม่ จากการอยู่ในสังคมแห่งมหรสพ (The Society of the Spectacle) จากการถูกรายล้อมด้วยภาพจากสื่อต่างๆ ในโลกสมัยใหม่
หลักๆ แล้ว The Society of the Spectacle เป็นข้อวิพากษ์โลกสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการมองเห็นและสิ่งที่มองเห็นได้ ในขณะเดียวกันเราก็ถูกรายล้อมไปด้วยภาพต่างๆ จำนวนมหาศาล ข้อคิดนี้ก็คล้ายๆ กับความคิดของแนวคิดหลังสมัยใหม่ที่มองว่าในที่สุดแล้วเราใช้ชีวิตอยู่กับภาพ-ภาพแทน เราอาจจะเข้าถึงความจริง (reality) ไม่ได้อีกต่อไป
ถ้าเรามองไปรอบๆ ความคิดและจินตนาการต่างๆ ทั้งหลายที่เรานึกคิด จริงๆ แล้วอาจจะเกิดจากสื่อ หรือภาพต่างๆ ที่สื่อเสนอ เช่น เราคิดถึงอาชีพบางอาชีพ เหตุการณ์บางอย่าง หลายครั้งเราก็อ้างอิงจากสิ่งที่สื่อนำเสนอมา ไม่ว่าจะจากหนัง ภาพข่าว สารคดี (ซึ่งแน่ล่ะว่าทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่ image หรือภาพแทนของสิ่งนั้นๆ เท่านั้น ไม่ใช่ของจริง) เราต่างกำลังถูกรายล้อมด้วยภาพจำนวนมหาศาล
ในแง่ของวัยรุ่นทุกวันนี้ ก็เป็นวัยที่เติบโตขึ้นท่ามกลางภาพจำนวนมหาศาล ‘สุนทรียภาพ’ (visual aesthetic) จึงเป็นภาษาหนึ่งที่วัยรุ่นเหล่านี้ดูจะสามารถรับรู้และนำมาสร้างเป็นงานของตัวเองได้ โอเค ถ้าเราตัดประเด็นเรื่องความงามความเหมาะสมออกไป วัยรุ่นในคลิป Tik Tok ที่ย่อมต้องเคยชินกับ mv กับละคร น้องๆ ก็ดูจะมีการใช้เทคนิคทางภาพ – ใช้ cinematography – คือสามารถเล่าเรื่องด้วยเทคนิคทางภาพ จัดโครงสร้างการเล่าเรื่องด้วยภาพ เป็นวัยรุ่นยุคที่รับรู้และใช้ ‘ภาษาภาพ’ ได้
ในคลิปเช่นน้องที่เพิ่งเสียพ่อไป น้องเองก็มีวิธีการเล่าเรื่องที่ spectacle และ cinematic มาก เหมือนน้องกำลังนำเสนอภาพชีวิตและความรู้สึกสูญเสียจริงๆ ของตัวเองเข้าไปด้วยวิธีของภาพยนตร์ เป็นเหมือนฉากหนึ่งในหนัง ในมิวสิควิดิโอ มีการชี้ไปที่รูปภาพ ถ่ายไปที่ข้าวของ แล้วถ่ายกลับมาที่ใบหน้าที่กำลังร้องไห้ของตัวเอง ด้วยฟังก์ชั่นของ Tik Tok ที่ให้ใส่เพลงประกอบการตัดต่อ ใส่เทคนิกต่างๆ ลงไปในคลิป เหล่าวัยรุ่นก็ใช้ฟังก์ชั่นในการสร้างผลงาน รับบทเป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดงกันอย่างสนุกสนาน
ในโลกโซเชียลที่ผลักดันให้เราแสดงตัวตนและต้องการการยอมรับ ต้องการไลก์ ดูเหมือนว่าเราจะถูกกระตุ้นให้ ‘โพสต์’ แทบทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเรา ในจุดนี้เองที่เราอาจรู้สึกว่า การโพสต์เรื่องเกี่ยวกับตัวเองของเด็กๆ อย่างในแอพฯ Tik Tok เริ่มกระเถิบเข้าไปสู่พื้นที่ที่เป็น ‘พื้นที่ส่วนตัว’ มากๆ เช่น ในพื้นที่ของการสูญเสีย ไปจนถึงการแสดงฉากว่าตัวเองตาย (เพื่อแสดงประกอบเนื้อหาของเพลง) ซึ่งก็เป็นปรากฏการณ์ที่น่าทำความเข้าใจว่า อะไรที่ทำให้เราเลือกที่จะเผยพื้นที่เฉพาะของเราออกสู่สาธารณชนมากขึ้นเรื่อยๆ
อ้างอิงข้อมูลจาก