“ตำปูปลาร้าจานนึงค่ะป้า ขอแซ่บๆ”
“ว้าย ผู้คนนั้นแซ่บมาก พ่อของลูก”
“ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้แซ่บหลาย เดี๋ยวพาไปชิม”
“ชุดนี้แกแซ่บเวอร์อะ สายฝ.มาก”
คนไทยเป็นคนแซ่บ และภาษาไทยก็แซ่บ ดูสิ แค่การใช้คำว่า ‘แซ่บ’ ก็สนุกสนานและแพรวพราวมากๆ แล้ว! แต่ถ้าใครอ่านแล้วยังงงๆ วันนี้เราจะพาไปสำรวจกันคำว่าแซ่บแต่ละแซ่บแปลว่าอะไรบ้าง ในชีวิตจริงเวลาเจออะไรแซ่บๆ จะได้ใช้ให้ถูกเนอะ มามะลองทำดูหนูทำได้!
‘แซ่บ’ อีสานแปลว่า ‘อร่อย’
แม้คนภาคอื่นจะออกเสียง ‘แซ่บ’ ว่า ‘แซ็บ’ (เสียงสั้น) แต่สำหรับคนอีสานแท้ๆ ‘แซ่บ’ ต้องออกเสียงว่า ‘แซบ’ (เสียงยาว) และมีความหมายว่า ‘อร่อย’ (ไม่ใช่ ‘เผ็ด’ แบบที่โฆษณาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปป่าวประกาศ) ดังนั้นอาหารทุกอย่างแซ่บได้หมด ไอศครีมหวานเย็นก็แซ่บได้ ข้าวผัดปูก็แซ่บได้ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใสก็แซ่บได้ ส้มตำพริกเม็ดเดียวก็แซ่บได้ถ้าคุณเป็นคนไม่กินเผ็ด นอกจากนี้คนอีสานมีวิธีพูดคำว่าแซ่บหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น แซ่บคักๆ แซ่บอีหลี แซ่บหลาย แซ่บนัว แซ้บแซ่บ เพราะพูดว่าแซ่บอย่างเดียวมันไม่แซ่บพอ ว่าแล้วก็ไปฝึกใช้คำว่าแซบให้แซบเท่าคนอีสานกันค่ะซิส!
‘แซ่บ’ ภาคอื่นแปลว่า ‘เผ็ด’
อย่างที่บอกว่าจริงๆ แล้ว ‘แซบ’ ของคนอีสานแปลว่าอร่อย แต่บังเอิญว่าลิ้นของคนภาคอื่นๆ จะคุ้นชิ้นกับอาหารอีสานที่มีรสเผ็ด ไม่ว่าจะเป็นตำบักหุ่ง จิ้มจุ่ม แจ่วฮ้อน ต้มแซ่บ ฯลฯ เวลาคนเหนือ ใต้ ออก ตก และกลางยืมไปใช้คำว่า ‘แซ่บ’ จึงออกเสียงสั้นแบบนี้ และมีความหมายว่า ‘เผ็ด’ ฉะนั้นเวลาไปร้านส้มตำแถวบ้านแล้วบอกป้าคนตำว่า ‘ขอแซ่บๆ’ ป้าอาจจะมองหน้าแล้วยิ้มเยาะ คิดในใจว่าชั้นทำอร่อยอยู่แล้วย่ะ! ถ้าอยากได้เผ็ดๆ ต้องบอกป้าว่า ‘ขอเผ็ดๆ’ หรือไม่ก็ ‘ขอแซ่บนัว’ ซึ่งแปลว่ารสจัดจ้านกลมกล่อมนั่นเอง
‘แซ่บ’ คำแสลงแปลว่า ‘สวย หล่อ เซ็กซี่ สนุก ฉาว’ และอื่นๆ อีกมากมาย
ความปวดหัวมันอยู่ตรงนี้แหละ เพราะเวลาเราใช้ ‘แซ่บ’ เป็นคำแสลง มันจะแปลว่าอะไรก็ได้ตามแต่บริบทนั้นๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เรียกผู้หญิงสวยอึ๋ม เอวเอส สะโพกผาย หรือผู้ชายหล่อล่ำ กล้ามแน่น เห็นแล้วน้ำเดิน ซึ่งจริงๆ แล้วความหมายของคำแสลง ‘แซ่บ’ ก็มีพื้นฐานมาจากความหมายเดิมที่ว่า ‘อร่อย’ นั่นแหละ ประมาณว่าถ้าได้กินผู้หญิงหรือผู้ชายแบบนี้ต้องอร่อยแน่ๆ แล้วยังอิงมาจากความหมายที่ว่า ‘เผ็ด’ ด้วย เพราะคำว่า ‘เผ็ด เผ็ช เผ็ชเวอร์’ ก็เป็นอีกหนึ่งคำแสลงที่ใช้บรรยายคนเซ็กซี่
นอกจากนี้ แสลงคำว่า ‘แซ่บ’ ยังอาจจะแปลว่า ‘สนุก’ หรือ ‘ฉาว’ ได้อีก เช่น เวลามีเรื่องจะเมาท์กับเพื่อน ก็สามารถพูดได้ว่า ‘แก มีเรื่องจะเล่า แซ่บมาก’ แถมยังสามารถเรตความแซ่บของเรื่องได้อีก เช่น ‘ แก เรื่องนี้แซ่บๆ พริกกะเหรี่ยง 10 เม็ด’
เห็นไหมว่าคนไทยและภาษาไทยแซ่บหลาย! พอรู้พื้นฐานแล้วก็ไปหัดใช้คำว่า ‘แซ่บ’ ในบริบทต่างๆ ได้เลย จะแซ่บ แซ้บแซ่บ แซ่บคักๆ แซ่บแค่ไหนก็ลองใช้กันดู! และก่อนแยกย้ายกันไปแซ่บ เราขอยกตัวอย่างสุดท้ายของการใช้คำว่า ‘แซ่บ’ อย่างถูกต้อง—MK จิ้มจุ่ม แซ่บสะเดิด เซ็ตเมนูจิ้มจุ่มรสแซ่บแบบอีสานแท้ๆ จาก MK ที่รู้ใจว่าคนไทยกับความแซ่บเป็นของคู่กัน โดยเราสามารถเลือกระดับความแซ่บได้ตามใจตัวเอง จะแซ่บ แซ่บหลาย แซ่บเวอร์ หรือจะขอแซ่บแค่ครึ่งหม้อ อีกครึ่งขอเป็นน้ำซุปสุกี้รสชาติกลมกล่อนที่คุ้นเคย MK ก็จัดให้ได้!
พอร์คเลิฟเวอร์ต้องเลือกแซ่บด้วย ชุดหมูแซ่บสะเดิด ที่มีจานหลักเป็น รวมฮิตหมูแซ่บ (หมูคุโรบูตะดับเบิ้ลโรล สันคอหมูดำ และกริลล์ชีสบอล) และที่ขาดไม่ได้กับเมนูพิเศษที่คิดค้นมาเพื่อน้ำซุปจิ้มจุ่มโดยเฉพาะอย่าง หมูนุ่มหมักสมุนไพร และ ลูกชิ้นลาบ 3 แซ่บ (ลาบหมู ลาบปลาหมึก ลาบไก่)
ส่วนซีฟู้ดเลิฟเวอร์อย่าพลาด ชุดซีฟู้ดแซ่บสะเดิด คุ้มสุดๆ กับจาน รวมฮิตซีฟู้ด (ปลาแพนกาเซียสดอร์รี่ กุ้งเต็มตัว ลูกชิ้นปลา และกริลล์ชีสบอล) ไก่นุ่มหมักสมุนไพร และ ลูกชิ้นลาบแซ่บทะเล (ลาบปลาหมึก ลาบไก่)
โดยไม่ว่าจะเลือกชุดไหนก็จะได้รับ ชุดผักแซ่บสะเดิด ที่มีใบโหระพาและผักชีฝรั่งตามขนบจิ้มจุ่มอีสานบ้านเฮา ถ้ายังไม่จุใจก็สามารถสั่ง วุ้นเส้นญี่ปุ่น และ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ที่ดูเผินๆ อาจจะไม่เข้ากัน แต่พอได้ชิมแล้วจะรู้ว่าแซ่บนัวมากจริงๆ