การออกล่าของคุณเป็นยังไงบ้าง?
การกลับมาของ Monster Hunter Wild ในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย เกิดปรากฏการณ์ที่ใครๆ ก็ไป ล่าแย้
แน่นอนว่าระบบของเกม งานออกแบบเกมเพลย์ ทำได้อย่างดีเยี่ยมสมกับการรอคอย และระบบการเล่นคลาสสิกคือการออกล่า แล้วนำสิ่งของต่างๆ มาสร้างเป็นอาวุธและอุปกรณ์ ก็ยังคงสนุกในการพัฒนาตัวละครของเราให้เจริญเติบโตขึ้นได้
ทว่า ในการออกล่า ‘มอนฮัน’ ในภาคนี้ ก็ยังมีความพยายามในการ ‘ให้เหตุผล’ ในการล่าเหล่ามอนสเตอร์ตัวยักษ์รวมถึงสิ่งมีชีวิตโบราณของเราอยู่ ดูเหมือนว่าในภาค Wild จะค่อนข้างเน้นในประเด็นร่วมสมัย คือการมองเห็นและรักษาระบบนิเวศ การให้เหตุผลหรือกระท่ังการรอให้สมาคมออกคำสั่งอนุญาตในการล่าก่อนถึงจะลงมือทำการล่าได้
ในระดับเนื้อเรื่องจึงค่อนข้างขัดกับภาคปฏิบัติของตัวเกม คือเราทุกคนสนุกกับการออกคอมโบ ลับอาวุธในการสับเจ้ามอนสเตอร์ยักษ์ใหญ่ให้เป็นชิ้นๆ เพื่อชำแหละแยกส่วนออกมา และเราต้องทำการฟาร์ม คือการสังหารมอนสเตอร์ให้ได้มาก นอกจากจะสังหารเยอะๆ แล้ว ต้องทำมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทำให้ชิ้นส่วนแตกมากที่สุด เป็นแผลและแทงทะลุรอยแผลให้ได้บ่อยที่สุด
ซึ่งหลายครั้ง โดยเฉพาะในจังหวะที่เราไล่กวดพวกมันที่กำลังเดินกะเผลกกลับไปรัง เราอาจจะเริ่มรู้สึกว่า ทำไมเราใจร้ายจัง (แต่มันจำเป็น)
สิ่งที่น่าสนใจคือ เกมแบบมอนฮัน และเกมอื่นๆ ความรื่นรมย์ของเกมอย่างหนึ่ง คือการที่เกม มอบโลกที่กระฉับกระเฉง และพาเราไปยังกิจกรรมที่ต่างไปจากโลกปัจจุบัน มอนฮันพาเรากลับไปยังห้วงเวลาที่เรายังเป็นนักล่า กิจกรรมทั้งหลายตอบสนองความต้องการพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต เราล่า เราฆ่า ทำเครื่องสวมใส่ และแน่นอน เรากิน
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ตัวเกม จะออกแบบให้การกินเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ผู้พัฒนาลงแรงให้ภาพการกินในเกม มีความสวยงาม น่ากิน และถ้าเรามองในด้านหนึ่ง การปรุงอาหาร เป็นอีกหนึ่งรอยต่อและการให้เหตุผลว่า ในการกลับไปสู่สัญชาติญาณดั้งเดิมของมนุษย์ การแรุงและการกินนี่แหละที่เป็นอีกหนึ่งความเป็นอารยะ ทำไมการกินถึงสำคัญ เราไปล่าโดยที่ไม่กินไม่ได้ และทำไมมอนฮันภาคหลังๆ ถึงให้ความสำคัญกับการปรุงและการกินนัก
อาหาร การเกม
ประเด็นอาหารใน Monster Hunter เป็นประเด็นมาตั้งแต่ภาค World ซึ่งถ้าเรามองย้อนไป โลกของวิดิโอเกม ค่อนข้างมีอาหารและการกินเป็นส่วนสำคัญที่เกมพยายามสร้างความน่าอร่อย หรือนำเอาอาหาร ในฐานะชิ้นส่วนจากโลกแห่งความจริงเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนให้เราได้รู้สึกสมจริงไปกับเกมได้ กรณีเกมแบบมอนฮัน โลกของการล่าและมังกรเป็นอีกโลกที่เราไม่เคยสัมผัส แต่อาหารกลับเป็นจุดที่เรารู้สึกรับรู้ถึงรสชาติและความอร่อยที่เป็นรูปธรรมได้
จากบทสัมภาษณ์ของทาง Capcom ที่ผู้เล่นฮือฮากับการออกแบบภาพของการปรุงอาหารที่อบอุ่น นุ่มนวล และน่ากินของเจ้าแมวที่ฐานของเรา ผู้พัฒนาระบุว่า วัตถุดิบและสูตรอาหารต่างๆ พัฒนาขึ้นอย่างจริงจัง มีแนวคิดว่าต้องนำเสนออาหารที่ดูมีคุณภาพ ผกผันไปตามฤดูกาล ทีมพัฒนาตั้งใจลงแรงเพื่อให้ขยายความรู้สึกของอาหารเพื่อทดแทนกลิ่นและรสที่เกมให้ไม่ได้ แต่ภาพนั้นจะทำให้ผู้เล่นรับรู้ถึงรสชาติและความน่ากินทางภาพให้ได้มากที่สุด ความอร่อยถูกทำผ่านการให้รายละเอียดของแสง สี และความนุ่ม
ข้อค้นพบของทีมพัฒนาที่น่าสนใจคือ ทีมพบว่าการให้ภาพความน่าอร่อยที่สำคัญที่สุดคือความรู้สึกจากสัมผัส และอุณหภูมิคือความอุ่นหรือร้อนของอาหาร ความนุ่มของเนื้อจะรับรู้ได้จากความเด้ง ความน่ากินมาจากน้ำมันที่หยดออก หรือจากปรากฏการณ์ชีสยืดในภาค Wild ทางทีมก็บอกว่าต้องใช้เทคนิกการพัฒนาภาพระดับสูงถึงจะได้ภาพชีสยืดที่น่ากินออกมา
การที่ผู้พัฒนาบอกว่าอาหารที่น่ากิน และภาพที่สำคัญของการปรุงและทำอาหารในชีวิตที่เต็มไปด้วยการล่า จึงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบชองเกมที่น่าสนใจ ความอบอุ่นใจและความรู้สึกปลอดภัยในพื้นที่มั่นที่มีอาหารที่เอร็ดอร่อยและดูอบอุ่น ทำให้ตัวเกมที่จริงๆ ว่าด้วยารสำรวจและการล่า ไม่น่ากลัวหรือตึงเครียดจนเกินไป
อาหารจึงเป็นส่วนสำคัญหนึ่งของพื้นที่ปลอดภัย
อาหารและอารยธรรม
ในทางสังคม การปรุงอาหารถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการก่อรูปอารยธรรม อันที่จริง บรรยากาศของแคมป์ที่มีแมวผู้อบอุ่น มีความรอบรู้ในการปรุงอาหาร ถือเป็นตัวแทนหนึ่งของการมีอารยธรรม การล่าและฆ่าของเรานำวัตถุดิบจากสิ่งมีชีวิตกลับมาปฏิบัติอย่างคุ้มค่าและสวยงามอย่างมีอารยะ
สำหรับ Monster Hunter Wild บทสัมภาษณ์จาก IGN ผู้พัฒนาย้ำว่าในภาคนี้การกินยังคงเป็นหัวใจการตัวเกม ซึ่งการกินมีจุดเชื่อมโยงกันทั้งการเป็นกิจกรรมตามสัญชาตญาณ ในเกมปรากฏการณ์กินในหลายระดับและเป็นหัวใจของห่วงโซ่รวมถึงสิ่งสำคัญที่สิ่งมีชีวิตทำ สัตว์ต่างๆ ในเกมล่าและกินกันเอง พวกมันถูกออกแบบกระทั่งให้ไปที่แหล่งน้ำเพื่อกินน้ำ
การกินเป็นเรื่องดั้งเดิมที่สุด ผู้พัฒนายังชี้ว่า การกินนี่แหละ เป็นความปรารถนาที่พื้นฐานที่สุด ใช้คำว่าเป็น primitive desire คือเป็นแรงขับพื้นฐานดั้งเดิมของมนุษย์เรา เราฆ่าและเรากิน และการกิน เป็นความรื่นรมย์ที่เข้าใจง่าย เป็นความรื่นรมย์ที่เรามีมาตั้งแต่บรรพกาล ในแง่นี้เราอาจตีความเชื่อมโยงสิ่งที่เราในฐานะมนุษย์ ในฐานะฮันเตอร์ทำ การกินของเรา สะท้อนไปกับการกินของสรรพสัตว์ ซึ่งเชื่อมโยงเราเข้าสู่ระบบนิเวศและความเป็นธรรมชาติ
ความจริงจังเรื่องการกิน มีความจริงจังในหลายด้านนอกจากเป้าหมายที่จะทำให้เราหิวจากการออกแบบ ‘ภาพของความอร่อย’ ในภาค Wild เป็นภาคที่อาหารหลากหลายขึ้น จากเดิมมักเป็นอาหารจานเนื้อสัตว์ ด้วยความคิดว่าเราต้องกินเนื้อเพื่อให้มีพลังในการออกล่า ภาคนี้มีอาหารจานผักและไข่มากขึ้น
ทั้งเนื้อเรื่องของภาคที่ว่ากลุ่มอารยธรรมอื่นๆ กลุ่มชนเผ่าเอง สิ่งที่เราเริ่มสัมผัสถึงความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นมิตร คือจังหวะที่เราได้เจออาหารของกลุ่มชนต่างๆ ในเรื่อง อาหารของกลุ่มชนต่างๆ ได้รับการออกแบบอย่างถี่ถ้วน รวมถึงระบบการเลี้ยงอาหารที่สะท้อนการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครและกลุ่มคนอื่นๆ
สำหรับการเชื่อมโยงกันด้วยการกินและการปรุงอาหาร ดูเหมือนว่า อาหารและการกินจะเป็นความเชื่อมโยงสำคัญที่เรามีต่อแมวเหมียวพาลิโก เป็นภาพของความสุขหนึ่งในการรับภารกิจออกล่า การทำอาหารและกินอาหารอร่อยๆ ด้วยกัน ในบรรยากาศที่สนุกสนาน
สุดท้าย Monster Hunter Wild เป็นอีกเกมที่ยอดเยี่ยม นอกจากตัวเนื้อเรื่องที่แล้วแต่ความชอบ การใส่ใจในรายละเอียด และจากโจทย์พื้นฐานเช่นการคิดว่าการกินเป็นส่วนสำคัญของกิจกรรมในโลกยุคที่เราใส่เกราะถือดาบ ถึงการวางโจทย์ว่าทำอย่างไรให้การกินเป็นส่วนประกอบสำคัญ และทำให้ความน่ากิน ดูน่ากินจริงๆ
ความเอาจริงเอาจัง และรายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้ที่ทำให้เรารู้สึกถูกดึงเข้าไปในเกม การมีร่องรอยที่เราสัมผัสเข้าไปในโลกจินตนาการและทำให้พวกมันมีเนื้อหนัง สมจริง มีรสชาติมากขึ้น น่าจะเป็นอีกองค์ประกอบที่ทำให้ตัวเกมนั้นๆ น่าสนใจและพาเราไปอีกโลกได้ง่ายขึ้น
และอันที่จริง ด้วยระบบของเกม การใส่รายละเอียดอื่นๆ นี่แหละที่เป็นความมหัศจรรย์ของเกม ที่ทำให้เรา สนุกไปกับการไล่ฆ่าและชำแหละเจ้ามอนสเตอร์ที่ทาทางกิลและพี่ๆ น้องๆ ชาวแคมป์ของเราบอกว่าแสนจะน่ารักและต้องดูแลรักษาได้
อ้างอิงจาก