1.
เดลเลน มิลลาร์ด (Dellen Millard) เป็นลูกเศรษฐีในธุรกิจการบินของแคนาดา เป็นผู้ดี มีทรัพย์สินมั่งคั่ง ร่ำรวย ที่ตอนอายุ 14 ปีก็ขับเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินได้คนเดียว นับเป็นนักบินอายุน้อยสุดของประเทศ เขาเกิดในปี ค.ศ.1985 พออายุได้ 27 ปี ก็เป็นเจ้าของสินทรัพย์จำนวนมาก พร้อมรถหรูอีกจำนวนหลายคัน เป็นนักรัก เพื่อนฝูงมากหน้าหลายตา จัดงานปาร์ตี้ได้อย่างสนุกทุกสัปดาห์แถมจัดงานแข่งรถวิบากได้อย่างสุดเหวี่ยงเป็นประจำ และเป็นคนที่หญิงสาวจำนวนมากมองด้วยความหลงใหลอยากหลับนอนด้วย
แต่เดลเลนมีชีวิตอีกโลกหนึ่งซึ่งทำให้เขาต้องโทษติดคุกในเรือนจำถึงวันนี้ ความเลวร้ายของชายคนนี้คือเรื่องสุดสยองแก่สังคมและคนที่รู้จักเขาจำนวนมากต่างตกใจที่ได้รู้ว่า เดลเลนเป็นฆาตกรต่อเนื่องด้วย
2.
ชีวิตครอบครัวของเดลเลนนั้นค่อนข้างมัวหมอง พ่อกับแม่หย่ากัน เขาอยู่กับพ่อที่มีธุรกิจระดับร่ำรวย อย่างไรก็ดีในปี ค.ศ.2012 ขณะเดลเลนอายุได้ 27 ปี พ่อก็ยิงตัวตายบนเตียงนอนในบ้านพักสุดหรู ทำให้เขาได้รับมรดกเป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้านในทันที
ในวันที่ 6 พฤษภาคม ปี ค.ศ.2013 ทิม บอสมา (Tim Bosma) อายุ 32 ปีโพสต์ขายรถกระบะในออนไลน์ มีลูกค้านัดขอมาดูรถที่บ้าน ทิมต้อนรับชาย 2 คนแล้วพาเขาไปลองขับรถกระบะ ในคืนนั้นทิม บอสมาไม่ได้กลับบ้าน ภรรยาที่เลิกงานกลับมากับลูกสาวตัวน้อยต่างเฝ้ารอ โทรศัพท์ทิมปิดเข้าสู่ระบบฝากข้อความ ข้อความที่พิมพ์ไปก็ไม่ตอบ เช้าวันรุ่งขึ้นภรรยาเข้าแจ้งตำรวจถึงเหตุการณ์นี้ทันที
เจ้าหน้าที่ลงมือสืบสวนคดีคนหายในทันที ภรรยาของทิมบอกว่า สามีถามว่าถ้าคนมาดูรถอยากจะเอารถไปลอง เขาต้องไปด้วยไหม ซึ่งภรรยาก็ยืนยันว่าต้องไป เพราะยังไงก็ต้องเอารถกระบะกลับมา
แต่ทิมไม่เคยกลับมาหาภรรยาอีกเลย
“มันเป็นแค่รถกระบะ รถกระบะงี่เง่า
คุณไม่ต้องการตัวทิมหรอกค่ะ
แต่ฉันต้องการ ลูกสาวของเราก็ต้องการพ่อของเธอกลับบ้าน”
คนหายไม่ใช่เรื่องเล็กในเมืองที่แสนสงบ มีการแถลงข่าว มีการระดมทีมค้นหา ในอินเทอร์เน็ตมีการช่วยหาตัวทิม ตำรวจค้นพบมือถือของทิม 3 วันหลังการหายตัวไป ถูกทิ้งไว้ริมทางห่างจากเมืองที่เขาอยู่ประมาณ 20 นาที เมื่อตรวจสอบเบอร์ที่โทร.เข้าออกหาทิมล่าสุด พบว่าเป็นเบอร์จากมือถือใช้แล้วทิ้ง การค้นหาขยายวงกว้าง มีพลเมืองดีช่วยกันตามหาตัวทิม หนึ่งในนั้นเป็นอดีตทหารอิสราเอลซึ่งขายรถกระบะได้ให้ข้อมูลรูปพรรณสัณฐานกับตำรวจว่า ก่อนหน้าที่ทิมจะหายตัวไป 2 วัน มีชาย 2 คนมาขอดูรถกระบะที่เขาขาย แล้วเขาพาไปลองรถด้วย
4 วันหลังการหายตัวไป ตำรวจได้รับข้อมูลชาย 2 คนที่มาติดต่อซื้อรถผ่านทางอินเทอร์เน็ต และค้นพบรถกระบะในที่ดินซึ่งระบุว่าเป็นของแม่เดลเลน มิลลาร์ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจากโรงพักใกล้เคียงให้ข้อมูลถึงชาย 2 คนที่อาจเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่กับทิมก่อนเสียชีวิตว่าคือเดลเลน มิลลาร์ด เศรษฐีอายุน้อยร้อยล้านจากมรดกพ่อ จึงมีการรวบรวมหลักฐานออกหมายจับเขากับเพื่อนทันที
จากการเข้าตรวจค้นรถกระบะ ตำรวจไม่พบศพทิม แต่เมื่อตรวจอย่างละเอียดพบรอยเลือดซึ่งเมื่อไปตรวจอย่างละเอียดก็พบว่าเป็นรอยเลือดของทิม โดยในรถคันนั้นมีร่องรอยความพยายามจะกลบเกลื่อนหลักฐาน แถมกุญแจรถคันดังกล่าวก็ดันไปพ่วงอยู่กับพวงกุญแจของเดลเลนด้วย นอกจากนี้ยังมีพยานซึ่งขี่รถวิบากเล่าว่า เขาเห็นที่ดินของเดลเลน มีเตาเผาศพติดตั้งไว้
เจ้าหน้าที่เข้าค้นที่ดินนั้น ในเตาเผาศพพบกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อยและฟันจำนวนหนึ่ง แม้จะยากพิสูจน์ดีเอ็นเอ แต่หลักฐานที่พบ ทำให้ตำรวจสืบสวนพบว่าทิมถูกยิงและถูกฆ่าในรถกระบะคันดังกล่าว ก่อนจะถูกนำร่างไปเผาในเตา เมื่อค้นพบทุกอย่างเพียงพอแล้ว ก็นำไปสู่การแจ้งข้อหาเดลเลนและเพื่อนของเขาที่ชื่อว่ามาร์ค สมิช (Mark Smich) ซึ่งเป็นพ่อค้ายาเรียน ม.ปลายไม่จบ มีคดีติดตัวเป็นหางว่าว
โดยมาร์คสนิทกับเดลเลนลูกเศรษฐีผ่านทางการเล่นเกมส์ ทั้งสองรู้จักกันมาเกือบ 7 ปีแล้ว และมักจะออกไปก่อเหตุลักรถเพื่อความสนุกสนานตื่นเต้นโดยไม่หวังเงินทองอะไร เพราะเดลเลนมีเงินพอแล้ว เมื่อแดลแลนโดนจับ ตำรวจก็ตามไปจับมาร์คในวันที่ฝังศพทิม ทั้งสองถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมทันที
ในเวลาต่อมา ทั้งมาร์คและเดลเลนต่างกล่าวหากันเองว่าก่อเหตุฆ่าทิม โดยมาร์คยืนยันว่าคนที่ยิงทิมคือเศรษฐีหนุ่มที่นั่งหน้าคู่กับทิม โดยตอนนั้นมาร์คนั่งอยู่หลังเบาะ แต่เดลเลนกลับกล่าวว่า มาร์คทำปืนลั่นใส่ทิมต่างหาก
อย่างไรก็ดีลูกขุนไม่สนใจว่าใครกันแน่ที่สังหารทิม เพราะข้อกล่าวหาว่าทั้งสองมีส่วนรู้เห็นในการฆาตกรรมครั้งนี้เพียงพอจะตัดสินลงโทษได้แล้ว
แต่นี่ไม่ใช่คดีแรกที่ทั้งสองก่อเหตุฆาตกรรมร่วมกัน
3.
ตำรวจมีข้อสงสัยในตัวเดลเลน เมื่อเขาและมาร์คโดนจับ เจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแส จนนำไปสู่การตรวจสอบคดีการหายตัวไปอย่างลึกลับของอดีตแฟนสาวของเดลเลนที่ชื่อว่า ลอรา แบ๊บค็อก (Laura Babcock) วัย 23 ปี ซึ่งหายตัวไปเกือบปีแล้ว โดยเธอมีประวัติเคยคบๆ เลิกๆ กับแดลแลนมาเกือบ 5 ปี ก่อนที่ลอราจะหายตัวไป หญิงสาวมีอาการป่วยซึมเศร้าทำร้ายตัวเอง และขายตัวเพื่อหารายได้เป็นบางครั้ง
โชคดีที่แฟนเก่าคนหนึ่งพยายามช่วยเหลือหญิงสาว โดยได้มอบไอแพดแก่ลอราเพื่อไว้ช่วยหางาน พาไปอยู่โรงแรมที่จ่ายเงินให้เพื่อหวังว่าคนรักเก่าจะหลุดจากวงจรชีวิตที่ปวดร้าว แต่ปรากฏว่าลอราดันกลับไปนอนกับเดลเลน ทั้งๆ ที่คุณหนูลูกเศรษฐีรายนี้มีแฟนสาวอยู่แล้วจนเกิดความวุ่นวายต่างๆ นานา
3 กรกฎาคม ค.ศ.2012 เดลเลนพาลอราขึ้นรถไปที่บ้านหลังหนึ่งในหลายๆ หลังของเขา ก่อนหน้านั้นเขาได้หาซื้อปืน และส่งข้อความหามาร์คว่า “กูกำลังทำภารกิจ เจอกันอีก 1 ชั่วโมง” ภาพในมือถือของเดลเลนพบผ้าใบห่อม้วนวัตถุบางอย่างไว้ หลังจากนั้น 2 วัน เตาเผาศพก็ถูกสั่งซื้อมา
ตำรวจพบว่าชายหนุ่มเปิดกูเกิลหาว่า
อุณหภูมิเท่าใดถึงจะร้อนพอเผาศพได้
หลังลอราหายตัวไปครอบครัวของเธอและแฟนเก่าเข้าแจ้งความกับตำรวจ ด้วยความกังวลว่าภาวะจิตใจที่ไม่ปกติของลอราจะทำให้เธอก่อเหตุไม่คาดฝัน แต่คดีนี้ไม่มีความคืบหน้า จนเมื่อเดลเลนโดนจับ แฟนเก่าคนนี้ได้แจ้งครอบครัวลอราให้ส่งข้อมูลให้กับตำรวจ นั่นจึงนำไปสู่การขยายวงสืบสวนในคดีนี้ พวกเขาตรวจค้นที่พักของเดลเลนอย่างละเอียด จนพบไอแพดที่แฟนเก่าลอราให้ พบกระเป๋าของลอรา พบภาพถ่ายมาร์คชี้เตาเผาศพ มีคลิปมาร์คพ่นแรพเนื้อความด่าหญิงแพศยาคนหนึ่งที่ถูกฆ่าอย่างอนาถ
นอกจากนี้เดลเลนยังเขียนจดหมายจำนวน 65 ฉบับถึงแฟนเก่าคนหนึ่งจากในคุก เพื่อให้ช่วยโกหกตำรวจว่าเขาอยู่กับเธอในวันที่ลอราหายตัวไป และลอราตายเพราะเสพยาเกินขนาดต่างหาก แต่คนรักเก่าปฏิเสธจะช่วยเหลือแถมไม่ทำลายจดหมายตามที่เดลเลนร้องขอ โดยได้มอบให้ตำรวจ จนถือเป็นหลักฐานสำคัญทำให้เดลเลนกับมาร์คโดนแจ้งข้อหาเพิ่มอีกกระทง
มาร์คติดคุก 50 ปี สำหรับเดลเลนนั้นหลังเกิดเหตุฆาตกรรมไป 2 ศพ ซึ่งแม้ไม่พบศพ แต่หลักฐานก็มากมายชัดเจนครบถ้วนเพียงพอต่อการดำเนินคดีทั้งสองใน 2 คดีนี้ แต่ตำรวจไม่หยุดแค่นั้น พวกเขาเจาะลึกคดีที่เกี่ยวข้องกับเดลเลนอย่างละเอียดยิ่งขึ้น ก่อนจะพบว่ายังมีคนถูกฆ่าอีกหนึ่ง
นั่นก็คือพ่อของเดลเลนเอง
4.
ตำรวจพลิกฟื้นคดีการเสียชีวิตของเวย์น มิลลาร์ด (Wayne Millard) ขึ้นมาใหม่ เศรษฐีรายนี้ยิงตัวตายโดยการใช้ปืนยิงทะลุเบ้าตาซ้ายดับในห้องนอน แต่เพราะลูกชายเขากลายเป็นฆาตกรฆ่า 2 ศพเสียแล้ว แม้จากการตรวจสอบเวย์นจะดูเหมือนฆ่าตัวตาย แต่ลูกเป็นแบบนี้ ตำรวจก็ต้องพลิกตรวจอย่างละเอียดรอบคอบมากกว่าเดิมยิ่งขึ้นไปอีก
ก่อนจะพบความจริงจากคนในครอบครัวและเพื่อนร่วมงานของเวย์นเล่าข้อมูลว่า เอาเข้าจริงแล้วผู้ตายเคยข่มขู่ไม่พอใจพฤติกรรมของลูกชายอย่างมากที่ไม่สนใจกิจการในครอบครัว ใช้ชีวิตไร้สาระ มั่วยา บ้ากาม จนอาจทำให้ธุรกิจครอบครัวล่มสลายได้ เวย์นจึงขู่ว่าหากไม่เลิกทำตัวแบบนี้ จะตัดออกจากกองมรดกทันที เพราะลูกชายขนาดยังไม่ได้บริหารงานก็ผลาญเงินของครอบครัวเป็นจำนวนมาก
แต่ก่อนที่เวย์นจะได้ทำแบบที่ตั้งใจไว้
เขาก็ตายเสียก่อน
เมื่อตำรวจได้รับข้อมูลตรงนี้แล้ว จึงไปรื้อสำนวนคดีดูใหม่ ตรวจสอบทุกอย่าง แล้วพบว่าปืนที่เวย์นใช้ยิงตัวตายนั้น ถูกซื้อมาโดยลูกชายก่อนวันที่ลอราจะหายตัวไป เมื่อตรวจปืนที่ใช้ก่อเหตุอย่างละเอียดก็พบดีเอ็นเอของลูกเต็มไปหมด แต่ไม่มีคราบเขม่าดินปืนบนมือและเสื้อผ้าของเวย์นเลย
นั่นทำให้ตำรวจแจ้งข้อหาแก่มิลลาร์ดคนลูกว่าฆาตกรรมพ่อของตัวเอง โดยแดลแลนถูกตัดสินจำคุก 75 ปี ซึ่งในคดีฆาตกรรมทิมนั้น อดีตแฟนสาวของเดลเลนถูกแจ้งข้อหาฐานทำลายพยานหลักฐานบางส่วน แต่เนื่องจากไม่มีส่วนรู้เห็นฆาตกรรม จึงต้องโทษจำคุก 3 เดือนก่อนปล่อยตัวออกมา เหล่าแฟนพันธุ์แท้คดีฆาตกรรมทั้งหลายส่งข้อมูลว่า ตอนนี้เธออาศัยอยู่ในโปแลนด์และกำลังเรียนในคณะแพทยศาสตร์ของที่นั่น ส่วนร่างของทิมและลอรานั้นไม่เคยถูกค้นพบแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเตาเผาศพได้ทำลายเศษซากชิ้นส่วนไปหมดแล้ว
พ่อของลอราได้พูดว่า “ไม่เพียงแค่ครอบครัวของบอสมาและพวกเราเท่านั้นที่สูญเสียคนที่รัก ครอบครัวของเดลเลนเองก็ต้องอยู่กับความจริงว่าคนในตระกูลได้ก่อเหตุฆ่าพ่อของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม พวกเราจึงมีความรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวเวย์นเช่นกัน”
5.
การฆ่า 3 ศพของเดลเลน ทำให้เขากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องตามทฤษฎีในทันที ผู้คนต่างตกใจช็อกที่คนซึ่งมีชีวิตแทบจะสมบูรณ์แบบกลายเป็นฆาตกรสุดโหดได้ ถึงวันนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเดลเลนถึงทำแบบนี้ แรงจูงใจอะไร มีปัญหาอะไร ทางตัวเดลเลนเองมีโอกาสพูดถึงสาเหตุการลงมือฆ่าในชั้นศาลหลายครั้ง แต่เขาไม่เคยพูดถึงมันเลย จนผ่านไปหลายปีในเรือนจำ เขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนยอมรับว่ามีส่วนกับการฆ่าทิมเพียงคนเดียว ส่วนพ่อและลอรานั้น เขาไม่ได้ทำ
เขาบอกว่ามีคนที่เกลียดเขามาก ซึ่งมันเป็นสิ่งแรกที่เกิดขึ้นในสังคมจนส่งผลต่อคำตัดสินในคดี โลกจึงไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเสียเลย ทางนักข่าวเองก็ได้ถามกลับว่า ถ้าแดลแลนคิดแบบนั้น แล้วตัวทิม บอสมาซึ่งอยู่ในรถกระบะล่ะ เขาอยู่ในสถานที่ซึ่งไม่ยุติธรรมด้วยเหรอ เดลเลนได้ฟังแล้วก็ตอบไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า
“การที่ทิมขึ้นไปบนรถคันนั้น ผมไม่เห็นจะเป็นประเด็นอะไรเลย แต่แน่ละสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น มันโคตรไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเช่นกันและมันไม่ควรจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลย”