ราวๆ กลางปี 2016 มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งที่จู่ๆ ทั้งนักวิจารณ์ นักวิชาการ และนักอ่านทั่วไปต่างก็ยกย่องชื่นชมกันไม่หยุดปาก แถมพอถึงช่วงปลายปี หนังสือเล่มเดียวกันนี้ก็ติดโผหนังสือแห่งปีของหลายๆ สำนัก จนผมเองก็เริ่มจะสนใจมันขึ้นมา ทั้งที่ไม่ได้สนใจเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้มาตั้งแต่แรก
หนังสือที่ผมกำลังจะพูดถึงมีชื่อว่า Hillbilly Elegy: A Memoir of a Family and Culture in Crisis ครับ อ่านแค่เพียงชื่อเรื่อง คุณผู้อ่านก็คงพอจะเดาได้ว่ามันคงจะเป็นบันทึกความทรงจำ (memoir) อะไรประมาณนั้น ที่เนื้อหาคงจะว่าด้วยวิบากกรรมของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งก็น่าจะเป็นพวก hillbilly กลุ่มคนที่แปลอย่างหยาบๆ ได้ว่า คนหลังเขา แต่หากขยายรายละเอียดเพิ่มก็คือ ชาวอเมริกันผิวขาวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร และมักจะถูกจดจำด้วยท่าทีดูแคลนว่าเป็นพวกบ้านนอก สกปรก และหยาบคาย
ใช่ครับ หนังสือเล่มนี้ถ่ายทอดชีวิตของชาว hillbilly นี่แหละ เพียงแต่ว่านาย J.D. Vance ซึ่งเป็นผู้เขียนเนี่ย แม้ว่าโคตรเหง้าตระกูลของเขาจะเป็น hillbilly กันหมด อีกทั้งเขาเองก็เติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมแบบ hillbilly ซึ่งหล่อหลอมเด็กๆ ส่วนใหญ่ให้กลายเป็น hillbilly ต่อๆ ไป เพียงแต่นาย Vance ของเรากลับผิดแผกแตกต่างไปจากคนอื่น เพราะไม่เพียงแต่จะไม่จมปลักอยู่กับที่เท่านั้น แต่ยังจบกฎหมายจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอย่าง Yale อีกด้วย
เปล่าครับ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้จะมาสอนวิธีเปลี่ยนชีวิตพิชิตฝันแต่อย่างใด หากสิ่งที่ Vance เสนอให้เห็นผ่านบทบันทึกชีวิตเขาคือความซับซ้อนในสังคมชาว Hillbilly ต่างหาก หรืออาจกล่าวได้ว่า มันคือการอธิบายให้เห็นว่าอะไรคือสาเหตุเบื้องหลังที่ประกอบสร้างอัตลักษณ์ หรือภาพจำต่อชาว Hillbilly อย่างทุกวันนี้
ชาว Hillbilly นั้นภาคภูมิใจในความซื่อสัตย์ เกียรติยศ และความดันทุรังของพวกเขา ภูมิใจในความดื้อด้าน และความรักชาติ (patriotism) อย่างไม่เสแสร้งของพวกเขา ภูมิใจในวิถีการทำงาน ครอบครัวที่แน่นแฟ้น และความเด็ดขาดที่เรียกว่า hillbilly’s justice
ตัว Vance เกิดที่ Kentucky แต่เติบโตที่ Ohio ในครอบครัวที่ไม่เพียงต้องดิ้นรนกับความยากจนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรุนแรงสารพัดที่เกิดขึ้นในบ้านอีกด้วย แม่ของเขาติดเฮโรอีน แถมเพื่อนบ้านก็ยังสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีอาชีพทำมาหากิน เขามีชีวิตที่ไม่ง่าย เพราะแค่เพียงจะเอาชีวิตรอดไปวันๆ ก็ว่ายากแล้ว จะให้มามีความฝันลมๆ แล้งๆ ก็คงจะไร้สาระเต็มที
แต่อย่างที่เล่าไปว่าสุดท้ายแล้ว Vance ก็สามารถพาตัวเองออกจากความจมปลักได้สำเร็จ หากจุดที่น่าสนใจกลับอยู่ที่ความเจ็บปวดของตัวเขาเอง เมื่อต้องค่อยๆ ถอยห่างออกวัฒนธรรม hillbilly ที่มีส่วนหล่อมหลอมเขาขึ้นมา Vance เล่าว่าชาว Hillbilly นั้นภาคภูมิใจในความซื่อสัตย์ เกียรติยศ และความดันทุรังของพวกเขา ภูมิใจในความดื้อด้าน และความรักชาติ (patriotism) อย่างไม่เสแสร้งของพวกเขา ภูมิใจในวิถีการทำงาน ครอบครัวที่แน่นแฟ้น และความเด็ดขาดที่เรียกว่า hillbilly’s justice อย่างที่ Vance ก็ยกตัวอย่างถึงตอนที่เขาถูกชกจนจมูกตอนห้าขวบก็เพราะไปมีเรื่องกับคนที่มาด่าทอแม่ของเขา
Vance เองก็ภาคภูมิใจในความเป็น hillbilly ของตัวเอง เพียงแต่เขาเห็นว่าสาเหตุแห่งปัญหาของสังคม hillbilly นั้นอยู่ที่ ความไม่สอดคล้องกันทางการรับรู้ (cognitive dissonace) กล่าวคือ มันมีความขัดแย้งระหว่างโลกที่ hillbilly เห็น กับคุณค่าที่พวกเขายึดถือ พูดง่ายๆ คือ ถ้า hillbilly ภาคภูมิใจในครอบครัวที่แน่นแฟ้นจริง ทำไมจึงยังมีความรุนแรงภายในเกิดขึ้นไม่เว้นวัน และที่ว่าภาคภูมิใจกับวิถีการทำงาน แต่กลับเลือกจะไม่ทำงาน เป็นหนี้สิน และนอนอยู่กับที่ไปวันๆ
ในทางหนึ่งวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแบบ hillbilly นั้นดูจะพยายามปกป้องตัวเองด้วยทัศนคติที่คับแคบและไม่เคยเปลี่ยนแปลงใดๆ หาก Vance ก็แย้งว่า มันไม่มีวัฒนธรรมใดหรอกที่จะดำรงค์อยู่ในสภาวะสูญญากาศได้โดยตลอด
ที่ Yale… Vance พบว่า ผู้คนที่นั่นต่างก็เหยียดหยาม hillbilly ด้วยทัศนะที่พวกเขามองคนกลุ่มนี้ว่าเป็น white trash หรือ red necks ซึ่งตัวเขาก็จำต้องปกปิดสถานะของตัวเองเอาไว้โดยไม่กล้าเปิดเผยให้ใครรู้ถึงชีวประวัติ เพราะหวาดกลัวต่อสิ่งที่อาจเกิดขึ้นหากเขาถูกพบว่าเป็น hillbilly ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้เขาได้ตระหนักว่าคนที่ Yale ต่างมองว่าการเป็นคนขาวที่ยากจนนั้นนับเป็นความอับอายอย่างรุนแรง ไม่อาจมีได้แม้แต่เกียรติยศใดๆ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า สาเหตุหนึ่งที่หนังสือเล่มนี้โด่งดังขึ้นมานั้นเป็นเพราะกระแสการเมืองสหรัฐฯ ในช่วงนี้ และแม้ว่าหนังสือจะไม่เอ่ยชื่อโดนัลด์ ทรัมป์ออกมา แต่หลายๆ ครั้งที่ Hillbilly Elegy ก็ถูกจัดวางอยู่ในฐานะหนังสือที่สะท้อนสภาพสังคมอเมริกันโดยเฉพาะในช่วงการเถลิงขึ้นของทรัมป์อย่างช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะในกรณีที่หนังสือเล่มนี้คล้ายจะให้ภาพกลับหัวต่อภาพจำของทรัมป์ที่เป็นคนขาวฐานะดี
หนังสือเล่มนี้ในทางหนึ่งจึงคล้ายกับกระบอกเสียงที่สะท้อนสู่สังคมว่ายังมีคนขาวที่ยังต้องดิ้นรนกับชีวิตด้วยความยากลำบาก
นักวิจารณ์ท่านหนึ่งถึงกับบอกว่า การได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์คือสาเหตุที่ทำให้หนังสือเล่มนี้โด่งดังยิ่งกว่าเดิม ด้วยผู้คนต่างพยายามเสาะหาหนังสือที่บอกเล่าถึงด้านกลับต่อภาพจำของคนส่วนใหญ่ที่มีต่อเชื้อชาติและสีผิว
ซึ่งในขณะที่อ่านเรื่องราวที่กลั่นจากความทรงจำของนาย Vance ไปเรื่อยๆ ประเด็นสำคัญที่หนังสือเล่มนี้พยายามจะชี้ให้เห็นคือคำอธิบายต่อความยากจนของประชาชนอเมริกันนั่นเองครับ โดยใช้ชาว hillbilly เป็นกรณีศึกษา คล้ายว่าสาเหตุของปัญหาที่มองเห็นจะวางพาดอยู่บนความเป็นไปได้ที่ว่า ถ้าไม่ใช่วัฒนธรรมแล้ว ก็เป็นกลไกเศรษฐกิจนี่แหละที่ทำให้เราจน
แต่โดยไม่ได้เสนอทางแก้ที่เป็นรูปธรรมนัก Vance ก็ทิ้งท้ายไว้ว่า “ผมไม่รู้หรอกว่าทางออกคืออะไร แต่ผมรู้ว่าเราต้องเริ่มหยุดโทษบุชหรือโอบามา หรือพวกบรรษัทไร้หน้า และถามตัวเองสักทีว่าต้องทำยังไงให้อะไรๆ ดีขึ้นสักที เราชาว hillbilly แม่งต้องตื่นกันได้แล้วว่ะ”
Hillbilly Elegy ไม่เพียงจะเป็นหนังสือที่แสดงส่วนหนึ่งของปัญหาที่สหรัฐฯ กำลังประสบได้น่าสนใจเท่านั้น แต่มันยังถือเป็นบันทึกความทรงจำที่ร้อยเรียงขึ้นด้วยภาษาที่ละเมียด อัดแน่นไปด้วยความซื่อสัตย์บริสุทธิ์ และจริงใจ พูดได้ว่า ต่อให้ไม่มีบรรยากาศของการเมืองปัจจุบันมาข้องเกี่ยว หนังสือเล่มนี้ก็ยังจัดเป็นงานเขียนที่เหมาะควรแก่การอ่านเพื่อทำความเข้าใจและเห็นถึงความสลับซับซ้อนภายในสังคมอเมริกันครับ
Illustration by Waragorn Keeranan