1. ในท่ามกลางกระแสฮอตฮิตในตอนนี้ของภาพยนตร์เรื่อง แฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว ที่พุ่งแทงใจใครหลายๆ คน ก็มีแอนิเมชั่นอีกเรื่องหนึ่งที่เพิ่งฉายรอบสนีกพรีวิวอยู่อย่างเงียบๆ หนังเรื่องที่ว่าก็คือ Kubo and the Two Strings ผลงานเรื่องล่าสุดของ Laika สตูดิโอสต็อปโมชั่นเจ้าของผลงานดังๆ อย่าง Coraline (2009) ParaNorman (2012) และ The Boxtrolls (2014) นั่นล่ะครับ ซึ่งถึงแม้ตัวสตูดิโอแห่งนี้จะเพิ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2005 และมีผลงานที่ผ่านมารวมเรื่องล่าสุดด้วยก็แค่สี่เรื่องเท่านั้น หากแต่สามเรื่องก่อนก็ล้วนกวาดคำวิจารณ์ และต่างก็เข้าชิงรางวัลมาแล้วหลายเวที แถม Kubo and the Two Strings ที่เพิ่งฉายไปหมาดๆ ก็ยังได้รับคำชมล้นหลามถึงขั้นขึ้นเป็นตัวเก็งหนังแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมประจำปีนี้ไปแล้วในตอนนี้
เล่าเรื่องผู้สร้างไปพอหอมปากหอมคอ มาดูที่เรื่องราวของหนังกันบ้างครับ Kubo and the Two Strings เล่าเรื่องของเด็กหนุ่มนามคูโบ ผู้อาศัยอยู่กับแม่บนผาสูงแค่ลำพัง ปลีกตัวออกจากหมู่บ้านเล็กที่ตั้งอยู่ตรงตีนเขา แต่ละวัน คูโบจะสะพายพิณคู่ใจและมุ่งตรงไปยังหมู่บ้านแห่งนั้นในฐานะของนักเล่านิทานปอนๆ และนำเงินที่ได้มาจุนเจือทั้งเขาและแม่ ด้วยมีพรสวรรค์ทางการเล่า นิทานของคูโบจึงเป็นที่ต้องใจชาวบ้านอย่างไม่ยาก หากแต่พอเรื่องราวดำเนินมาใกล้จุดจบเสียทุกครั้งก็ปรากฏว่าดวงตะวันได้เคลื่อนคล้อยใกล้จะตกเสียทุกที ซึ่งด้วยเพราะว่าแม่ของเขาเน้นย้ำอยู่เสมอว่าให้รีบกลับบ้านก่อนอาทิตย์ตก คูโบจึงจำต้องรีบกลับไปยังผาสูงให้ทันเวลาก่อนพระอาทิตย์ลาลับ
หนังค่อยๆ เปิดเผยเรื่องราวให้เรารับรู้ว่าเหตุที่คูโบกับแม่ต้องมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวเช่นนี้ก็เพราะต้องการหลบหนีจากการตามล่าตัวจากน้องสาวฝาแฝดและบิดาของแม่ (หรือคุณตาของเขา) ที่ต้องการครอบครองดวงตาของคูโบ
แต่อยู่มาวันหนึ่งคูโบเผลออยู่ข้างนอกจนเกินเวลา จนเขาถูกครอบครัวอันชั่วร้ายของแม่หาตัวพบ คูโบจำต้องหลบหนีจากการไล่ล่า และพร้อมๆ กันก็ต้องออกตามหาดาบและชุดเกราะวิเศษซึ่งเป็นเพียงทางรอดเดียวที่จะต่อกรกับคุณตาของเขาได้ ระหว่างการเดินทางเขาได้พบกับลิงหิมะ และด้วงซามูไรซึ่งคอยช่วยเหลือเขาอยู่เสมอตลอดการผจญภัยครั้งนี้
2. ภารกิจของคูโบนั้นในทางหนึ่งก็คือการตามหาพลังที่จะช่วยให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของศัตรูร้ายที่หมายปองเขา หากแต่ในอีกทางมันก็เป็นหนทางที่เด็กน้อยคนหนึ่งได้พาตัวเองเข้าปะทะกับโลกที่แท้จริง ด้วยเพราะเสมอมาคูโบเคยแต่ถูกจองจำอยู่ภายในพื้นอันคับแคบบนผาสูง และโลกทั้งใบที่เขาเคยรู้จักก็กว้างไกลแค่ไม่เกินหมู่บ้านตรงตืนผาเท่านั้น พูดได้ว่าความรับรู้ของตัวคูโบจึงถูกจำกัดไว้แต่แรกเริ่ม หากก็ไม่ใช่ด้วยเจตนาของเขาเอง แต่เป็นเพราะความปรารถนาดีของมารดาที่ต้องการปกป้องบุตรไว้จากภยันตรายรอบตัวที่อาจทำร้ายบุตรของตน
แม้ความรักของแม่ที่มีต่อลูกนั้นเกิดขึ้นด้วยเจตนาอันดี ด้วยเพราะแม่นั้นแน่ใจว่าสภาพแวดล้อมภายนอกไม่ปลอดภัย และเสี่ยงเกินไปหากจะปล่อยให้เด็กน้อยต้องรับมือกับสิ่งซึ่งอยู่นอกเหนือกำลังแรงของเขา ซึ่งก็คือพลังอำนาจอันร้ายกาจของน้องสาวและบิดาของเธอ หากอีกนั่นแหละที่ความเป็นห่วงของแหละที่ความเป็นห่วงของแม่นั้นได้ครอบรวมถึงโลกภายนอกทั้งหมดที่บุตรชายไม่รู้จัก เพราะตั้งแต่แรกกำเนิด คูโบเติบโตขึ้นในสิ่งแวดล้อมซึ่งถูกคัดสรรแล้วว่าดีพอ ปลอดภัยพอ จนไม่เห็นจำเป็นว่าต้องย้ายถิ่นฐานไปที่อื่นใด
กระนั้นแล้วเมื่อมีเหตุจำเป็นที่เด็กน้อยต้องเดินทางไกล ด้วยความรักและไม่อาจวางใจ หลักฐานหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นความรักของแม่ก็คือเครื่องรางรูปลิงหิมะที่เมื่อครั้งยังอยู่ด้วยกันบนผาแม่จะย้ำเตือนคูโบอยู่เสมอว่าให้พกติดไว้เสมอกาย อย่าได้ทิ้งมันเด็ดขาด และในเวลาต่อมาเครื่องรางสลักไม้ชิ้นนี้ก็ได้กลายมาเป็นลิงหิมะที่มีชีวิตจริง และคอยพิทักษ์รักษาคูโบอย่างที่หน้าที่ของเครื่องรางหนึ่งๆ ควรจะเป็น
ฉะนั้นก็ตาม เพราะเคยอาศัยอยู่แค่ในโลกอันจำกัด คูโบจึงไม่เคยรู้อะไรมากเกินไปกว่าสิ่งซึ่งมารดาได้คัดเลือกไว้ให้ และในทางเดียวกันนี้ตัวมารดาเองก็ไม่เคยรู้ถึงประสิทธิภาพและพลังในตัวบุตรชาย ด้วยเหตุนี้เมื่อคูโบได้ค้นพบว่าแท้จริงแล้วโลกภายนอกหาได้อันตรายอย่างที่เชื่อว่าจะเป็น ว่าเขาเองก็มีประสิทธิภาพที่จะมีชีวิตรอดได้บนโลกทั้งใบนี้ เมื่อนั้นเองที่คูโบถึงได้ตระหนักถึงคุณค่าในอีกระดับหนึ่งที่ฝังซ่อนอยู่ในตัว ว่าเขานั้นมีอะไรที่มากกว่านักเล่านิทานคนหนึ่ง ว่าเขาไม่ได้มีดีแค่เรื่องเล่าเท่านั้น ว่าเขาเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่สามารถเอาชีวิตรอดได้ด้วยกำลังแรงของตัวเอง
3. ด้วยเรื่องราวประเภทของการก้าวพ้นวัย (coming of age) นั้นถูกหยิบจับมาเล่าหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะในแอนิเมชั่นด้วยแล้ว หากแต่จุดหนึ่งซึ่งทำให้ Kubo and the Two Strings ยังคงความโดดเด่นในประเด็นนี้ก็เห็นจะเป็นความจริงจังที่ฉาบทับไว้ด้วยความหวานของภาพและเนื้อหา เพราะแอนิเมชั่นเรื่องนี้นำเสนอเรื่องของมนุษย์ไว้อย่างน่าสนใจทีเดียว
อย่างที่ว่าครอบครัวของฝั่งแม่นั้น สาเหตุที่ต้องการดวงตาของคูโบก็เป็นเพราะพวกเขาไม่ต้องการให้คูโบได้มองเห็นความเป็นมนุษย์ด้วยดวงตาทั้งสองของเขา พูดได้ว่าความเป็นมนุษย์นี่เองที่ทำให้ครอบครัวฝั่งแม่ถึงกับหวาดกังวลเพราะในอดีตครั้งหนึ่ง แม่ของคูโบก็เคยถูกความเป็นมนุษย์ที่ได้มองเห็นด้วยตัวเองนี่แหละที่ผลักนางให้ออกห่างจากครอบครัว ด้วยการนี้พวกเขาจึงไม่อาจทนได้หากต้องเสียเลือดเนื้ออีกหนึ่งไป ไม่อาจครอบครองเชื้อไขนี้เอาไว้กับตัวได้