สืบเนื่องจากกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรเตรียมพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร หรือ Entertainment Complex ซึ่งรวมถึงบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย นำมาซึ่งการตั้งคำถามเชิงจริยธรรมกับสังคมมากมาย ที่จริงก็เป็นหัวข้อที่พูดกันมาเกินสิบปีแล้ว และมีการเปรียบเทียบกับประเทศที่การพนันถูกกฎหมายมากมาย แต่สำหรับบริบทสังคมไทย ทำไมเรื่องนี้ถึงคู่ควรแก่การถกเถียง เรามาดูกัน
ก่อนอื่นเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การพนันดูจะเป็นกิจกรรมที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน พฤติกรรมติดการพนันของคนไทยสามารถสืบย้อนไปได้ถึงยุคอยุธยาตอนปลาย จากบันทึกของเอกอัครราชทูตพิเศษฝรั่งเศส ‘มองสิเออร์ เดอ ลาลูแบร์’ (Monsieur De La Loubère) ที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ ใน ปี 2230 ซึ่งได้อ้างว่าชาวสยามนิยมเล่นพนันกันถึงขั้นยอมขายลูกใช้หนี้ หรือขายอิสรภาพกลายเป็นทาสขนาดนั้นเลย ด้านมานุษยวิทยาอาจอธิบายว่า เป็นไปได้ว่าเพราะความอุมดสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ อาหารการกินที่ครบครัน ทำให้คนไทยสนใจเข้าหาแหล่งบันเทิงอย่างการพนัน และไม่ใช่เรื่องไกลตัวจนถึงปัจจุบัน
ในแง่ของข้อกฎหมายเกี่ยวกับการพนันในประเทศไทยนั้นมีมาตั้งแต่สมัยการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 แล้ว และพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ก็เป็นรากฐานของกฎหมายการพนันมาจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ใช่ว่าวันนี้สังคมจะไม่มีปัญหาเรื่องการพนัน หรือพูดได้ว่า การพนันที่ถูกทำให้ผิดกฎหมายก็ไม่ได้หายไปจากสังคมเราจริงๆ ดังจะเห็นว่าการพนันที่ถูกกฎหมายชนิดเดียวในประเทศไทยอย่างล็อตเตอร์รี่ ก็เป็นที่รู้กันว่าเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนไทย มันสะท้อนให้เห็นว่า มันอยู่คู่กับพวกเราจริงๆ เราจึงต้องพูดถึงมัน
สิ่งที่เราพอจะสัมผัสได้อย่างหนึ่งเมื่อการพนันถูกทำให้ผิดกฎหมาย คือ มันไม่ได้หายไป แต่มันกลายไปเป็นธุรกิจสีเทาที่มีอำนาจมืดครอบงำอยู่ ซึ่งเม็ดเงินที่ไหลเวียนในอุตสาหกรรมนี้ ไม่ได้เข้ามาสู่ระบบภาษี เงินทั้งหลายไหลออกนอกประเทศ รวมไปถึงปัญหาคอร์รัปชั่นโดยเจ้าหน้าที่รัฐกับผู้มีอำนาจในแวดวงการพนัน และยังนำพาให้เกิดปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย การกดขี่แรงงาน
หรือแม้แต่ผู้เล่นพนันที่เข้าไปก็อาจถูกโกง
และถูกเอาเปรียบได้ง่าย
ข้อดีของการทำให้การพนันผิดกฎหมาย คือการกีดกันคนทั่วไปในการเข้าถึงการพนัน ทำให้คนที่สนใจต้องใช้ความพยายามมากหน่อยในการเล่นพนัน แต่ในโลกดิจิตอลเช่นนี้ ความพยายามที่ว่านั้นแทบจะไม่ต้องออกแรงอะไรเลย อันที่จริง เราแทบจะพบมันในเกือบทุกซอกของสื่อสังคมออนไลน์ บ้างก็โผล่เข้ามาในข้อความมือถือแล้ว
ข้อเท็จจริงประการหนึ่งคือ คนไทยเล่นการพนันมากถึง 32.33 ล้านคนในปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ประมาณ 1.9 ล้านคน โดยมีเงินหมุนเวียนเฉพาะในตลาดพนันออนไลน์มากถึง 107,078 ล้านบาท จากรายงานผลการศึกษาสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทย (CGS) ประจำปี 2564
ทีนี้หากเรามาดูข้อเสนอของฝ่ายสนับสนุนให้การพนันถูกกฎหมาย เราจะพบว่า มีการพูดถึงแก้ปัญหาในหลายมิติโดยเฉพาะด้านการเงินทั้งในระดับมหภาค และจุลภาค กล่าวคือ มันสามารถเป็นช่องทางเพิ่มการว่าจ้างงานได้ เกิดการควบคุมการเข้าถึงการพนันอย่างจริงจัง เช่นควบคุมการโฆษณาของเว็บพนัน เกิดการเก็บภาษีและจัดการอาชีพให้เข้าสู่ระบบของรัฐ ไม่ให้กลายเป็นพื้นที่สีเทา
อีกทั้งยังสอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมกาสิโนข้ามชาติ และหากป้องกันผู้เล่นถูกโกงหรือถูกเอาเปรียบจากบ่อนกาสิโนได้ ก็จะเป็นวิธีหนึ่งในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาด้วย เกิดการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งคงจะดีกว่าการที่การพนันในไทยมีเพียงล็อตเตอร์รี่เท่านั้นที่ถูกกฎหมาย จนกลายเป็นการผูกขาดธุรกิจโดยภาครัฐไป เราอาจไม่คาดหวังถึงขั้นจะดึงเงินต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก
แต่ขั้นต่ำแค่ไม่ให้เงินไหลออกไปต่างประเทศก็ดีมากแล้ว
สิ่งที่ต้องพึงระวัง คือ มันก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้ที่กาสิโนข้ามชาติทั้งหลาย อาจพัฒนาอิทธิพลที่มีต่อสังคมไทย และกลายเป็นพื้นที่ทำกินของต่างชาติ โดยเงินไม่ได้ไหลเข้าประเทศจริง หรือผลกระทบต่อด้านสุขภาพการเงินของคนไทยเสียเอง เราต้องทำให้มั่นใจว่ามันจะไม่ส่งผลเสียมากไปกว่าที่เป็นอยู่ เช่นว่า ในกลุ่มประเทศที่ถูกกฎหมาย บ่อนสามารถลดเครดิตบูโรของผู้เล่นพนันที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางการเงินได้
ด้านสังคม การที่ผู้เล่นพนันจะได้เล่นอย่างถูกกฎหมาย ย่อมเพิ่มความสบายใจ และความโปร่งใสในการเข้าถึง ซึ่งการพนันจะไม่ดีต่อผู้เล่น แต่ก็คงดีกว่าปล่อยให้พวกเขาเข้าไปในพื้นที่สีเทาโดยไร้มาตรการช่วยเหลือ ถูกเอาเปรียบ หรือถูกผลักให้ไปเป็นหนี้นอกระบบ เสียสุขภาพจิต เกิดผลกระทบที่ตามมาเป็นวงกว้าง
ทางกลับกัน ในวันที่การพนันผิดกฎหมาย พื้นที่สีเทาเหล่านี้ไม่ได้มีแค่เรื่องของการพนัน แต่มันตามมาด้วยการค้ามนุษย์ ยาเสพติด ของเถื่อน คอร์รัปชั่น เมื่อเราจะผลักให้เรื่องพวกนี้มาอยู่ในแสงสว่าง คำถามคือเราจะจัดการกับคนและสิ่งเหล่านี้ตามมาด้วยได้อย่างไร โดยต้องไม่ลืมว่า หากการพนันถูกกฎหมายเมื่อไหร่ ย่อมมีผู้เสียผลประโยชน์พร้อมคัดค้านอย่างแน่นอน นั่นเป็นคำถามที่ต้องพึ่งข้อมูลการศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะหากไม่ระวังเรื่องพวกนี้อาจกลายเป็นอันตรายต่อสังคมได้
ข้อเสนอหนึ่งในการแก้ปัญหาทางด้านสังคม เราอาจบอกได้ว่า เป็นเพราะความยากจนของผู้คน และความอัตคัดทางโอกาสที่ทำให้เขาหันหน้าเข้าสู่การพนัน เนื่องมาจากโครงสร้างทางสังคมไม่ได้เอื้ออำนวยมากนัก โดยมีผลลัพธ์คือ มีประชาชนกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศที่เป็นหนี้ รายได้ที่ไม่สอดคล้องกับรายจ่าย หนี้สินครัวเรือนที่สูงสุดในรอบ 16 ปี จากผลสำรวจของ ม.หอการค้าไทยในไตรมาส 3 ปี 2565 สอดคล้องกับรายงานของการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในเดือนธันวาคม ปี 2565 ว่าประชาชนมีหนี้สินมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัย
ฉะนั้นมันคงจะดีที่สุด ถ้าหากเราแก้ปัญหาปากท้องไปพร้อมๆ กัน โดยเพิ่มช่องทางทำกันให้มากขึ้นรองรับกับผู้คนจำนวนมาก และยังมีค่าแรงที่สมน้ำสมเนื้อ มากพอให้เก็บหอมรอมริบได้บ้าง เป็นไปได้ว่าหลายๆ คนที่ติดการพนันในปัจจุบัน จะไม่ต้องปฏิบัติกับการพนันเป็นทางออกเดียวในชีวิตเช่นที่เป็นอยู่นี้ แต่เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในชีวิตเท่านั้น
อ้างอิงข้อมูลจาก