ลอนนี จอห์นสัน อาจเป็นหนึ่งในนักประดิษฐ์ที่เก่งที่สุดในยุคของเรา เขาเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรแห่ง NASA จอห์นสันทำงานในโครงการระบบดาวเทียมกาลิเลโอและยานแคสสินี และช่วยกองทัพสหรัฐอเมริกาในการพัฒนาเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนแบบ Northrop Grumman B-2 Spirit นอกจากงานในหน้าที่ที่ยอดเยี่ยมแล้ว ในเวลาว่างที่เหลือเขาก็ได้ทุ่มเทไปกับการประดิษฐ์คิดค้นเพื่อสร้างสิ่งของที่ยอดเยี่ยมออกมา
จอห์นสันเป็นเจ้าของสิทธิบัตรกับของที่เขาประดิษฐ์คิดค้นมากกว่า 120 รายการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแปลงพลังงานเทอร์โมอิเล็กทริก แบตเตอรี่ลิเธียมแบบฟิล์มบาง เครื่องกำเนิดความร้อน ไปจนถึงของที่ดูห่างตัวเขาอย่างเครื่องม้วนผมสำหรับผู้หญิง นอกจากการประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์ที่จริงจังแล้ว อีกมุมหนึ่งของจอห์นสันคือการคิดค้นของใช้ทั่วไปและของเล่นของเด็ก และสิ่งประดิษฐ์บางอย่างของเขาก็ดูแล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้ เช่นเครื่องตรวจจับผ้าอ้อมเปียก ที่เอาไว้ตรวจจับเวลาที่ถึงเวลาที่เด็กต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมเมื่อมันเปียกจนเกินไป
แต่สิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงที่สร้างรายได้ให้กับเขามากที่สุดคือจรวดของเล่นเด็ก ที่ให้เด็กได้ประกอบมันและภาคภูมิใจกับการที่จรวดได้ทะยานขึ้นท้องฟ้าด้วยฝีมือตนเอง หรือปืนเด็กที่เด็กทุกคนทั่วโลกรู้จักกันดี นั่นคือปืนของเล่น Nerf Blasters และสุดท้ายคือปืนฉีดน้ำแรงอัดปั๊มด้วยมือ “Super Soaker” มันคือต้นแบบของแนวคิดการสร้างปืนฉีดน้ำแรงดันมือที่ใช้กันทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศไทยในวันสงกรานต์
และการค้นพบปืนฉีดน้ำนี้ก็เกิดขึ้นได้ด้วยความบังเอิญ—สิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นจากอุบัติเหตุ
ในปี ค.ศ.1982 จอห์นสันกำลังทำงานที่บ้านของเขาซึ่งส่วนหนึ่งของบ้านกลายเป็นห้องแล็บที่มีไว้เพื่อทดลองและประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ ในตอนนั้นจอห์นสันกำลังหาไอเดียใหม่สำหรับปั๊มความร้อนที่จะใช้น้ำเป็นของเหลวแทนที่จะใช้ฟรีออน (Freon) เพราะในช่วงเวลานั้นสังคมเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ฟรีออน มันเป็นสารที่สร้างผลกระทบได้อย่างรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมหากยังคงใช้อย่างต่อเนื่อง เป้าหมายของจอห์นสันตอนนั้นคือเขาจะสามารถพัฒนาระบบทำความเย็นที่ใช้น้ำแทนได้หรือไม่
จอห์นสันได้ลองสร้างอุปกรณ์สำหรับทำความเย็นที่สามารถถ่ายเทความร้อนโดยอัตโนมัติด้วยน้ำในบ้านของเขา แต่ก็ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ท่อที่ใช้ทดลองเกิดการรั่วไหล แรงดันอากาศทำให้น้ำพุ่งเป็นสายกระจายไปทั่วห้อง ในวินาทีนั้น ท่ามกลางความล้มเหลวในการทดลองยังมีแสงสว่างที่ส่องประกายก่อให้เกิดไอเดียบางอย่างขึ้นมา จอห์นสันที่ยืนดูความล้มเหลวในการทดลองครั้งนี้ก็คิดได้ในทันทีว่า
“นั่นคงจะเป็นปืนฉีดน้ำที่ยอดเยี่ยม”
การรั่วไหลในปั๊มความร้อนทำให้นักวิทยาศาสตร์จรวดคนนี้ มีแนวคิดเกี่ยวกับปืนน้ำฉีดอันทรงพลังของเขา
ในช่วงเวลานั้นจอห์นสันได้ออกจาก NASA เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ให้กับกองทัพอากาศ เขาต้องไปที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดส์และเข้าร่วมการออกแบบสร้างเครื่องบินทิ้งระเบิดเทคโนโลยีลับสูงสุดของกองทัพอากาศ นั่นคือ Northrop Grumman B-2 Spirit และในขณะเดียวกันในหัวของเขาก็ยังคงวนเวียนเรื่องราวของปืนฉีดน้ำนี้ เขาได้ไอเดียเบื้องต้นมาแล้ว ฉะนั้นเขาต้องทำให้สำเร็จ
โครงการเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B-2 ในตอนนั้นถูกปิดเป็นความลับสุดยอด ไม่มีใครรู้ว่ามันมีอยู่จริง จอห์นสันไม่สามารถบอกภรรยาได้ว่าเขากำลังทำอะไรในตอนกลางวัน และในตอนเย็นที่เขากลับมาบ้านสิ่งเดียวที่ภรรยาเห็นคือการที่เขาลงไปชั้นใต้ดิน ง่วนอยู่กับสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ของตนเอง และสิ่งที่เขาจริงจังที่สุดในตอนนั้น นั่นคือปืนฉีดน้ำ จอห์นสันเริ่มสร้างปืนต้นแบบขึ้นจากท่อพีวีซีและขวดน้ำอัดลม ติดตั้งแต่งเติมอุปกรณ์อื่นๆ ขึ้นมาจนมีรูปร่างคล้ายปืนที่บรรจุด้วยกระสุนคือน้ำขนาด 2 ลิตร แรงขับของมันคือปั๊มแรงดันอากาศด้วยมือซึ่งอยู่ด้านล่างขนานไปกับกระบอกปืน รูปทรงของมันไม่ได้ต่างอะไรมากนักจากปืนฉีดน้ำที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้
ในครั้งแรกของการทดลองยิง น้ำพุ่งแรงไปไกลกว่า 40 ฟุต (ประมาณ 12 เมตร) จอห์นสันประสบความสำเร็จในการสร้าง เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นของเล่นที่สามารถสร้างความสนุกสนานให้กับคนทั่วโลก ไม่ว่าจะเพื่อการแข่งขัน เล่นกับคนในครอบครัว กับเพื่อน หรือในงานปาร์ตี้ หรือแม้แต่เพื่อแกล้งกัน แต่ความยากลำบากของปืนฉีดน้ำไม่ใช่การสร้างมันขึ้นมา แต่เป็นการทำอย่างไรให้มันเข้าสู่ตลาดโลกได้
ในปี ค.ศ.1986 จอห์นสันนำสิ่งประดิษฐ์นี้ไปจดสิทธิบัตรจนได้รับสิทธิบัตรสหรัฐอเมริกาหมายเลข 4,591,071 กับสิ่งประดิษฐ์ที่ชื่อว่า “Squirt Gun” ในเอกสารสิทธิบัตรนี้เขียนว่า “ปืนฉีดประกอบด้วยหัวฉีดสำหรับฉีดน้ำที่ความเร็วสูง มีปั๊มแรงดันสำหรับอัดอากาศเข้าไปในปืนเพื่ออัดแรงดันน้ำที่บรรจุอยู่ในนั้น และควบคุมการยิงด้วยไกปืนที่ไปกระตุ้นวาล์วควบคุมการไหล น้ำไหลผ่านหัวฉีดแรงดัน วงจรออสซิลเลเตอร์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่และเครื่องกำเนิดเสียงที่รับพลังงานจากการไหลของน้ำจะสร้างเอฟเฟกต์เสียงปืนอวกาศแห่งอนาคตเมื่อปืนกำลังยิง”
จอห์นสันพยายามอย่างมากในการหาบริษัทที่สามารถเปลี่ยนความคิดและสิทธิบัตรของเขาให้กลายเป็นความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ได้ เขาใช้เวลาอยู่หลายปีจนกระทั่งในปี ค.ศ.1989 Larami Corporation บริษัทผู้ผลิตของเล่นรายหนึ่งได้มองเห็นถึงศักยภาพด้านการตลาดของอุปกรณ์ที่สร้างความเปียกโชกของจอห์นสัน ในปี ค.ศ.1990 ปืนฉีดน้ำแบบฉบับของจอห์นสันจึงได้เริ่มผลิตและออกจำหน่ายครั้งแรกในชื่อ “Power Drencher” ความสำเร็จที่ใช้เวลาถึง 8 ปีนับตั้งแต่อุบัติเหตุที่เขาคิดค้นไอเดียได้ในห้องใต้ดินที่บ้านของเขา
แต่ในตอนแรกนั้นมันกลับไม่ประสบความสำเร็จนัก มันขายไม่ออกและผู้คนไม่รู้ว่าควรซื้อไปทำอะไร จอห์นสันและบริษัทจึงได้ปรับแต่งเพิ่มเติมรวมถึงรีแบรนด์จนเปิดตัวอีกครั้งในชื่อ “Super Soaker” คราวนี้มันมาพร้อมโฆษณาบนทีวี ภาพของวัยรุ่นสองคนที่มาป่วนปาร์ตี้ริมสระน้ำพร้อมกับปืนฉีดน้ำที่ต่างไล่ฉีดกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับสโลแกน “ปล่อยน้ำจากลำกล้องที่ใหญ่กว่า” มันเป็นการตลาดมุขสองแง่สองง่ามที่ทำให้ผู้คนในตอนนั้นจดจำได้ ผู้คนเริ่มพากันเข้าร้านค้าไปซื้อมัน
Super Soaker ที่ออกขายในราคากระบอกละ 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ มันได้สร้างยอดขายพุ่งทะยานไปถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกลายเป็นของเล่นที่มียอดขายสูงสุดของในโลกในปี ค.ศ.1992 และยังคงติดอันดับ 1 ใน 10 ของเล่นที่ขายได้ทุกปีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
“มันเป็นเรื่องของความพากเพียร” จอห์นสันกล่าว
“นับตั้งแต่ที่ฉันได้ไอเดียสำหรับ Super Soaker ฉันก็ใช้เวลากว่า 7 ปีที่ฉันจะหาทางนำมันไปสู่เชิงพาณิชย์ได้ จากนั้นก็ประมาณ 10 ปีนับจากเวลาที่ฉันได้ไอเดียนี้จนมันได้กลายเป็นของเล่นที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก”
ความสำเร็จจากงานอดิเรกหลังเลิกงานทำให้จอห์นสันสามารถสร้างเงินจากค่าลิขสิทธิ์มากมาย โดยเฉพาะจากปืนฉีดน้ำ Super Soaker และปืน Nerf Blaster ที่สร้างรายได้มหาศาลมากมายเกินความฝันของชายผู้ต่อสู้กับชีวิตและพากเพียรไล่ตามความฝันมาตลอดชีวิตไปมาก
จอห์นสันเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่ต้องพิสูจน์ตนเองว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่มีความสามารถท่ามกลางยุคที่กีดกันสีผิวอย่างรุนแรง พ่อแม่ของเขามีอาชีพเก็บฝ้ายในฟาร์มของปู่ของเขา แต่จอห์นสันไม่อยากมีอาชีพเหมือนพ่อแม่ เขาอยากเป็นนักประดิษฐ์ ในตอนเด็กจอห์นสันชอบที่จะทำของเล่นและสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถโกคาร์ต กังหันลม หรือจรวด
หนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่น่าภาคภูมิใจที่สุดของเขาตอนเด็ก คือ หุ่นยนต์ที่เขาสร้างขึ้นในช่วงที่เรียนโรงเรียนมัธยมปลาย จอห์นสันเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายแบล็กวิลเลียมสัน ในเมืองโมบิล รัฐแอละแบมา จอห์นสันได้ประดิษฐ์หุ่นยนต์ของเขานามว่า “ลิเน็กซ์” มันได้ถูกนำไปแสดงที่งานนิทรรศการวิทยาศาสตร์ด้านวิศวกรรม ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยแอละแบมา จอห์นสันและทีมงานของเขาเป็นตัวแทนของโรงเรียนผิวดำล้วนเพียงแห่งเดียวในงาน
ด้วยความขยันและฉลาดของจอห์นสันทำให้เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทัสคีกีด้วยคะแนนสูง ก่อนที่จะร่วมงานกับกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาในตำแหน่งวิศวกร จนสามารถพิสูจน์ตนเองและได้ทำงานให้กับ NASA ในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน ลอนนี จอห์นสัน อายุ 72 ปี เขามีทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 10,000 ล้านบาทไทย และยังคงหมกมุ่นอยู่กับการงานวิทยาศาสตร์และสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ ต่อไปไม่หยุด
“ฉันเป็นนักประดิษฐ์ ตลอดชีวิตของฉัน” จอห์นสันกล่าว
“ฉันพยายามคิดค้นและพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหา มีสำนวนที่บอกว่า ‘Need is the Mother of Inventory’ ดังนั้นฉันเลยมองหาปัญหาดีๆ ที่จะแก้ไข นั่นคือสิ่งที่ฉันทำ”
อ้างอิงข้อมูลจาก