ฝ่ายเนรมิตความงามที่จะทำให้ผู้ชมทั้งเพลินตาและขัดใจไปพร้อมๆ กัน ว่าอีนั่นทำไมใส่ชุดนี้ อีนี่ติดขนตาปลอมตอนนอน ชุดนี้สวยจัง แพลตตินั่มน่าจะมาแล้ว และอื่นๆ อีกมากมาย
ฟังดูก็เป็นแผนกที่น่าเจริญตาเจริญใจดีอยู่ ได้อยู่ใกล้ชิดดาราดัง เม้ามอยหอยสังข์ คุยเรื่องสวยๆ งามๆ รักกันแปงกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลเพราะหน้า ผม ชุดนี่มันต้องสวยสะไปพร้อมกันไม่ใช่เหรอ
“ไม่ค่ะ ชีวิตจริงมันไม่ดีขนาดนั้น!”
ฝ่ายเสื้อผ้าหน้าผมประสานเสียงกันใส่ฉัน
งานกองนี้บอกได้เลยว่าเป็นงานที่เหนื่อยหนัก ตื่นเช้า อยู่ในที่ร้อน ต้องเดินตลอดห้ามนั่งขาตายอยู่กับที่ ต้องรับมือกับมนุษย์ร้อยพ่อพันแม่ ตั้งแต่นักแสดงใหญ่ที่แพ้ทุกผลิตภัณฑ์บนโลกนี้ ไปจนถึงนักแสดงเล็กๆ ที่อยากใส่ชุดตัวเองมากกว่าชุดที่เหมาะกับบุคลิกตัวละคร ต้องคอยดูอารมณ์นักแสดง เพราะอยู่ใกล้กันที่สุดแล้ว เรื่องลี้ลับชนิดแทงหวยกับเจ้ามือคนไหน ไปถึงเมื่อคืนเพิ่งได้กับใครมาก็จะได้ยินกันตรงนี้ รอยจูบ รอยตบ ร้อยไหม เหลาคางก็เห็นกันจะจะ ดาราบ้างก็พูดกับช่างเพราะอยากให้เอาไปเม้าสร้างกระแสต่อ บ้างก็นิ่งสนิทคอเชิด ไม่หือไม่อือกับใคร ดั่งพระนางมารีอังตัวแนทตื่นมาให้ช่างเกล้าผมให้ก่อนออกมหาสมาคม
แผนกความงามนี้มักจะตกเป็นเป้าหมายให้จับผิดจากคนในกองเสมอ ว่าชักช้าพิรี้พิไร ทำให้ตารางงานเสียหาย แถมบางทีใส่เสื้อผิดสี ทำผมผิดทรงปล่อยโป๊ะไปออกอากาศให้คนดูหัวร่อกันครื้นเครง
“เราไม่ได้อยากช้านะคะ มันช้ามาจากต้นทาง จะให้ทำไงล่ะ!”
ตัวอย่างสถานการณ์, ผู้ช่วยเดินมาส่งซีนที่จะถ่ายในครึ่งเช้า 8 ซีน มีทั้งชุดใหม่และชุดต่อเนื่องที่ถ่ายไปแล้ว ผมมีทั้งทรงใหม่และทรงเดิม หน้ามีทั้งทาปากสีเดิมและเปลี่ยนสีใหม่
น้องโกลด์โคสต์นั่งลงตรงเก้าอี้แต่งหน้า มือสไลด์โทรศัพท์ที่เพิ่งได้สปอนเซอร์มาเล่นไปด้วย
..ช่างหน้าช่างผมสบตากัน..
“เอ๊ ไปทำไรมาเนี่ย เปลี่ยนครีมเหรอคะน้อง” ช่างหน้าเริ่มก่อน
“เปล่าค่ะ” น้องตอบ “ก็เหมือนเดิม” พูดไปพิมพ์ไลน์ไป
คือที่เขาทักเนี่ย เพราะอยู่ๆ น้องโกลด์โคสต์ก็ดูเป็นลูกครึ่งไทย-มะม่วงขึ้นมาค่ะ…คางค่ะคาง คางหนูทำไมงอนเป็นท่อนแขนนางรำขนาดนั้นคะลูก หื้มมมมมมม พักกอง 3 วันหนูไปตำฟิลเลอร์มาใช่มั้ยคะ จะทักตรงๆ ก็ไม่ได้ ทักอ้อมๆ นางก็ไม่ยอมรับ สบตากับช่างผมอย่างอ่อนใจ ช่างผมยักไหล่แล้วเปิดไดร์เบอร์ 3…
“พี่คะ ไม่เอาลมร้อนค่ะ”
“เอ่อ แต่ผมยังเปียกอยู่เลยนะคะ เป่าหน่อยเนาะจะได้เซ็ทได้ ซีนต่อเนื่องด้วยเดี๋ยวต้องม้วนเคิร์ลๆ”
“หนูเพิ่งทรีทเมนต์ผมมา พี่ไนแองการ่าช่างผมคนดังบอกว่าผมหนูเสียหมดแล้วเนี่ย เพราะโดนลมร้อนจากกองถ่ายมากไป ต้องพักผมอาทิตย์นึง”
“เอ่อ….งั้นเป่าลมเย็นเนาะ แล้วเดี๋ยวเซ็ทสเปรย์เบาๆ”
“โนสเปรย์ค่ะ ผมหนูอ่อนแอมาก โดนของแบบนี้ไม่ได้ พี่ไม่มีน้ำเกลือสกัดจากทะเลเดดซีเหรอคะ พี่ไนแองการ่าบอกว่าใช้แล้วจะดีกว่า ผลลัพธ์ไม่ต่างจากสเปรย์”
……..หมดไป 15 นาที ยังไม่รู้จะเริ่มจิกหัวกบาลน้องขึ้นมาทำยังไง เสียงว.ก็เจื้อยแจ้วแว่วมาเรียกเรื่อยๆ ว่าหน้าเซ็ทจะพร้อมแล้วนะะะะะ ใกล้แล้ววววว
ก็พอดีฝ่ายเสื้อผ้าเดินมาพร้อมชุดสำหรับฉากแรก
“ชุดคอนฯนะคะ คอเต่าเว้าหลัง ฉากสาดไวน์ใส่หน้ากันกลางงานเลี้ยง นี่ตุ้มหู นี่สร้อยค่ะ เปลี่ยนชุดก่อนเลยเนอะ จะได้แต่งหน้าทำผมง่ายๆ คอมันแคบมากตัวนี้”
“โหย ร้อนจะตาย ใส่ก่อนกว่าจะแต่งหน้าเสร็จหนูก็เหงื่อท่วมหน้าพังอะ ไว้ก่อนเหอะ เดี๋ยวค่อยเปลี่ยน”
นี่ค่ะ ตัวอย่างกระจุ๋มกระจิ๋มกรุบกริบของวิบากความงาม อีทางหน้ากองก็เร่งเป็นพัลวัน ทำยังกับว่าแต่งหน้าคนนี่ง่ายพอๆ กับละเลงขนมโตเกียวอันละ 5 บาทหน้าโรงเรียน งานกูเป็นศิลปะนะคะ!! แล้วช่วยดูด้วยว่าน้องนางเอกนี่ให้ความร่วมมือขนาดไหน หน้าก็ก้มสไลด์มือถือ แล้วกูจะลบความงอนของคางเวอร์ชั่น 4.0 ของนางให้กลับไปต่อเนื่องได้ยังไง หัวหูก็เปียก ผู้กำกับอยากได้ผมทนๆ เพราะต้องสาดไวน์ใส่แล้วตบกันแต่นางไม่ให้ใช้สเปรย์เซ็ท ถ้ากูไปเอาดอกเกลือสมุทรสาครจากแม่ครัวมาละลายน้ำละเลงหัวให้นางจะจับได้มั้ย ชุดนางก็ยังไม่พร้อมจะเปลี่ยน พอแต่งหน้าทำผมเสร็จค่อยมาใส่ ทำชุดเลอะรองพื้นแลลิปสติกจนพินาศไป อีคอสตูมจนๆ คนนี้ก็ต้องมาเสียค่าซักแห้งพร้อมประดับรอยยิ้มให้แหยที่สุด เวลาเอาชุดไปคืนร้านเสื้อ…
“อีกกี่นาทีเสร็จ นี่จะเก้าโมงแล้ว ยังไม่ได้เริ่มเลย” เสียงผู้ช่วยดังผ่านว.
โว้ยยยยยยยยยย
ไหนจะผู้จัดการกองถ่ายที่ขอประหยัดงบ สั่งนักแสดงสมทบมาเข้าฉากอีก 30 คนในฉากงานเลี้ยงหรูแฟ่สไตล์ย้อนยุค ที่ทุกคนต้องปั้นหน้าปั้นผมไม่ให้ดูเหนื่อยล้าหน้ามันเป็นงานลงแขกเกี่ยวข้าว แต่ช่างหน้าช่างผมมีกันอยู่อย่างละแค่ 2 คน ไหนจะจับลอนเปียกลอนแห้ง ไหนจะเกล้าหม้อตาล ไหนจะเก็บผมเป็นทรงดอกกระทุ่ม แล้วนี่ทำไมไม่บอกให้นักแสดงสมทบเอาชุดแบบถูกยุคสมัยมาคะ? แม่ล่อเอาจัมพ์สูทสั้นสมีหูมาแบบนี้ ส่งบรีฟกันไปยังไงโว้ย ชุดงานเลี้ยงส่งแขก ไม่ใช่ชุดจับแขก!! ที่เตรียมมานางก็ใส่ไม่ได้ไปเสียอีก อีผู้ช่วยตัวดีก็เร่งยิกๆ บอกต้องปล่อยตัวประกอบก่อนเที่ยง ไม่งั้นเสียคิวเพิ่ม พวกกูนี่แทบจะเอาตีนขึ้นมาร่วมด้วยช่วยทำอยู่แล้ว ข้าวก็ยังไม่ได้กิน หวังใจว่าโม่งานเสร็จจะซมซานไปหาแม่ครัวก็ดูเป็นความหวังเลือนลาง
นี่ค่ะ ชีวิตของความสวยความงาม แล้วยังมีการไม่ให้ความร่วมมืออีกมากมาย ตั้งแต่แอบไปติดขนตาปลอมเองแบบลับๆ ในฉากเข้านอน หรือแอบปัดแก้มเป็นสีชมพูอมชิมเมอร์ในละครพีเรียด ให้ตากล้องขยี้ตามองแล้วมองอีกว่านางเอกกูทำไมมันหน้าวาวเหมือนแต่งด้วยน้ำมันมวย จะเดินไปลบนางก็เสียงแข็งว่าไม่ได้แต่งอะไรเลยนะ จนบางทีต้องให้ผู้กำกับทำเป็นด่ากระทบช่างว่าไม่รู้เหรอว่านี่ละครพีเรียด สมัยปี 2310 กรุงแตก หล่อนไปฟาดชิมเมอร์มาจากกรุวัดมหาธาตุหรือยังไง แต่ด่าไปก็เท่านั้น คนปัดเขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป
ไหนจะอยู่ๆ ตัดผมสั้นไม่เกรงใจความต่อเนื่อง ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์แลความร้อนใดๆ ต่อเส้นผม แต่ขอให้ผมสวยเนี้ยบราวกับสวรรค์เสก รวมไปถึงอ้วนขึ้น ผอมลง นมใหญ่ขึ้นพราะไปอัปซีซี เอ๊ย ไปออกกำลังกายมาจนชุดเดิมใส่ไม่ได้ หรือไม่ก็ชอบชุดที่ใส่เข้าฉากมากเหลือเกิน จนยึดเป็นของตัวเอง บอกว่าเดี๋ยวโปรโมทให้ร้าน โดยไม่ดูซักนิดว่าร้านเขาอยากมีพรีเซนเตอร์มั้ย หรืออยู่ๆ ผู้กำกับองค์ลงอยากได้เสื้อชุดใหม่ เพราะชุดนี้สีเหมือนผ้าม่านในฉากมากเกินไปเดี๋ยวแยกดารากับเฟอร์นิเจอร์ไม่ออก ทั้งยังนักแสดงสมทบบางคนชอบความสบายเลยไม่ใส่กางเกงในมา ปล่อยห้อยโตงเตงแล้วกูจะต้องมานั่งจับโจงกระเบนให้ใกล้ชิดถึงขนาดอีกนิดจะทิ่มตาบอด อีกคนไม่ใส่เสื้อตัวนี้เพราะกลัวใส่แล้วดำ แถมยังไม่ใช่สีมงคลตามวันเกิด
แต่จะบ่นไปทำไมมี ก็ตอนนี้อีน้องโกลโคสต์มันยังไม่เงยหน้าจากโทรศัพท์มาให้ลงรองพื้นเลย รักโทรศัพท์ขนาดนั้น ซักวันเถอะ กูจะให้ใช้แอพฯในมือถือนั่นล่ะ แต่งหน้าไปเข้าฉาก!!
แต่วันนี้พี่ขอเพียงน้องเงยหน้ามาให้พี่ก็จะเป็นพระคุณแล้วจ้าาาาาาา