กลายเป็นที่ตื่นเต้นฮือฮากับ Super Bowl ครั้งที่ 53 ในปี 2019 นี้ ก็คือคณะเชียร์ลีดเดอร์ Los Angeles Rams ของ NFL ทั้งหมด 40 คน มีสมาชิกเป็นผู้ชาย 2 คน ปรากฏตัวร่วมกับเชียร์ลีดเดอร์หญิงในชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงินทองเดียวกัน (ต่างกันตรงชุดไม่ได้เว้าๆ แหว่งๆ เท่ากับของสาวๆ พวกเขาสวมกางเกงที่ไม่ได้สั้นเสมอหู ไม่ได้สะบัดปอมปอม) และเต้นท่าเดียวกันกับสาวๆ ตลอดเกมส์การแข่งขัน
เรียกเสียงฮือฮาตื่นตาตื่นใจกว่าฮาล์ฟไทม์โชว์จืดๆ ของ Maroon 5 เสียอีก
กลายเป็นอีกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของ Super Bowl ไป หลังจากเริ่มมีเชียร์ลีดเดอร์เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน NFL ตั้งแต่ปี 1954 เมื่อทีมฟุตบอล Baltimore Colts จัดคณะเชียร์ขึ้นในทีม (NFL เริ่มตั้งแต่ 1920) ซึ่งในการแข่งขัน NFL มี 32 ทีมฟุตบอล และใน 26 ทีมมีคณะเชียร์ลีดเดอร์หญิงสาวล้วน เป็นของตนเอง กว่าจะมีผู้ชายโผล่มา ก็เมื่อ 2018 นี่เอง
2 กระทาชายเชียร์ลีดเดอร์ใน Super Bowl นั่นก็คือ Quinton Peron และ Napoleon Jinnies ทั้งคู่เป็นแดนเซอร์ชาวแคลิฟอร์เนีย และเป็นเชียร์ลีดเดอร์ให้กับทีม Los Angeles Rams ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 ขณะเดียวกัน New Orleans Saints ก็เพิ่มเชียร์ลีดเดอร์ชายในคณะ Saintsationsคือ Jesse Hernandez ซี่งก็เป็นแดนเซอร์เช่นกัน
คนไทยอาจจะชินกับงานกีฬาสี ลีดโรงเรียน กิจกรรมเต้นแร้งเต้นกาของโรงเรียนที่เพื่อนสาวๆ ของเราจะเป็นบุคลากรสำคัญในกิจกรรมประเภทนี้ หรืองานบอลจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ที่ชายหญิง LGBTQ จะมาเต้นลีดให้ดูริมสนาม
เชียร์ลีดเดอร์มี 2 แบบคือ แบบที่แข่งเหมือนแข่งยิมนาสติก ต่อตัวเป็นพีระมิดมนุษย์ ใช้ท่ายากต่างๆ มากมาย ในขณะที่อีกแบบนึงคือ การให้หญิงสาวมายืนเต้นเร่าๆ ข้างสนาม เชียร์ลีดเดอร์จึงเป็นเรื่องยากที่จะต้องตั้งสติอยู่กับการแสดงกายกรรมของตัวเองไปพร้อมกับคำนึงเรื่องความสวยความงามเสื้อผ้าหน้าผม รวมถึงจะทำยังไงให้คนเยอะๆ ชื่นชอบอีกต่างหาก
อันที่จริงเชียร์ลีดเดอร์ชายไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรในกิจกรรมกีฬาของสหรัฐอเมริกา ตามมัธยมปลายและวิทยาลัยก็มี เพราะมันอยู่ในฐานะกีฬาของผู้ชาย ฝึกความแข็งแกร่ง อดทนและความพร้อมเพรียง คนอย่าง Eisenhower, Franklin Roosevelt, Ronald Reagan หรือแม้กระทั่ง George Bush ผู้พ่อและผู้ลูก ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เป็นเชียร์ลีดเดอร์มาก่อนทั้งนั้น ซึ่งมาเปลี่ยนเป็นผู้หญิงถือปอมปอมเต้นก็หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะว่านี่เป็นช่องทางเดียวที่จะทำให้ผู้หญิงได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมกีฬาของมหาวิทยาลัยได้ ก่อนที่จะมีกฎหมายในปี 1972 ให้ทุกคนทุกเพศเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเลือกปฏิบัติทางเพศพวกเธอจึงยอมเป็น sex object แทน
และอันที่จริงก็มีผู้ชายในทีมเชียร์ลีดเดอร์ NFL ก่อนหน้านั้น ที่ทำหน้าที่เป็นสตันท์แมน ล่ำบึกคอยช่วยประคองสาวๆ เวลาต่อตัวหรือดีดตัวเอง รองรับเวลาพวกเธอร่วงลงมา ไม่ได้ส่ายสะบัดกวัดแขนขาอะไรด้วย
หากแต่เพิ่งจะมีในอุตสาหกรรมเชียร์ลีดเดอร์ของ NFL ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่าล้าหลังเชยระเบิดและ sexist นอกเหนือจากเอารัดเอาเปรียบขูดรีดค่าตัวเชียร์ลีดเดอร์ จนมีการฟ้องร้องหลายครั้งเรื่องค่าจ้างที่ต่ำกว่ามาตรฐานค่าแรงขั้นต่ำ
เชียร์ลีดเดอร์ที่เข้ามาเต้นทีมใหญ่ๆ ของ NFL จะได้ค่าจ้างราว 75 ดอลลาร์ต่อเกม และอาจจะมีเงินอื่นๆ ให้เล็กน้อยเป็นค่าแต่งองค์ทรงเครื่อง เชียร์ลีดเดอร์ที่ถูกไล่ออกยังคงเต้นอยู่ในทีมได้ แต่ก็จะได้ค่าแรงชั่วโมงละ 10.25 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำเพียง 3 ดอลลาร์เท่านั้น เชียร์ลีดเดอร์เก่าหลายคนจึงฟ้องศาลว่า NFL จ่ายค่าแรงไม่ยุติธรรม เช่นในปี 2014 ทีม Buffalo Bills ถูกเชียร์ลีดเดอร์สาวฟ้องร้องเรื่องค่าจ้างต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ในปี 2016 ทีม New York Jets ต้องจ่ายเงินย้อนหลังกว่า 325,000 ดอลลาร์ให้กับเชียร์ลีดเดอร์ของทีม ในขณะที่ทีมอย่าง Raiders ต้องจ่ายมากถึง 1.25 ล้านดอลลาร์ และในขณะที่พวกเธอยืนเต้นกรำเหงื่อบนส้นสูงอยู่ข้างสนามและได้ค่าแรงหลักสิบ พวกผู้เล่นกลับได้เงินเป็นล้านๆ แม้แต่อาชีพเป็นตัวมาสคอตยังทำเงินได้มากกว่าเชียร์ลีดเดอร์เลยด้วยซ้ำ แต่นักเต้นหลายคนก็ยอมแลกเพราะมันเป็นความฝันใฝ่ของนักเต้นทั้งหลาย เป็นอีกก้าวสำคัญในหน้าที่การงานและโอกาสอื่นๆ ที่อาจจะตามมา
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าตกใจของ NFL
ขณะเดียวกันความอยู่นานของลีดผู้หญิงก็สะท้อนถึงเสถียรภาพของปิตาธิปไตยในการแข่งกีฬาเพราะอย่างที่เคยได้ยินเฟมินิสต์เฟมิหน่อยกล่าวจนปากเปียกปากแฉะมานมนานแล้ว ซึ่งมันก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่ว่า การแข่งขันฟุตบอลเป็นการแสดงออกถึงอำนาจผู้ชายๆ แมนๆ ที่นักกีฬาเป็นตัวแทนนักรบชายออกรบเพื่อชุมชนตนเอง นักกีฬาคือภาพตัวแทนของผู้ชายในอุดมคติ เป็นตัวแทนของแสนยานุภาพ ความแข็งแกร่ง มีพละกำลัง การแข่งขันในสนามบอลจึงเป็นสนามประลองกำลังของผู้ชาย ขณะที่ผู้หญิงเป็นเพียงดอกไม้ประดับริมสนามไป พวกเธอเป็นได้แค่เพียงเชียร์ลีดเดอร์สร้างสีสัน เป็นสาวเอวบางร่างน้อย นุ่งน้อยห่มน้อย ถือปอมๆ เต้นเด้งๆ ไปมา ให้ดูกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาและเซ็กซี่ เพื่อให้ผู้ชมและผู้แข่งขันกระชุ่มกระชวย กระตุ้นให้ฮึกเหิมไปพร้อมกับเป็นอาหารตาคนมาเชียร์
ทาง NFL จึงกำหนดให้คนที่จะเข้าประกวดเชียร์ลีดเดอร์ปี 2018 ต้องมาในชุด crop top เผยหน้าท้อง ใส่ถุงน่องตามสีสันตามที่กำหนดไว้ แต่งหน้าทำผมมาให้เรียบร้อยด้วย ซึ่งการตัดสินการประกวด ก็จะตัดสินจากทั้งเทคนิค ท่าเต้น และรวมถึงรูปร่างหน้าตาด้วย และถ้าโชคดีก็อาจจะได้เข้าไปอยู่ในทีมใหญ่ๆ พวกนางจึงต้องฝึกอย่างหนักหน่วง อดอาหารเพื่อรักษาหุ่นบางเฉียบ ซึ่งเชียร์ลีดเดอร์นางหนึ่งกล่าวว่า ไอ้เต้นเนี่ยไม่ได้ยากเท่าไหร่หรอก แต่ที่ยากคือจะต้องเต้นให้ดูดีด้วย คือต้องสวมส้นสูงสามนิ้ว แต่งหน้าแต่งตา และที่สำคัญต้องยิ้มตลอดเวลานะคะ แม้กระทั่งเวลายืนเฉยๆ ก็ตามเถอะค่ะ
ไม่เพียงพวกเธอต้องเต้น twerk ตามใจผู้เล่น ถูกแฟนบอลพูดจาแทะโลมหรือโดนแต๊ะอั๋งอยู่เป็นประจำ แต่ยังต้องอยู่ภายใต้กฎต่างๆ นานา บ้าๆ บอๆ ของแต่ละทีมที่ควบคุมพวกเธอไปเสียทุกเรื่อง
เช่นทีมเชียร์ลีดเดอร์ของ Dallas Cowboys มีกฎห้ามเชียร์ลีดเดอร์คบค้าสมาคมกับผู้เล่น อย่าช่างจำนรรจาพูดจาอะไรมาก ห้ามเคี้ยวหมากฝรั่ง ห้ามใส่ยีนส์ ห้ามไปโผล่หน้าในที่ที่มีแอลกอฮอล์ขาย ห้ามไปปาร์ตี้ทุกประเภท ห้ามใส่เครื่องประดับในชุดเชียร์ลีดเดอร์และต้องมาชั่งน้ำหนักอยู่ตลอดเวลา ถึงขั้นเอารูปถ่ายของเชียร์ลีดเดอร์แต่ละคนมาวางเรียงกันแล้ววงว่าคนไหนจะให้ลดส่วนไหนๆ ออกบ้าง ส่วนทีม Buffalo Bills ก็มีข้อคำสั่งเป็นรายละเอียดว่า จะต้องมีหน้าตาท่าทางอย่างไรในที่สาธารณะ
กฎพวกนี้มีมากกว่ากฎทีมฟุตบอลชายที่มีอิสระ เช่น คณะ Saintsations สมาชิกถูกกำหนดว่าพวกนางจะต้องวางตัวในโซเชียลมีเดียอย่างไร เปิดเผยรูปร่างหน้าตาจะต้องประมาณไหน หรือแสดงอากัปกิริยามารยาทอย่างไร ที่พวกเธอต้องคอยระมัดระวังตัวเสมอและเคร่งครัดเฉพาะกับทีมเชียร์ลีดเดอร์เท่านั้น พวกนางถูกสั่งให้ตั้งค่า account โซเชียลมีเดียเป็น private และห้ามไป follow นักกีฬาของทีม New Orleans Saints และห้ามไม่ให้เชียร์ลีดเดอร์ไปกดไลก์กดเลิฟโพสต์ของผู้เล่น แต่ว่าผู้เล่นไม่ถูกห้ามไม่ให้มากดไลค์ กดแชร์ กดว้าว โพสต์ของเชียร์ลีดเดอร์
และในอีกกฎเหล็กหนึ่งคือ ห้ามเชียร์ลีดเดอร์กินข้าวร้านเดียวกับผู้เล่น ถ้าเชียร์ลีดเดอร์เข้าไปแล้วเห็นผู้เล่นกินอยู่ในร้าน พวกเธอต้องจรลีออกจากร้านไปกินร้านอื่น แต่ถ้าพวกเธออยู่ในร้านก่อนอยู่แล้ว แล้วผู้เล่นเข้ามาในร้านเพื่อจะกินข้าว พวกเธอต้องเป็นฝ่ายระเห็จออกจากร้านไป
กฎพวกนี้ถูกอ้างว่าเพื่อจะปกป้องผู้หญิง ซ่อนพวกเธอให้มิดชิด ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ แต่นั่นก็ยิ่งตอกย้ำว่าอุตสาหกรรมเชียร์ลีดเดอร์ของ NFL โคตรจะหัวโบราณล้าสมัย และ sexist
การที่ 2 หนุ่ม Peron กับ Jinnies มีโอกาสคัดตัวเข้ามาในทีมได้ก็เพราะเชียร์ลีดเดอร์สาวของทีมคนหนึ่ง Bailey Davis ถูกไล่ออก เพียงเพราะเธอดันไปโพสต์รูปตัวเองแต่งวาบหวิวบน Instagram
ดังนั้นการที่มีเชียร์ลีดเดอร์ชายใน NFL จึงไม่สามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่าเป็นการพร่าเลือนเส้นแบ่ง ‘ความเป็นหญิง’ ‘ความเป็นชาย’ การสร้างความเท่าเทียมทางเพศ หรือการยอมรับความหลากหลายทางเพศ เพราะต่อให้ยัดผู้ชาย เกย์ หรือชายหญิงข้ามเพศไปในพื้นที่ลีดเดอร์ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เกิดความเท่าเทียมอะไร เพราะโครงสร้างที่สร้างความหมาย ‘ความเป็นชาย’ สูงสุดเหนือกว่าทุกสิ่งยังดำรงอยู่บนเวทีแข่งขันฟุตบอลประจำชาติ เพียงแต่เพิ่มตัวละครเพศต่างๆ ไปจำลองบทบาทหน้าที่ของ ‘ความเป็นหญิง’ แทน ไปพร้อมกับสมาทานกฎชายเป็นใหญ่ของ NFL เช่นเดียวกับที่ ลีดเดอร์ชายทั้งPeron, Jinnies และ Hernandez ไม่ได้กำปอมปอมเต้น หากแต่กำหมัดเอา และไม่ต้องนุ่งน้อยห่มน้อย ไม่ต้องสวมแต่ Speedo ออกไปเต้น เพราะไม่ใช่ทาร์เก็ตของผู้ชมฟุตบอล
และที่น่าตกใจเข้าไปอี๊กก็คือ…
เมื่อ Hernandez จาก Saintsations ได้เต้นลีดโชว์ในการแข่งขันระหว่าง New Orleans Saints กับ Arizona Cardinals ก่อนฤดูกาลครั้งแรกที่ Mercedes-Benz Superdome เดือนสิงหาปี 2018 จนได้สร้างความฮือฮาประหลาดใจอย่างมาก ก็ถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง
แม้ว่าการที่เขาสมัครเข้าทีมเชียร์ ฝึกซ้อมจนผ่านการคัดเลือกก็เพื่อเป็นการต่อสู้และเอาชนะกับพวก homophobic หลังจากถูกรังแกกลั่นแกล้งและคุกคามทางเพศมาตลอดที่เขาอยู่ชมรมเต้นของโรงเรียนในบ้านเกิดของเขา โชคดีที่มีแม่คอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจอยู่เสมอ และส่วนหนึ่งก็ได้แรงบันดาลใจจากการที่ Quinton Peron กับ Napoleon Jinnies
พวกผู้ชายที่มาดูบอลกลับรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน ไม่เพียงเชียร์ลีดเดอร์สาวสวยที่เป็นอาหารตา แต่กลับต้องมาเห็นเก้งกวางฉีกแข้งฉีกขาพร้อมสาวๆ แต่พวกเขายังมาดูบอลก็เพื่อสนับสนุน ‘ความเป็นชาย’ ในอุดมคติที่มีพละกำลัง แข็งแกร่ง ดุดัน กลับต้องมาเห็น ‘ความเป็นชาย’ ที่มีจริตจะก้านแบบผู้หญิง ดังนั้นเพื่อประคับประคองความไม่มั่นคงของพวกเขาเอง สิ่งที่ทำได้อย่างง่ายๆ ก็ คือแสดงตัวว่าเป็นคู่ปฏิปักษ์กับเกย์ออกสาวเต้นลีดเดอร์ เพื่อประกาศว่าตนเองมี ‘ความเป็นชาย’ เหนือกว่า Jesse Hernandez และทีมฟุตบอล New Orleans Saints จึงถูกถล่มบน Facebook อาทิเช่น
“มันเป็นการสนับสนุน ‘ความเป็นหญิง’ และลดทอนคุณค่า ‘ความเป็นชาย’ คิดดูดิ…เหมือนกับการเอานักเต้นบัลเลต์ชายมาปกป้องประเทศน่ะแหละ” บ้างก็ว่า “เป็นการล่มสลายทางศีลธรรม” “เป็นความป่วยตายของ NFL” ไปจนถึง “ผมไม่ได้รู้สึกถูกคุกคามนะเมื่อเห็นพวกเกย์ออกสาวมาเต้นลีด ใน NFL แต่ผมรู้สึกขยะแขยง นี่ผมมาดูบอลเพื่อความบันเทิงนะ ไม่ใช่เชลยของพวกเคลื่อนไหวคนรักเพศเดียวกัน”
นี่แหละที่น่าตกใจยิ่งกว่า…
อ้างอิงข้อมูลจาก