1.
พิธีปิดโอลิมปิก ค.ศ.2012 ที่ลอนดอน สหราชอาณาจักร ออสการ์ พิสโตริอุส (Oscar Pistorius) นักกีฬาพิการขาได้ถือธงชาติแอฟริกาใต้ในสนามอย่างองอาจ นับเป็นเกียรติ สำหรับยอดนักกีฬาที่กวาดชัยชนะมามากมาย เขาคือคนพิการที่วิ่งเร็วสุดในโลกจนมีโอกาสได้ไปวิ่งลงแข่งกับนักกีฬาขาปกติ
สื่อมวลชนให้ฉายาว่า Blade Runner ด้วยเอกลักษณ์ขาของเขาซึ่งใส่อุปกรณ์ไฟเบอร์ในการวิ่ง ล้อไปกับภาพยนตร์ระดับตำนานสร้างชื่อเสียงความโด่งดังให้กับชายคนนี้อย่างมาก
2 ปีต่อมา จากวีรบุรุษร่วงหล่นสู่ฆาตกร เมื่อออสการ์ถูกจับกุมในความผิดใช้ปืนยิงแฟนสาวตายในห้องน้ำบ้านของตัวเอง โดยนักวิ่งลมกรดรายนี้อ้างเข้าใจผิดคิดว่าแฟนสาวเป็นคนร้ายที่บุกเข้ามาในบ้านของเขา
ปี ค.ศ.2017 ศาลฎีกาแห่งแอฟริกาใต้ตัดสินว่า ออสการ์มีความผิดฐานฆ่าคนตาย ตัดสินให้จำคุกโทษสูงสุด 15 ปีเป็นการกลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ นั่นทำให้เจ้าหน้าที่คุมตัวออสการ์ไปคุมขังที่เรือนจำความมั่นคงสูงสุดทันที โดยเขาจะมีสิทธิ์ยื่นขอลดหย่อนโทษได้ในปี ค.ศ.2023
คดีนี้สร้างความช็อกแก่คนในสังคมอย่างมาก ทุกคนไม่อยากจะเชื่อว่าวีรบุรุษของเขาได้ก่อเหตุสะเทือนขวัญ หลังศาลอ่านคำพิพากษา พี่ชายของออสการ์พูดว่า “แตกร้าว ใจสลายและเสียใจเป็นอย่างยิ่ง”
2.
ออสการ์ได้รับฉายาว่า “นักวิ่งไร้ขาที่เร็วสุดในโลก” เขากวาดรางวัลการวิ่งระยะสั้นในกีฬาสำหรับคนพิการมาเกือบหมด ทั้งนี้ตัวเขาเกิดมาในครอบครัวคนขาวที่ร่ำรวยในประเทศที่มีคนดำเป็นประชากรส่วนใหญ่และเคยผ่านการเหยียดผิวอย่างเป็นระบบมาอย่างยาวนานนับร้อยปี เมื่ออายุได้เพียง 11 เดือน ขาของออสการ์มีปัญหาคือไร้กระดูกน่องและอาจส่งผลเสียต่อร่างกายโดยรวมได้ จึงต้องตัดขาใต้เข่าลงมาทิ้ง
แม้จะพิการตั้งแต่เด็ก แต่แม่ก็ให้กำลังใจอยู่เสมอ เธอย้ำว่าการที่เขาไม่มีขาไม่ใช่อุปสรรคในชีวิต เขาสามารถทำทุกอย่างได้ในทุกสิ่งที่ต้องการ เด็กหนุ่มเล่นกีฬาแทบทุกประเภทโดยไม่ให้ความพิการมาเป็นอุปสรรค จนมาเอาดีทางการวิ่งและได้เป็นนักกีฬาระดับโลกมีชื่อเสียงมากมาย ชายหนุ่มเป็นเพลย์บอย เป็นเศรษฐี เป็นคนดัง ก่อนเกิดเหตุเขามีแฟนสาวชื่อรีวา สตีนคัมป์ (Reeva Steenkamp)ซึ่งเป็นนางแบบ ดาราและเรียนมาทางด้านกฎหมาย ชีวิตดูสุขสมยิ่งนัก
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2014 วันแห่งความรัก กลางดึกคืนนั้นตำรวจรับแจ้งเหตุออสการ์ พิสโตริอุสยิงแฟนสาวตัวเองตายในบ้านของเขาเอง เจ้าหน้าที่รีบรุดไปที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงก็ได้พบร่างแฟนสาวของออสการ์ ซึ่งพึ่งคบกันได้เพียง 4 เดือนถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. 3 นัดด้วยกัน ร่างจมกองเลือดที่ชั้น 1 ของบ้าน
จากการสอบปากคำพยานให้การว่า ออสการ์รีบอุ้มร่างแฟนสาวลงมาจากห้องน้ำ ขณะอุ้มนั้นสตีนคัมป์เลือดเต็มตัว มีแผลฉกรรจ์ที่หัว ชายหนุ่มโทรศัพท์แจ้งรถพยาบาล รีบปฐมพยาบาลผายปอด แต่สุดท้ายเธอก็ไม่รอด
ที่ประตูห้องน้ำชั้น 2 ของบ้าน มีรอยกระสุน พร้อมกับแรงกระแทกจากไม้คริกเก็ต ซึ่งออสการ์ใช้ตีเพื่อทุบประตูเข้าไปโดยอ้างว่าไปอุ้มร่างหญิงคนรักออกมา
อย่างไรก็ดีเมื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด นักสืบที่ทำคดีนี้ก็รู้ทันทีว่า ออสการ์เจตนาฆ่าแฟนสาวตาย เพราะรูปแบบการก่อเหตุมันชัดเจนและเกิดขึ้นบ่อยมากในแอฟริกาใต้ เฉลี่ยว่าทุกๆ 8 ชั่วโมงจะมีคนถูกฆ่าจากสามี แฟนและคนรักอยู่เป็นประจำ นี่คือประเทศที่มีหญิงสาวถูกฆาตกรรมในอัตราสูงติดอันดับโลก ดังนั้นตำรวจที่ทำคดีฆาตกรรมจึงเจอคดีแบบนี้บ่อย พอวิเคราะห์ที่เกิดเหตุบ้านออสการ์ไม่นานก็ฟันธงได้ทันที
เริ่มจากห้องน้ำจุดเกิดเหตุมีทางเข้าออกได้ทางเดียวคือประตูเท่านั้น แม้จะมีบานเกล็ดหน้าต่าง แต่ห้องน้ำอยู่ชั้น 2 ของบ้าน ไม่มีทางที่ใครจะสามารถปีนเข้าออกได้เลย เพราะสูงมาก
ตำรวจเดินไปหายอดนักกีฬาของชาติ พบชายหนุ่มกำลังนั่งร้องไห้ เสื้อเปื้อนเลือด แต่มือสะอาดมาก เขาอ้างว่าได้ล้างเอาคราบเลือดออกไปแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น”
ออสการ์ตอบสั้นๆ ว่า “ผมนึกว่าเป็นขโมย”
ตำรวจขมวดคิ้ว หัวขโมยที่ไหนกันจะวิ่งไปขังตัวเองในห้องน้ำแบบนั้น จากการตรวจสอบสตีนคัมป์ไม่ได้เข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำตอนตี 3 แต่เธอเอามือถือเข้าไปด้วย เมื่อตรวจสอบโทรศัพท์ก็พบข้อความจากแฟนเก่าทักมาหา เจ้าหน้าที่คาดว่าอาจเป็นปมที่ทำให้ออสการ์โกรธหึงหวงและนำไปสู่การทะเลาะกัน
ตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้วว่านิสัยของออสการ์นั้นใจร้อนและชอบใช้ความรุนแรงกับคนอื่น โดยเฉพาะแฟนเก่า เขาเป็นคนขี้หึงอย่างมาก เจ้าหน้าที่เริ่มสอบปากคำยอดนักกีฬาอย่างละเอียด พฤติกรรมหลายอย่างดูผิดเพี้ยนไม่สมเหตุสมผล เช่น ถ้าหัวขโมยเข้ามาในบ้านจริง สิ่งแรกหลังจากหยิบปืน ออสการ์ควรจะรีบตามหาตัวแฟนสาวของตัวเองก่อน แล้วบังให้เธออยู่ข้างหลังขณะยิง แต่ตอนเกิดเหตุ ทำไมเขากลับเข้าใจผิดว่าคนรักเป็นคนร้าย ทำไมไม่ออกไปตามหาเธอก่อน
ยังไม่นับวิถีกระสุนที่เจตนายิงลงต่ำกว่ากลอนประตู เหมือนจะรู้ว่า คนที่อยู่ในห้องน้ำนั่งยองกับพื้นอยู่ ทั้งหมดนำไปสู่บทสรุปว่ามันไม่ใช่การยิงเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นขโมยอย่างแน่นอน
แต่เป็นการฆ่าที่เลือดเย็นมากกว่า
3.
เมื่อออสการ์ถูกตั้งข้อหา คนในครอบครัวพยายามต่อสู้ช่วยยอดนักกีฬารายนี้ โดยอ้างเหตุป้องกันตัวเพราะประเทศนี้มีเหตุอาชญากรรมสูง คนจึงอยู่อย่างหวาดกลัวอย่างมาก
“เราพึ่งพาตำรวจไม่ได้”
ดังนั้นคนรวยจึงมีปืนไว้ป้องกันตัว หากมีใครมาเดินในบ้านค่ำๆ คืนๆ ความเชื่อของพวกเขาคือ มันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากโจร เพื่อนสนิทคนหนึ่งเล่าว่า เมื่อไปค้างบ้านออสการ์ แล้วออกมากินน้ำตอนกลางคืนจนทำเสียงดัง ออสการ์ก็รีบออกมาพร้อมปืนในมือทันที เพราะไม่มีใครปลอดภัยในประเทศนี้
“หัวขโมยที่บุกเข้ามาในบ้านคนรวยนั้น คงไม่ได้มัดคุณไว้และปล้นทรัพย์สินเท่านั้น แต่เขาอาจจะข่มขืนเมียคุณ ฉี่รดลูกคุณ ยิงคุณ แล้วทิ้งให้เด็กโตมาไร้พ่อได้ ดังนั้นข้ออ้างยิงเพราะคิดว่าเป็นขโมยจึงไม่ใช่เรื่องแปลกในประเทศนี้”
อย่างไรก็ดีในมุมของครอบครัวสตีนคัมป์ยืนยันว่า ออสการ์เป็นฆาตกรเจตนาฆ่าหญิงสาวอย่างแน่นอน ไม่มีเหตุผลเป็นอื่นได้ ในชั้นสอบสวนดูเหมือนเจ้าหน้าที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับยอดนักกีฬา นักสืบที่ไปตรวจที่เกิดเหตุคนแรกและฟันธงว่ามันคือการฆาตกรรมถูกถอดออกจากคดี พ่อของรีวาต้องไปที่จุดเกิดเหตุเก็บหลักฐานใส่ถุงแล้วส่งไปให้นิติเวชหลายหน่วยวิเคราะห์เอง เขาถึงขั้นต้องเอาประตูที่ถูกยิงไปส่งตรวจด้วย เพราะมีคนเสนอจะซื้อประตูนี้ไป และหากประตูหายไป หลักฐานชิ้นสำคัญก็จะหายไปด้วย
ตำรวจไว้ใจไม่ได้ ยิ่งคดีกับนักกีฬาวีรบุรุษของชาติ
ผู้ทรงอิทธิพล ฐานะทางบ้านดี
กลายเป็นว่าครอบครัวคนตายกลับต้องสืบคดีส่งหลักฐานตรวจเอง
ตัวออสการ์ให้การในชั้นศาลว่า เขานอนหลับอยู่ที่เตียง แต่ด้วยความกลัวเรื่องอาชญากรรม ทำให้ต้องพกปืนไว้ใต้เตียงเสมอ ตอนตี 2 กว่าๆ เขาได้ยินเสียงดัง จึงลุกขึ้น หยิบปืนใช้ไม้ค้ำตัวเองเพื่อพยุงเดิน พยายามฟังเสียงที่ดัง ระหว่างนั้นได้ตะโกนออกมา เพื่อให้แฟนสาวได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ ทันใดนั้น! เขาเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวในห้องน้ำ จึงเดินไปหน้าห้องน้ำถือปืนพร้อมลั่นไก ประตูมันล็อก มีคนอยู่ในห้องน้ำแน่นอน วินาทีนั้น เขาคิดว่าคือหัวขโมย
ด้วยความกลัว ด้วยความตกใจ ออสการ์บอกว่าเคยได้รับคำขู่ฆ่ามาก่อน จึงตัดสินใจยิงออกไป เมื่อกระหน่ำกระสุนจนเสร็จ จึงพยายามตะโกนบอกให้แฟนสาวรีบแจ้งตำรวจทันที เขาคิดว่าเธอยังนอนอยู่บนเตียง แต่ทุกอย่างเงียบ ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ
วินาทีนั้น ออสการ์จึงรู้ว่า สิ่งที่อยู่ในห้องน้ำคือแฟนสาวของเขาเอง ไม่ใช่หัวขโมยที่ไหน เขาฉวยไม้คริกเก็ตกระหน่ำตีประตูเพื่อให้เปิดออก แล้วจึงรีบแจ้งแพทย์ รีบอุ้มร่างเธอลงมาเพื่อหวังว่าจะมีชีวิตอยู่ แต่มันก็สายไปเสียแล้ว
4.
ตลอดเวลาที่เกิดเรื่อง ออสการ์ได้รับการประกันตัว คดีนี้เขายอมรับว่าก่อเหตุยิงแฟนสาวจริง แต่ย้ำว่ามันคืออุบัติเหตุ ศาลชั้นต้นตัดสินว่าเขามีความผิดจริง แต่ลงโทษจำคุก 5 ปี นับเป็นโทษที่เบามากกับความผิดที่ก่อ เขาจำคุกแค่ 10 เดือนก็ได้รับการปล่อยตัวและให้กักขังตัวเองในบ้านแทน
ครอบครัวสตินคัมป์สู้ต่อ พวกเขายื่นอุทธรณ์ ศาลตัดสินให้ออสการ์จำคุก 6 ปี อัยการรับไม่ได้นี่เป็นโทษเบากว่าที่สังคมคาดหวัง จึงส่งเรื่องไปสู่ศาลฎีกา
อัยการนำหลักฐานมาชี้แจงต่อศาลว่า ก่อนเกิดเหตุออสการ์ พิสโตรีอุสกับรีวา สตีนคัมป์ทะเลาะกันอย่างรุนแรงมาก ด้วยความโกรธไม่พอใจ ซึ่งเป็นนิสัยของชายหนุ่มอยู่แล้ว จึงข่มขู่จะทำร้ายร่างกายแฟนสาวจนเธอต้องหนีไปล็อกประตูขังตัวเองในห้องน้ำ หยิบมือถือเตรียมจะขอความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกยิงใส่จนเสียชีวิต
หลักฐานชี้ว่าบ้านที่ชายหนุ่มพัก แม้จะเคยถูกก่อเหตุย่องเบาเมื่อหลายปีก่อนจริง แต่หลังเหตุการณ์นั้น ระบบรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านก็ยกระดับ มีกำแพงสูง ดังนั้นจึงยากที่ขโมยคนไหนจะเข้ามาในหมู่บ้านได้ และก่อนเกิดเหตุมีคนได้ยินเสียงชายหญิงทะเลาะกันในบ้าน ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของหญิงสาว ตามด้วยเสียงปืนดังสนั่น ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอีกครั้ง ก่อนมีเสียงปืนดังอีกครา จากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง
นอกจากนี้วิถีกระสุนที่พบยังหักล้างข้ออ้างที่ออสการ์บอกว่า ใช้ไม้ค้ำยันร่างระหว่างยิงนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ที่จริงแล้วเขาใส่ขาเทียมแล้วเดินตัวตรงไปห้องน้ำ เพื่อให้ยืนได้อย่างมั่นคง ก่อนเจตนาเหนี่ยวไกปืน เล็งเป้าต่ำ ให้กระสุนพุ่งเข้าใส่หญิงสาวอย่างโหดเหี้ยม การจำลองเหตุการณ์โน้มน้าวใจลูกขุนอย่างมาก
อีกจุดหนึ่งที่อัยการนำหลักฐานมาแสดงต่อศาล ชี้ว่าออสการ์เคยไปออกรายการทีวีแสดงความยโสว่าจะเอาตัวรอดจากคดีนี้ ย้ำว่าตัวเขาจะต้องชนะ แม้จะติดคุกหลังศาลอุทธรณ์พิพากษา แต่ก็ได้ย้ายไปอยู่ในเรือนจำที่เอื้อต่อคนพิการ แถมที่ผ่านมาเขาไม่เคยแสดงการสำนึกผิดหรือแสดงความเสียใจมากพอในสายตาของครอบครัวสตีนคัมป์เลย
ในที่สุดลูกขุนศาลฎีกาได้ตัดสินให้
วีรบุรุษของชาติกลายเป็นนักโทษสมบูรณ์แบบ
ด้วยโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี
ศาลสั่งให้นับโทษที่เขาเคยจำคุกในศาลชั้นอื่น ให้จำคุกด้วยโทษ 13 ปีกับ 5 เดือน เจ้าหน้าที่คุมตัวนักกีฬาวีรบุรุษของชาติกลับไปคุมขังในเรือนจำความมั่นคงสูงสุดทันที ศาลฎีกาชี้ว่าออสการ์ไม่ได้สำนึกผิดในสิ่งที่ก่อเลยแม้แต่น้อย และอัยการได้ชี้ให้เห็นหลักฐานที่ชัดแจ้งดังที่นักสืบที่ไปตรวจจุดเกิดเหตุครั้งแรกยืนยันว่า เขาเจตนาฆ่ารีวา สตีนคัมป์จริง
ครอบครัวสตีนคัมป์เหมือนได้ไถ่ถอนความสูญเสีย พ่อของรีวาเล่าว่า ภรรยาของเขาเองเป็นคริสเตียนจึงให้อภัยชายหนุ่มสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สำหรับเขานั้นถือว่าการกระทำของออสการ์จะต้องได้รับการชดใช้ ยิ่งเมื่อผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษา พ่อของสตีนคัมป์ถึงกับตัวสั่นไปหมดเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มจะติดคุกด้วยโทษสูงสุด
อย่างน้อยกระบวนการยุติธรรมก็ยังพอไว้ใจได้ อย่างน้อยลูกสาวคนเล็กของครอบครัวก็ได้รับความยุติธรรม เขาย้อนไปถึงตอนที่เห็นศพลูกครั้งแรกแล้วบอกกับสื่อว่าตัวลูกเย็นเฉียบ แต่ยังคงงดงาม ตัวเขาถึงกับทรุดไปกองกับพื้น ต้องมีคนช่วยพยุงพาออก แต่เขาก็ดึงดันกลับมาเพื่อบอกรีวาว่า รักมากแค่ไหน….
“สุดที่รักของพ่อ ทุกวันในชีวิตพ่อ เช้า เที่ยง เย็น และตอนเช้ามืด พ่อคิดถึงลูกตลอดเวลา”
ข้อมูลอ้างอิง