ไอ มีไข้ สูญเสียการได้กลิ่นหรือรับรส เป็นอาการพื้นฐานที่สุด ที่มักพบในผู้ติดเชื้อ COVID-19 อย่างไรก็ดี แพทย์จากสหราชอาณาจักรได้ออกมาชี้ว่า ผู้ที่มีอาการปวดหัว เจ็บคอ และมีน้ำมูก อาจเป็นสัญญาณที่เชื่อมโยงกับเชื้อกลายพันธุ์ สายพันธุ์อินเดีย (สายพันธุ์เดลต้า) ได้
ศาสตราจารย์ ทิม สเป็กเตอร์ (Tim Spector) ผู้ทำงานศึกษาวิจัยอาการของ COVID-19 จาก ZOE ออกมาเปิดเผยว่า COVID-19 เชื้อกลายพันธุ์ สายพันธุ์อินเดีย หรือที่องค์การอนามัยโลก (WHO) บัญญัติชื่อใหม่ว่า สายพันธุ์เดลต้า ส่งผลให้ผู้ป่วยอายุน้อย เกิดอาการไข้หนักขึ้นได้
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าผู้ป่วยอายุน้อย จะมีอาการปวดหัว เจ็บคอ มีน้ำมูก และมีไข้ พวกเขาอาจไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองป่วยอะไรมากนัก ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยง อันจะส่งผลให้เกิดการแพร่เชื้อเป็นวงกว้าง เนื่องจากอาการที่ดูไม่รุนแรง และเหมือนคนไม่สบายที่มีน้ำมูกทั่วไป ซึ่งอาจทำให้พวกเขามีการรวมตัวกันได้
สเป็กเตอร์ เปิดแอพพลิเคชั่น เพื่อให้ประชากรในสหราชอาณาจักร กรอกข้อมูลอาการป่วย เพื่อทำการเก็บรวบรวม ในการประเมินอาการของ COVID-19 จนเขาพบว่า อาการเป็นไข้ยังคงเป็นอาการพื้นฐาน ที่เกิดขึ้นกับผู้ติดเชื้อ COVID-19 แต่ปัจจุบัน อาการไม่ได้กลิ่นพบได้น้อยลงแล้ว จนกระทั่งมันไม่ติด 10 อันดับ อาการแรกๆ ที่ผู้ป่วยมักมี หลังติด COVID-19
ปัจจุบันนี้ เชื้อที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในสหราชอาณาจักรกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ คือ เชื้อสายพันธุ์อินเดีย (สายพันธุ์เดลต้า) “มันอาจจะรู้สึกเหมือนไข้ หรือความรู้สึกไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัว แต่ขอให้คุณอยู่ในบ้าน และตรวจหาเชื้อ” สเป็กเตอร์กล่าวถึงกลุ่มคนอายุน้อย ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อมากที่สุด เนื่องจากร่างกายของพวกเขามักไม่แสดงอาการ
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/health-57467051
https://www.youtube.com/watch?v=OHBua3aXQ7c
#Brief #TheMATTER