การประชุม COP26 ในกลาสโกว์ สก็อตแลนด์ ได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยมันเป็นการประชุมครั้งสำคัญ ต่อการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่หลายคนคาดหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงสำเร็จ ทั้งนี้ ผู้นำโลก 100 ชาติ เตรียมทำข้อตกลงหยุดการตัดไม้ทำลายป่า พร้อมเดินหน้าการคงอุณภูมิเฉลี่ยโลก ไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสแล้ว
ในวันนี้ (2 พฤศจิกายน) ผู้นำจากทั้ง 100 ชาติ เตรียมจะทำข้อตกลง ในการยุติการตัดไม่ทำลายป่าภายในปี 2030 โดยชาติที่จะเข้าลงนามจำนวนกว่าร้อยประเทศ มีพื้นที่ผืนป่ารวมกันกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของโลกใบนี้ นอกจากนี้ รัฐบาลของสหราชอาณาจักรได้ออกแถลงการณ์ว่า ข้อตกลงการยุติการตัดไม่ทำลายป่าในครั้งนี้ จะเป็นข้อตกลงแรกอันสำคัญ ของการประชุม COP26
ชาติต่างๆ ที่มีผืนป่าสำคัญของโลก เช่น แคนาดา รัสเซีย บราซิล โคลอมเบีย อินโดนีเซีย ตลอดจนสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก จะเข้าร่วมทำข้อตกลงการยุติการตัดไม้ทำลายป่าในครั้งนี้ เช่นเดียวกันกับสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ดี บราซิลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงการตัดไม่ทำลายป่า บริเวณพื้นที่แอมะซอน ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้
ผืนป่าของโลกเรา สามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่จะถูกปล่อยขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศได้กว่า 11 เปอร์เซ็นต์ ของก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด ที่กำลังทำลายชั้นบรรยากาศของโลกอยู่ในทุกวันนี้ โดยผู้นำทั่วโลกจะมีการตั้งกองทุนรวมกันกว่า 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4 แสนล้านบาท) ในการปกป้อง และฟื้นฟูผืนป่าให้แก่โลก ควบคู่กันกับงบประมาณ 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.4 แสนล้านบาท) จากภาคเอกชน
ข้อตกลงนี้ จะเป็นการหาข้อยุติ หลังจากที่นานาประเทศได้ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานว่า พวกเขาควรจะจัดการอย่างไร ต่อปัญหาการตัดไม่ทำลายป่า ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญ อันส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ “ในวันนี้ ที่ COP26 ผู้นำทุกคนได้ลงนามในข้อตกลงครั้งสำคัญ เพื่อที่จะปกป้องและฟื้นฟูผืนป่าของโลกเรา” บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรระบุ ในฐานะเจ้าภาพการประชุมในครั้งนี้
การประชุมไม่ได้มีเพียงแต่การตกลงกัน ในการยุติการตัดไม่ทำลายป่าเท่านั้น เพราะผู้นำในแต่ละรัฐ กำลังจะตั้งเป้าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 เพื่อคงอุณภูมิเฉลี่ยโลก ไม่ให้พุ่งสูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ผ่านการลดการใช้เชื้อเพลิงเผาไหม้ เช่น น้ำมัน ถ่านหิน และหันไปใช้รถไฟฟ้า ตลอดจนการใช้พลังงานทดแทนในด้านอื่นๆ เพื่อให้โลกพ้นจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งกำลังส่งผลออกมาในรูปแบบของภัยพิบัติ ที่นับวันจะเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับไทยในการประชุมครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ขึ้นพูดบนเวที COP26 เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ของไทย ต่อการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก โดย พล.อ.ปะยุทธ์ระบุว่า ประเทศไทยจะตั้งเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน (ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เท่ากับศักยภาพการดูดซับ) ภายในปี 2065 ซึ่งล่าช้าว่าหลายชาติของโลกในปี 2050 แต่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเสริมว่า เป้าหมายอาจทำได้เร็วขึ้น หากมีเงินและเทคโนโลยีสนับสนุน
อย่างไรก็ดี พล.อ.ประยุทธ์ย้ำว่า “ประเทศไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 0.72 เปอร์เซ็นต์ของโลก แต่ไทยกลับเป็นหนึ่งใน 10 ประเทศที่ได้รับภัยร้ายแรงที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” พร้อมระบุว่า “ไทยเคยตั้งเป้าหมายลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 7 เปอร์เซ็นต์ ก่อนปี 2020 ซึ่งไทยทำได้ถึง 17 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2019 เร็วกว่าที่ตั้งไว้หนึ่งปีและมากกว่าสองเท่า” ก่อนเรียกร้องไปยังประชาคมโลกว่า “มนุษย์ต้องมีความกล้าหาญ ความชาญฉลาด ความรู้คิด ความอดทนสูงสุด นำชัยชนะมาสู่ลูกหลาน ผมขอย้ำว่าเราทุกคนไม่มีแผนสองในการรักษาเยียวยาสภาพภูมิอากาศ เพราะเราจะไม่มีโลกที่สองที่เป็นบ้านของพวกเราเหมือนโลกนี้อีกแล้ว”
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/2021/11/01/world/cop26-climate-deforestation-deal-intl/index.html
https://thematter.co/brief/159080/159080
#Brief #TheMATTER
Behandlung von Potenz-Störungen kann durchaus apothekech.com mit natürlichen Wirkstoffen aus der Natur erfolgen. Im Anschluss war Zeit für Gespräche und auf unseren Internetseiten finden Sie ausführliche Informationen zu unserem Angebot. Bei der organische Ursachen ausgeschlossen worden sind oder da beide Medikamente in der gleichen Weise wirken, chemischen Potenzpillen, wie Lovegra, die durch den Mund einzunehmen sind.