นานมาแล้วที่ ‘กีฬา’ เป็นเครื่องมือหนึ่งที่แต่ละชาติต่างใช้เพื่อประกาศอำนาจของประเทศตนเอง
เพราะกีฬาเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สะท้อนรากเหง้าทางวัฒนธรรมและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ ชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นมหกรรมกีฬาอย่างโอลิมปิก ฟุตบอลโลก เทนนิสก็ต้อง Davis Cup หรือถ้าหากเป็นกอล์ฟก็ต้อง Ryder Cup เพราะการคว้าชัยเหนือประเทศที่มีประวัติศาสตร์ของกีฬาเหล่านั้นยาวนานกว่า นั่นหมายถึงการประกาศชัยชนะในเชิงอำนาจเลยทีเดียว กีฬาจึงมักถูกโยงเข้ากับเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นชาติอยู่เรื่อยมา
Ryder Cup จึงนับเป็นการแข่งขันกีฬารายการหนึ่งที่ถูกจัดอยู่ในหมวดของการแข่งขันระดับทวีป เพราะไม่ใช่การแข่งขันกอล์ฟธรรมดาๆ แต่เป็นการแข่งขันที่วัดกันด้วยศักดิ์ศรีมากกว่าผลคะแนน ซึ่งการแข่งขันครั้งล่าสุดกำลังจะเปิดฉากการแข่งขันขึ้นในอีกไม่ช้า ชาวยุโรปและอเมริกันต่างตั้งตารอด้วยใจจดจ่อ ขณะอีกซีกโลกหนึ่งอย่างคนไทยเชื่อว่าคงมีน้อยคนนักที่ติดตามการแข่งขันกอล์ฟรายการนี้อย่างจริงจัง
เรื่องของกีฬาบางทีก็เป็นเรื่องของรสนิยมและการรับรู้ ถ้าเกิดแตกต่างกันไปสักหน่อย ก็อาจทำให้ไม่อินหรือไม่เก็ตกับการแข่งขันนั้นๆ ก็เป็นได้ แต่อย่างว่ากีฬาเป็นภาษาสากลที่ไม่ว่าใครก็สามารถสนุกไปกับการแข่งขันได้ ลองเปิดใจไปดูกันว่า ในการแข่งขัน Ryder Cup 2018 ครั้งนี้จะมีอะไรน่าสนใจ จนแม้แต่คนที่ไม่เคยสนใจกอล์ฟมาก่อน ยังอยากจะออกรอบดูบ้าง
ศักดิ์ศรีค้ำคอ ยอมไม่ได้
หากว่ากันเท่าที่คนทั่วไปรู้จัก การแข่งขัน Ryder Cup คือการแข่งขันกอล์ฟระหว่างทีมยุโรปกับทีมอเมริกันที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ 2 ปี โดยทั้งสองทีมต้องตัวแทนโปรกอล์ฟเข้าร่วมการแข่งขันทีมละ 12 คน ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไป จุดเริ่มต้นของการแข่งขันเกิดขึ้นจากการที่ในยุค 1920 ไม่เคยมีโปรกอล์ฟชาวอเมริกันสามารถมาคว้าแชมป์ใน British Open รายการแข่งขันกอล์ฟระดับเมเจอร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกได้เลย James D. Harnett แห่งนิตยสาร Golf Illustrated จึงลองร่อนจดหมายไปยังสมาคมกอล์ฟอาชีพแห่งอเมริกาให้ส่งนักกอล์ฟจำนวน 12 คนมาร่วมแข่งขันกับทีมสหราชอาณาจักร
แต่ความน่าสนใจอยู่ที่ว่า ทีมอเมริกากลับสามารถเอาชนะทีมสหราชอาณาจักรได้ตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรกซะอย่างนั้น ก่อนที่ภายหลังจะมีการเพิ่มเติมกฎ โดยเปิดโอกาสให้โปรกอล์ฟชาวไอริชและชาติอื่นเข้ามาร่วมทีม จนกลายเป็นทีมยุโรปในที่สุด ตลอดการแข่งขันที่จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1927 ทั้งหมด 41 ครั้ง กลับเป็นทีมอเมริกาที่กำชัยไปได้มากกว่าถึง 26 ครั้ง แม้ว่าตามประวัติศาสตร์ชนชาติอเมริกันจะมีรากแท้ๆ มาจากยุโรปก็ตามที และแถมกีฬากอล์ฟยังเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้ชื่อว่ามีต้นกำเนิดในสก็อตแลนด์ที่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปอีกต่างหาก การขับเคี่ยวหวดวงสวิงของสองทวีปทุกครั้งที่ผ่านมา บอกเลยสนุกเพราะศักดิ์ศรีล้วนๆ ก็ว่าได้
หวดกันเป็นทีม สนุกอีกเท่าตัว
ปกติแล้วกีฬากอล์ฟเป็นการแข่งขันแบบเดี่ยว คือต้องแข่งกับทั้งตัวเองและแข่งกับทั้งคู่แข่ง แต่สำหรับ Ryder Cup กลับมีกติกาที่แตกต่างออกไป คือต้องรวมทีม 12 คนมาเพื่อแข่งกันทำคะแนน รูปแบบการขับเคี่ยวในสนามจึงแตกต่างออกไปจากปกติ ซึ่งต้องอาศัยทั้งทีมเวิร์กและความเข้าขากันของสมาชิกในทีม โดยมีทั้งรูปแบบการแข่งแบบ foursomes ที่สมาชิก 2 คนของแต่ละทีมผลัดกันตีลูกกอล์ฟ 1 ลูกคนละครั้ง แบบ fourballs สมาชิก 2 คนของแต่ละทีมตีลูกกอล์ฟคนละลูก และแบบ singles สมาชิกทั้งหมด 12 คนของแต่ละทีมแข่งขันกันตามกติกาปกติ ซึ่งในการแข่งขันทั้ง 3 ประเภทนี้ทีมไหนที่ชนะก็เก็บเป็นคะแนนสะสม เมื่อคะแนนรวมมากกว่าก็เป็นฝ่ายชนะไป เรียกว่าเป็นกติกาที่ทำให้การดูกอล์ฟ สนุกขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
กองทัพโปรกอล์ฟ ยลฝีมือระดับโลก
นอกจากเรื่องกติกาที่ช่วยเพิ่มความเร้าใจแล้ว อย่างที่บอกว่าการแข่งขันรายการนี้เป็นศักดิ์ศรีระหว่างทวีป แต่ละทีมจึงต้องส่งโปรกอล์ฟที่ดีที่สุดของทวีปตนเองเข้าร่วมทีมอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งในการแข่งขันในปี 2016 คราวที่แล้ว กัปตันอย่าง Davis Love III นำทีมอเมริกาเอาชนะทีมยุโรปไปได้ แต่คราวนี้ตำแหน่งกัปตันเปลี่ยนไปอยู่ในมือของ Jim Furyk ที่เคยมีส่วนร่วมพาทีมอเมริกาคว้าถ้วย Ryder Cup มาแล้วถึงสองสมัย
ขณะเดียวกันทางฝั่งทีมยุโรปก็ได้ Thomas Bjørn โปรกอล์ฟจากเดนมาร์กมานั่งแทนกัปตันทีม แถมยังมีข่าวว่าเขาเป็นคนยุให้ทีมอเมริกาเรียก Tiger Woods โปรกอล์ฟระดับตำนานกลับมาติดทีมอีกครั้ง หลังจากที่หล่นหายไปจากสารบบของวงการกอล์ฟพักใหญ่ เพราะปัญหาส่วนตัวและอาการบาดเจ็บ ปัจจุบันเริ่มกลับมาไล่ล่าแชมป์ด้วยฟอร์มอันร้อนแรง ซึ่งล่าสุดก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองกัปตันทีมเรียบร้อยตามคาด
สนามในตำนาน ประสบการณ์ขั้นสุด
กีฬาแทบทุกชนิด เรื่องของเจ้าภาพจัดการแข่งขัน มักเป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูกยกขึ้นมาเพื่ออ้างเป็นปัจจัยของชัยชนะอยู่บ่อยๆ จะด้วยเรื่องของเสียงเชียร์ ภูมิประเทศ สภาพแวดล้อมอันคุ้นเคยล้วนมีส่วนที่ทำให้นักกีฬาทำผลงานได้ดีทั้งสิ้น ซึ่งใน Ryder Cup 2018 ครั้งที่ 42 ล่าสุดนี้เป็นทางฝั่งทีมยุโรปที่เป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นที่สนาม Le Golf National ในเมืองอีฟว์ลีน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงปารีส น่าสนใจว่าทีมจากยุโรปจะสามารถทวงชัยชนะคืนจากทีมอเมริกาได้หรือไม่ สนามแห่งนี้ยังเป็นสนามในตำนานแห่งหนึ่งที่เคยจัดแข่งขันรายการเฟรนช์ โอเพ่น มาตั้งแต่ปี 1991 ซึ่ง ธงชัย ใจดี นักกอล์ฟชาวไทยเคยไปคว้าแชมป์รายการนี้ที่สนามแห่งนี้มาแล้ว รวมไปถึงยังเป็นสนามที่ใช้ในการแข่งขันโอลิมปิกปี 2024 อีกด้วย
ว่ากันว่าใครที่ไม่เคยสนใจกีฬากอล์ฟมาก่อน หรือมองว่าเป็นกีฬาที่แสนจะน่าเบื่อ แต่ถ้าได้ลองไปสัมผัสบรรยากาศในการแข่งขัน Ryder Cup ดูสักครั้ง เสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องของกองเชียร์จากทั้งสองทวีปจะทำให้รู้สึกไม่ต่างอะไรกับมหกรรมกีฬาระดับโลกอื่นๆ และยิ่งเป็นสนามที่คนไทยเคยมาสร้างประวัติศาสตร์ที่นี่ด้วยแล้วล่ะก็ นับเป็นประสบการณ์การชมกีฬาที่หาไม่ได้จากที่ไหนเลยทีเดียว
และถือเป็นสิทธิพิเศษของเจ้าของรถ BMW กับโปรแกรม The Ultimate JOY Experience มอบประสบการณ์สุดล้ำค่าที่เงินก็หาซื้อไม่ได้ ด้วยการพาไปชมการแข่งขัน The 2018 Ryder Cup แบบติดขอบสนาม ตลอด 3 วันเต็ม พร้อมยังเติมเต็มความฝันให้แก่สมาชิกด้วยการเปิดโอกาสให้ลงสนามออกรอบตามรอยโปรกอล์ฟระดับโลก หลังจบการแข่งขันในสนาม Le Golf National อีกด้วย ประสบการณ์ขั้นสุดขนาดนี้มีแต่ BMW เท่านั้นที่ให้ได้
อ้างอิงข้อมูลจาก
http://www.rydercup.com/history
https://en.wikipedia.org/wiki/Ryder_Cup
https://en.wikipedia.org/wiki/Le_Golf_National
http://golfdigest-th.com/2016/bmwrydercup/
https://www.bmwultimatejoy.com/th/joy/detail.aspx?i=THE4eCtzM2Y5UUE9