เป็นเรื่องปกติที่เมื่อเราเลือกลงทุนกับอะไรสักอย่าง เราต้องคาดหวังผลตอบแทนหรือกำไรจากการลงทุนนั้นๆ ยิ่งเป็นการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินแล้ว ก็ย่อมสุ่มเสี่ยงมากที่จะขาดทุน ดังประโยคเตือนสุดคลาสสิก “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน” แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีการลงทุนอีกประเภทหนึ่งที่คาดหวังผลตอบแทนได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงใดๆ ทั้งสิ้น การลงทุนนั้นเรียกว่า การลงทุนในความสุข
ฟังดูอาจะเป็นเรื่องสวยหรูที่จะลงทุนในความสุข ใครๆ ก็สงสัยว่าเงินซื้อความสุขได้จริงหรือ แต่ในเมื่อ Living Well หรือการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีคือสิ่งที่ทุกคนต้องการมากที่สุด ขณะที่ปัจจัยภายนอกบ้านคือสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมอะไรใดๆ ได้เลย ทั้งเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ การเดินทางที่แสนจะลำบาก การใช้ชีวิตที่ต้องพึ่งพิงการบริการจากคนอื่นเป็นหลัก แล้วจะมีที่ไหนที่เราสามารถควบคุมและมีความสุขในการใช้ชีวิตได้ดีเท่ากับบ้าน คงไม่มีอะไรจะคุ้มค่าไปกว่าการลงทุนเพื่อออกแบบความสุขในบ้านอีกแล้ว
การลงทุนในบ้าน ไม่ได้หมายความถึงการซื้อบ้านหลังโตหรือตกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูราคาแพง แต่หมายถึงการเลือกออกแบบบ้านให้บ้านของเรากลายเป็นพื้นที่ที่เราสามารถใช้ชีวิตด้วยความสุขได้อย่างแท้จริง ลองมาดูกันว่า อะไรคือเหตุผลที่การลงทุนในบ้านมีแต่ได้กำไร ไม่ขาดทุนความสุขแน่นอน
บรรยากาศความสุข สร้างได้จริงในบ้าน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งแวดล้อมและบรรยากาศรอบตัวส่งผลต่อความสุขในการใช้ชีวิตของเรา ลองนึกถึงวันที่ต้องใช้ชีวิตนอกบ้านทุกๆ วัน จะด้วยมลพิษทางอารมณ์จากเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศหรือคุณภาพของระบบขนส่งที่ชวนทุกข์ใจไม่น้อย Lamees Khorshid ศาสตราจารย์นักจิตบำบัดจาก Chicago School of Professional Psychology อเมริกาได้อธิบายไว้ว่า สิ่งแวดล้อมและบรรยากาศรอบข้างส่งผลต่ออารมณ์โดยตรง ประสาทสัมผัสจะส่งข้อมูลไปสู่สมอง ก่อนจะประมวลผลออกมาเป็นอารมณ์ความรู้สึกทั้งแง่บวกและลบได้ทันที ซึ่งการปล่อยให้อารมณ์ดำดึ่งสู่ความเลวร้าย ก็ยากที่จะปรับจูนความรู้สึกดีๆ ให้กลับมาทำอะไรต่อไปได้อย่างลำบาก
ในเมื่อเราไม่สามารถจัดการอะไรกับบรรยากาศแย่ๆ นอกบ้านได้เลย ก็จำเป็นต้องมาจัดการด้วยตัวเองในพื้นที่ส่วนตัวของเราอย่างบ้าน ยกตัวอย่างง่ายๆ เพียงแค่เลือกสักมุมหนึ่งในบ้านเพื่อออกแบบให้เป็นพื้นที่ผ่อนคลายแสนพิเศษ เหมือนได้เดินเข้ามาในร้านกาแฟแสนสงบหรือร้านสปายังไงยังงั้น เทคนิคง่ายๆ คือการดิมแสงไฟในห้องให้มืดลงหรือเปลี่ยนจากการเปิดไฟนีออนสว่างจ้าเป็นโคมไฟสีนวลแทน ผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าการหรี่แสงไฟในช่วงหัวค่ำจะช่วยให้อารมณ์ผ่อนคลายมากขึ้น พร้อมกันนั้นก็จัดพื้นที่ตรงนั้นเพื่อทำกิจกรรมสุดโปรด โซฟานิ่มๆ สักตัว หนังสือสักเล่มหรือหนังสักเรื่อง เติมน้ำหอมอโรมาปรับอากาศสักหน่อย ความสุขในบ้านก็หาได้ง่ายๆ แล้ว
สุขกับข้าวของเครื่องใช้ ตอบโจทย์ฟังก์ชันที่ไม่จำเป็นต้องแพง
แม้หลายงานวิจัยจะบอกว่าการใช้เงินจับจ่ายซื้อของสามารถสร้างความสุขให้กับเราเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เพราะความรู้สึกมักจะหายไปหลังจากที่เราได้ครอบครองสิ่งนั้นๆ แล้ว จึงควรจะไปลงทุนหาความสุขจากประสบการณ์จากการท่องเที่ยวหรือใช้ชีวิตน่าจะเป็นความสุขที่ยั่งยืนกว่า แต่ถ้าเป็นสิ่งของที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตดีๆ ในบ้านล่ะ อาจจะต้องลองคิดใหม่กันดูสักหน่อย โอเคว่าการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ดีๆ หรือของตกแต่งบ้านสวยๆ อาจจะเป็นการสนองความต้องการก็จริง แต่ก่อนที่จะซื้ออยากให้มองถึงเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานด้วย แล้วของชิ้นนั้นจะมีคุณค่าที่มากกว่าแค่ความสวยงาม
เช่นหากต้องนั่งทำงานที่บ้าน การลงทุนซื้อเก้าอี้ทำงานดีๆ สักตัวก็น่าจะช่วยให้ทำงานได้นานหรือดีขึ้น ไม่ต้องทนทรมานกับการต้องนั่งปวดหลัง หรือการนอนที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะไม่ลงทุนเลือกซื้อที่นอนและเตียงดีๆ ที่จะทำให้การนอนของเราเป็นการพักผ่อนร่างกายที่สมบูรณ์แบบจริงๆ กระทั่งผลงานศิลปะหรือภาพถ่ายสวยๆ ราคาแพง ที่มักถูกมองว่าเป็นสิ่งของฟุ่มเฟือย แต่รู้หรือไม่ว่าพลังของศิลปะสามารถเยียวยาจิตใจได้ หลายปีมานี้โรงพยาบาลหลายแห่งในยุโรปและอเมริกาได้ให้ความสำคัญกับงานศิลปะที่ตกแต่งในห้องรักษาหรือบริเวณต่างๆ ในโรงพยาบาลเพื่อเยียวยาจิตใจของผู้ป่วย จนกลายเป็นหนึ่งใน facility ของโรงพยาบาลที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งการลงทุนกับสิ่งเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องราคาแพงเสมอไป เพียงแค่มองถึงฟังก์ชันว่าทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้นก็น่าจะเพียงพอแล้ว
เปิดประตูความสัมพันธ์ ความสุขที่มอบให้คนในบ้าน
ทั้งสองอย่างที่กล่าวมาข้างต้น อาจจะไม่มีความหมายต่อความสุขเลย ถ้าหากความสัมพันธ์ของผู้อาศัยในบ้านหรืออารมณ์สมาชิกในครอบครัวไม่สู้ดีนัก จะนำพาบรรยากาศแสนหม่นหมองให้ปกคลุมไปทั่วบ้าน Elaine Hatfield นักจิตวิทยาสังคมจาก University of Hawaii ได้ทำการศึกษาแล้วว่า อารมณ์ของมนุษย์สามารถส่งต่อกันได้ เมื่อสมาชิกคนหนึ่งในบ้านอารมณ์ไม่ดีก็มีแนวโน้มว่าสมาชิกในบ้านคนอื่นก็จะอารมณ์ไม่ดีตามไปด้วย เราจึงควรให้ความสำคัญกับความสุขของคนในบ้านไม่น้อยไปกว่าความสุขของตัวเอง
เข้าใจว่าความสัมพันธ์ในบางบ้านอาจมีกำแพงใหญ่โตในการใช้ชีวิตร่วมกัน ความสนิมสนมกันเองเป็นเรื่องที่ยากจะสร้างได้ แต่ปัญหานี้อาจสามารถแก้ได้ด้วยกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้ภายในบ้าน อย่างเช่นการออกแบบมุมนั่งเล่นที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถนั่งเล่นบอร์ดเกมได้พร้อมกัน เชื่อว่าถ้าเล่นจนติดลมได้เมื่อไร จะกลายเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ละลายพฤติกรรมได้เป็นอย่างดี หรือจะเป็นมุมกินข้าวที่แบ่งสัดส่วนชัดเจน แล้วหาโอกาสดีๆ ชวนกินข้าวแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันสักมื้อ ก็น่าจะเป็นการเปิดประตูให้ทุกคนในบ้านสนิทสนมกันมากขึ้น แล้วบรรยากาศแห่งความสุขในบ้านก็จะอบอวลไปทั้งหลัง
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ยังคิดไม่ออกเรื่องการออกแบบบ้านยังไงให้มีความสุข ลองเปิดโอกาสให้ CHANINTR ผู้เชี่ยวชาญด้านการนำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตและการอยู่อาศัยอย่างมีรสนิยมอันดับต้นๆ ของไทย ที่มีประสบการณ์เป็นถึงผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดี ดีไซน์หรูมากว่า 23 ปี ได้ออกแบบนิยาม Living Well และจัดการรูปแบบการใช้ชีวิตในบ้านให้มีความสุขตามความต้องการของคุณ โดยให้คำแนะนำการตกแต่งบ้านในทุกขั้นตอน การปรับแต่งบ้านใหม่ การดูแลรักษาและสรรหาเฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงชิ้นงานศิลปะต่างๆ ที่ต้องการ
พิสูจน์ได้จากลูกค้าที่ใช้บริการจริง ซึ่งถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์โฆษณา 4 เรื่องที่สร้างสรรค์โดย Winkreative เอเจนซี่โฆษณาชั้นนำจากลอนดอน โดยได้รับเกียรติจากลูกค้าระดับแนวหน้าถึง 4 ท่าน คือ คุณสุพรทิพย์ ช่วงรังษี, คุณประนัปดา พรประภา, คุณประณิธาน พรประภา และคุณสรพจน์ เตชะไกรศรี ที่มาถ่ายทอดนิยามความสุขการอยู่อาศัยในบ้านที่ออกแบบโดย CHANINTR ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.chanintr.com/livingwell
The Modern House from CHANINTR on Vimeo.
อ้างอิง
https://www.livehappy.com/lifestyle/home/put-some-happiness-your-home
https://www.bustle.com/articles/185018-11-hacks-to-make-your-home-happier-improve-your-mood
http://www.apartmenttherapy.com/10-things-that-will-make-you-happier-at-home-174151
https://www.nbcnews.com/health/health-news/healing-power-art-can-hospital-collections-help-n208966