สังเกตไหมว่า ไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้มักจะเป็นไปในลักษณะ ‘ที่ไหนก็ได้’ อาจเพราะด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในไม่กี่ปีมานี้ ทำให้การทำอะไรอยู่เป็นหลักแหล่งดูเป็นเรื่องล้าสมัยไปเสียอย่างนั้น ไล่ตั้งแต่การใช้สมาร์ทโฟนติดต่อสื่อสารกันได้ทุกที่ การทำงานผ่าน cloud computing จนเกิดเทรนด์ของ digital nomad อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ การเสพความบันเทิงอย่างการดูหนังได้หลายจอผ่าน VDO streaming ไปจนถึงร้านอาหารหรือร้านกาแฟชิคๆ ที่สามารถสร้างบรรยากาศดีๆ ฟรี Wifi เหมือนได้นอนเล่นอยู่บ้านยังไงยังงั้น
เมื่อความที่ไหนก็ได้มาแรงขนาดนี้ จึงไม่แปลกที่ ‘บ้าน’ หรือที่อยู่อาศัยของเรานั้นเริ่มสำคัญน้อยลงทุกที แม้การเดินทางในเมืองจะลำบากยากเข็นสักเพียงไหน การได้ออกไปใช้ชีวิตดีๆ นอกบ้านก็เป็นสิ่งที่ทุกคนแสวงหา แต่ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไมได้ว่าเทรนด์ดีไซน์บ้านในยุคใหม่ก็พยายามทำให้บ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัยแบบเดิมๆ ฟังก์ชันเจ๋งๆ ที่มาพร้อมกับความสวยงาม ปลุกกระแสให้หลายคนอยากกลับมาใช้ชีวิตดีๆ ในบ้านมากขึ้น
ลองไปสำรวจดูกันว่า เทรนด์ดีไซน์ของบ้านยุคใหม่มีอะไรกันบ้าง ไม่ต้องเดินทางให้เหนื่อย เพราะแค่การอยู่บ้านก็ชีวิตดีได้แล้ว ไม่แน่ว่าความที่ไหนก็ได้ อาจเป็นที่บ้านของเราเองนี่แหละ
ความสบายที่แท้อยู่ในบ้าน
ไลฟ์สไตล์ของผู้คนทุกวันนี้ขาดสมาร์ทโฟนเหมือนขาดใจ เพราะความรวดเร็วและความสะดวกสบายของมันทำให้ใครๆ ก็เสพติด ในเมื่อโทรศัพท์สมาร์ทแล้ว ทำไมบ้านจะสมาร์ทบ้างไม่ได้ การเกิดขึ้นของ Amazon Echo นวัตกรรมลำโพงอัจฉริยะที่สามารถสั่งการทุกอย่างในบ้านได้ด้วยเสียง เปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นหุ่นยนต์ที่สามารถรับฟังคำสั่งของเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนที่ Google Home จะเกิดขึ้นตามมาติดๆ ลองจินตนาการว่าเรากำลังนอนดูหนังอยู่บนโซฟานุ่มๆ ในห้องนั่งเล่น แล้วอยากจะเปลี่ยนอารมณ์ไปฟังเพลงเพราะๆ เดี๋ยวนั้น ฟังๆ ไปก็เคลิ้มอยากจะปิดไฟหลับสักงีบ แต่ประเด็นคือไม่อยากจะลุกออกจากโซฟานุ่มๆ ตัวนั้นเลย ซึ่งทุกอย่างทั้งหมดที่ว่ามาสามารถทำได้เพียงแค่ออกเสียงสั่งเท่านั้น
จากรายงานมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2020 เทรนด์ของ smart home จะเติบโตจนเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตในบ้านของคนรุ่นใหม่ ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว นอกจากนั้นอุปกรณ์เครื่องใช้พื้นฐานในบ้านอย่างเครื่องปรับอากาศ เตาทำอาหาร หรือแม้กระทั่งตู้เย็นก็กำลังพัฒนาเพื่อให้สั่งการด้วยสมาร์ทโฟน ให้สามารถเชื่อมต่อสั่งงานกับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน ทั้งหมดนี้เพื่อตอบสนองความต้องการและรูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่เน้นเรื่องความสะดวกสบายและประหยัดเวลา ใช้ชีวิตได้ง่ายขนาดนี้ จะมีเหตุผลอะไรที่ต้องออกไปจากบ้านอีกล่ะ
บ้านที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติ
ชีวิตในเมืองของผู้คนในปัจจุบันทำให้ห่างไกลจากธรรมชาติเข้าทุกที บวกกับเทรนด์ eco-friendly ที่กำลังมา ให้เราสามารถใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ พึ่งพาซึ่งกันและกัน จึงเป็นความใส่ใจของเหล่าดีไซเนอร์ที่พยายามนำธรรมชาติที่อยู่นอกบ้านเข้ามาอยู่ในบ้านให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้ประโยชน์ร่วมกัน หรือที่เรียกว่า external to internal อย่างนวัตกรรมที่ช่วยถ่ายเทอากาศให้ไหลเวียนในบ้านได้ดี หลังคาบ้านและผนังที่ออกแบบเป็นพิเศษ หรือการเลือกใช้สีทาบ้านเพื่อช่วยสะท้อนความร้อน เหล่านี้ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นสบายโดยไม่ต้องเปิดแอร์ เช่นเดียวกับการเปิดพื้นที่ให้แสงสว่างจากภายนอกส่องเข้ามาในตัวบ้านได้มากขึ้น ลดการใช้แสงนีออนอันแข็งกระด้าง เพิ่มบรรยากาศดีๆ จากแสงแดดธรรมชาติที่ส่องเข้ามา ด้านความสวยงาม color of the year ของ Pantone อย่างสี Greenery ก็มักถูกนำมาใช้เป็นโทนสีหลักให้ดูสบายตา
หรือจะเป็นการใช้ texture ของไม้มาผสานกับการออกแบบส่วนต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์ พื้นผิววัสดุต่างๆ อย่างผนังและกระเบื้องปูพื้น โดยส่วนใหญ่ดีไซเนอร์จะหลีกเลี่ยงการใช้ไม้จริงที่มีราคาแพง แถมยังเป็นการทำลายธรรมชาติอีกด้วย แต่มีการเลือกใช้วัสดุที่ออกแบบให้ใกล้เคียงกับเนื้อไม้จริงๆ ให้ความรู้สึกหวนกลับคืนสู่ธรรมชาติได้ไม่ต่างกัน อยู่กับบ้านก็สัมผัสธรรมชาติขนาดนี้ ไม่ต้องเสียเวลาออกต่างจังหวัดไปไหนไกลเลย
ไลฟ์สไตล์ที่ใช่อยู่ใกล้บ้าน
ทำเลที่ตั้งคือปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งของคนที่กำลังจะซื้อบ้านหรือคอนโดต้องนำมาพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ ว่าที่ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งที่พวกเขาใช้ชีวิตได้มากน้อยแค่ไหน การสร้างโครงการบ้านใหม่ๆ ดีไซเนอร์จึงใส่ใจกับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคนี้มากขึ้น อย่างพ่อแม่ที่กำลังมีน้องวัยกำลังโตคงอยากได้สนามเด็กเล่นใกล้บ้านที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการได้ทั้งเล่นและเรียนรู้ไปพร้อมๆกันและที่สำคัญคือต้องปลอดภัย ยิ่งได้หมอผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กมาเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบด้วยก็ยิ่งอุ่นใจสำหรับพ่อแม่ หรืออย่างสายรักสุขภาพ การที่ต้องเดินทางไปฟิตเนสก็ถือได้ว่าเป็นอุปสรรคหนึ่งที่ทำให้หลายคนถอดใจกับการออกกำลังกาย การมีฟิตเนสมาตรฐานอยู่ภายในส่วนกลาง ชนิดที่เดินไปถึงก็คงดี แต่จะดียิ่งกว่าด้วยฟิตเนสที่ออกแบบให้เปิดรับธรรมชาติได้ 360 อาศา ได้ออกกำลังกายและบริหารสายตา เพิ่มความสดชื่นไปพร้อมๆ กัน หรือใครที่ชอบว่ายน้ำ การเพิ่มความพิเศษให้สระว่ายน้ำแบบเดิมๆ ด้วยเสียงเพลงขณะว่ายน้ำ ก็ช่วยให้การว่ายน้ำเพลิดเพลินมากกว่าที่เคย ลืมสระว่ายน้ำบริการที่เก็บค่าลงสระแสนวุ่นวายไปได้เลย
ทั้งหมดนี้จึงเป็นเทรนด์ดีไซน์บ้านยุคใหม่ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจของดีไซเนอร์ที่ออกแบบจากการใช้ชีวิต เพื่อให้ทุกพื้นที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หลากหลาย ให้ได้ใช้ชีวิตแต่กับสิ่งดีๆ
อ้างอิง
https://www.greatsouthernhomes.com/news/top-5-home-design-trends-2017