คงไม่มียุคไหนในประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติ ที่จะมีเรื่องให้ถูกเปรียบเทียบก่อนและหลัง (before and after) ได้มากมายเท่ากับยุคนี้อีกแล้ว เพราะการเกิดขึ้นของโลกดิจิตอลได้แบ่งภาพการใช้ชีวิตของผู้คนแบบก่อนและหลังได้คนละเรื่องคนละราวเสียเหลือเกิน จนมีปรากฏการณ์ที่ถูกนำมาเปรียบอยู่เต็มไปหมด
อย่างที่เห็นกันบ่อยๆ ก็เช่น การเสพข่าวสารที่แต่ก่อนคนใช้วิธีดูทีวี อ่านหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร แต่ตอนนี้คนเปิดอ่านดูข้อมูลจากสมาร์ทโฟน หรือเรื่องของช้อปปิ้ง แต่ก่อนต้องไปซื้อของกันถึงที่ แต่เดี๋ยวนี้สั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้แล้วแทบทั้งนั้น ยังไม่นับเรื่องประกาศหาคู่ ที่แต่ก่อนต้องใช้วิธีเขียนจดหมายไปลงคอลัมน์ในนิตยสาร แต่ตอนนี้ใช้ Tinder ก็เป็นอันจบ
ทว่าก็มีพฤติกรรมหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ใช่น้อย แต่ไม่ค่อยพูดถึงกันมากนัก ก็คือ วิธีหาซื้อบ้าน อย่างตอนนี้ถ้าอยากหาซื้อบ้านสักหลัง คนส่วนใหญ่จะใช้วิธีเข้าไปดูเว็บไซต์ซื้อขายบ้าน ยกตัวอย่างเช่น DDproperty ที่ หาดูข้อมูลเกี่ยวกับบ้านได้แทบทุกอย่าง ผิดกับยุคก่อนที่ยังไม่มีเทคโนโลยีแบบนี้ ทำให้วิธีหาซื้อบ้านของคนยุคนั้นสมบุกสมบัน และมีหลายอย่างที่ทำไม่ได้เหมือนปัจจุบัน
ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น The MATTER ได้รวบรวมเป็น 4 ข้อเด่นๆ ไว้ดังนี้
ยุคก่อนคือยุคเสิร์ชหาบ้านที่แท้ทรู
ย้อนกลับไปเมื่อ 20-30 ปีก่อน หรือก่อนที่จะมีโบรกเกอร์(นายหน้า) ซื้อขายบ้านเป็นกิจลักษณะ ในยุคนั้นวิธีที่คนส่วนใหญ่หาซื้อบ้าน มี 2 วิธีที่ทำกัน คือ 1. เปิดหนังสือพิมพ์ดูโฆษณาโครงการบ้านจัดสรรหรือดูประกาศขายบ้านมือสอง กับ 2. ขับรถตระเวนดูว่ามีบ้านไหนติดประกาศขายบ้านบ้าง
การ “เสิร์ช” หาบ้านในยุคก่อน มันเลยเป็นการลุยหาจริงๆ แตกต่างจากยุคนี้ที่การ “เสิร์ช” เป็นการเปิดดูบนอินเทอร์เน็ต อย่างสมมติ ถ้าคุณสนใจบ้านย่านบางนา ถ้าทำแบบคนสมัยก่อนก็ต้องขับรถไล่ดูตามหมู่บ้านในย่านนั้นว่ามีบ้านไหนติดประกาศขายบ้าง ซึ่งถ้าเกิดคุณมีเงื่อนไขหรืองบประมาณในใจด้วย เช่น อยากได้ทาวน์เฮ้าส์ งบไม่เกิน 2 ล้าน คุณก็ต้องไล่หาละเอียดลงไปอีกว่า มีบ้านทาวน์เฮ้าส์ไหนที่ดูทรงแล้วราคาไม่เกินงบและมีติดประกาศขาย
ขณะที่ปัจจุบัน ถ้าดูจากเว็บไซต์ เช่น DDproperty ก็แทบไม่ต้องขับรถไปไล่ดูเอง แต่สามารถไล่ดูบนเว็บไซต์ โดยกำหนดการเสิร์ชแบบดูเป็นย่านๆ หรือกำหนดดูตามประเภทบ้านหรือตามราคาที่สนใจได้เลย ฉะนั้นวิธีหาซื้อบ้านยุคนี้จึงแสนสะดวกกว่ายุคก่อน เพราะไม่ต้องลงทุนลงแรงมาก
ยุคใหม่ที่สรรพสิ่งรวมอยู่ในที่เดียวกัน

ตัวอย่างหน้าเว็บไซต์ DDproperty ที่รวมรวมข้อมูลเกี่ยวกับอสังหาฯ ไว้ในที่เดียว
ในยุคนี้ข้อดีมากๆ ข้อหนึ่งคือ ทุกอย่างรวมอยู่ในที่เดียวกันหมด เพราะใครๆ ก็มาลงประกาศขายบ้านกันในเว็บ แถมข้อมูลที่โพสต์ก็ถูกเก็บเป็นฐานข้อมูล ใครอยากหาเมื่อไรก็ค้นเจอ ซึ่งถ้าเป็นแต่ก่อน ต้องอาศัยไล่เปิดดูหนังสือพิมพ์ฉบับก่อนๆ ว่าเคยมีใครประกาศอะไรแล้วบ้าง อันนี้ก็แอบวัดดวงด้วยว่าจะเปิดเจออะไร
นอกจากนี้ พวกข่าวสารข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เช่น ข้อมูลแต่ละย่านหรือแต่ละโครงการ หรือข้อมูลขั้นตอนธุรกรรมซื้อขายบ้าน หรือการหาโบรกเกอร์มาช่วย ถ้าเป็นแต่ก่อนข้อมูลพวกนี้ก็ต้องไปหาทางนู้นทีทางนั้นที แต่สมัยนี้เว็บไซต์ซื้อขายบ้านรวมรวบทุกอย่างไว้หมดแล้ว เรียกว่าเข้าเว็บเดียวคือจบ
ตัวเลือกน้อย vs ตัวเลือกมาก
แน่นอนว่า การที่ทุกอย่างมารวมกันอยู่ในเว็บไซต์ ทำให้คนมีช้อยส์เพิ่มมากขึ้น อย่างยุคก่อน ช้อยส์ที่ได้ขึ้นอยู่กับว่า เราเจอประกาศบ้านที่ตรงกับที่เล็งๆ ไว้ไหม หรือขับรถไปดูแล้วเจอบ้านที่ตรงใจและตรงงบประมาณสักกี่หลัง หรือถ้าพึ่งโบรกเกอร์ ก็ต้องลุ้นว่าโบรกเกอร์มีข้อมูลบ้านในมือที่ตรงกับความต้องการของเรามากน้อยเท่าไร
ขณะที่ยุคนี้ ข้อมูลทุกอย่างแทบจะแบให้เห็นกันหมด คนเลยมีมีช้อยส์เยอะขึ้น เมื่อช้อยส์เยอะขึ้นก็ทำให้คนมีโอกาสเลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้ดีขึ้นและประหยัดมากด้วย
ยุคนี้คือยุคทองของรีวิว
ยุคนี้คือยุครีวิวทุกสิ่งที่แท้จริง ถุงเก็บน้ำนมแม่ ห้องน้ำห้าง กาวดักหนู ผ่าฟันคุด ก็ล้วนไม่พลาดถูกรีวิวไว้หมดแล้ว ฉะนั้น ข้อแตกต่างหนึ่งที่ยุคดิจิตอลให้นั้น ก็คือ เรื่องของรีวิว อย่างวิธีหาซื้อบ้านก็เช่นกัน กล่าวคือไม่ใช่แค่ช้อยส์บ้านที่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ หรือรีวิวต่างๆ ก็มีให้อ่านมเยอะแยะและเข้าถึงได้ง่าย
อย่างถ้าเป็นยุคก่อน ถ้าอยากรู้ข้อมูลก็ต้องเข้าไปดูบ้านด้วยตา หรือสอบถามคนแถวนั้นหรือตัวเจ้าของบ้าน ขณะที่ยุคนี้ สามารถหาอ่านรีวิวได้จากหลายๆ ที่ ซึ่งก็พอช่วยให้นึกภาพออก หรือพอตัดสินใจจะเลือกหรือตัดช้อยส์ได้ดีขึ้น ซึ่งนี่เป็นอีกข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างยุคนั้นกับยุคนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปจะทำให้วิธีหาซื้อบ้านดูคนละเรื่องคนละราวกับแต่ก่อนมาก แต่ถึงอย่างนั้น สำหรับบางเรื่องแล้ว คนก็ยังคิดคล้ายๆ เดิม เช่น “ทำเลที่ตั้ง” ไม่ว่าจะยุคไหน คนก็ยังให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ อย่างล่าสุด ผลสำรวจของ DDProperty เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย ที่ถามความคิดเห็นของผู้บริโภคต่อสภาพตลาดอสังหาฯ ในเขตกรุงเทพฯ ในช่วงครึ่งปีแรกปี 2560 พบว่า 94% ยังตอบว่า “ทำเล” เป็นปัจจัยต้นๆ ที่ตัดสินใจซื้ออสังหาฯ
นอกจากนี้ เรื่องซื้อบ้านกับเศรษฐกิจการเงิน ก็ยังสำคัญเหมือนเดิม ยิ่งปัจจุบันเศรษฐกิจที่ค่อนข้างฝืดตัวส่งผลให้คนคิดหนักเรื่องการซื้อบ้านมากขึ้น อย่างในงานสำรวจเดียวกันนี้ ก็พบว่า คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าเศรษฐกิจประเทศยังไม่ฟื้นตัวดีและกังวลกับราคาอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ที่แพงเกินไป
ดังนั้น ถ้าให้สรุป ต่อให้พฤติกรรมหรือวิธีหาซื้อบ้านของคนจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ถึงอย่างนั้นปัจจัยเรื่องเงินๆ ทองๆ และทำเลที่ตั้ง กาลเวลาก็ไม่ได้เปลี่ยนเรื่องนี้ไปเลย ดูโครงการใหม่ได้ที่ http://www.ddproperty.com/