อาการปวดท้องของคุณที่เดี๋ยวเป็นๆ หายๆ อาจจะคิดโทษอาหารมื้อที่แล้วที่ทำให้ท้องเสีย แต่หากมีอาการอุจจาระร่วงเป็นน้ำ รู้สึกอ่อนเพลีย มีไข้ อาการเช่นนี้ค่อยเป็นค่อยไปเป็นระยะสัปดาห์หรือเป็นเดือน ตัวซีดและเจ็บที่ท้องทุกครั้งที่กดเบาๆ
ร่างกายของคุณกำลังมีความผิดปกติบางอย่าง และกลไกอันมหัศจรรย์ของร่างกายกำลังพยายามสื่อสาร หากคุณไม่รับฟังเอาเสียเลย ร่างกายอาจก่อจลาจลสร้างความปั่นป่วน ถึงเวลาที่ต้องสำรวจกันแล้วว่า อาการปวดท้องเรื้อรังของคุณเป็นกลุ่มอาการ IBD โรคลำไส้อักเสบเรื้อรังที่กำลังเริ่มฮิตติดปากในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศแล้วหรือยัง
โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง IBD หรือ Inflammatory Bowel Disease กำลังเป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากขึ้น
จากในอดีตที่คนไทยเป็นกันค่อนข้างน้อย ปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณคุกคามประชากรในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบมากขึ้นในกลุ่มคนที่มีอายุ 15-40 ปีทุกเพศวัย ซึ่งมีอาการที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ซึ่ง โรค IBD จำแนกได้เป็น 2 โรค คือ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง (ulcerative colitis, UC) และโรคโครห์น (crohn’s disease, CD)
- โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง จะเกิดการอักเสบบริเวณลำไส้ใหญ่เป็นหลัก แผลมักลุกลามเฉพาะชั้นเยื่อบุผิวของผนังลำไส้ใหญ่ พบได้ประมาณ 0.5 – 24.5 ราย ต่อประชากร 1 แสนคน สามารถพบในเพศชาย และเพศหญิงพอๆ กัน
- โรคโครห์น เป็นโรคที่พบการอักเสบได้ในทุกส่วนของระบบทางเดินอาหาร ตั้งแต่ช่องปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ และทวาร อย่างไรก็ตามมักพบที่ส่วนปลายของลำไส้เล็ก และส่วนต้นของลำไส้ใหญ่ พบได้ประมาณ 0.1 – 16 ราย ต่อประชากร 1 แสนคน พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายเล็กน้อย
น่าสนใจที่โรค IBD นี้ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด อาจจะมีปัจจัยทางพันธุกรรมมาเกี่ยวข้อง (ชาวตะวันตกเป็นมากกว่าคนเอเชีย) ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ เมื่อติดเชื้อแล้วการตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่มากเกิน จนทำลายเนื้อเยื่อของทางเดินอาหาร ติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียในลำไส้
ที่ผ่านมาเมืองไทยมีผู้ป่วยกลุ่มอาการลำไส้อักเสบเรื้อรัง IBD ค่อนข้างน้อย ทำให้อาการหรือสาเหตุตกสำรวจไปบ้าง หรือแพทย์อาจวินิจฉัยเป็น ลำไส้ติดเชื้อ ทำให้การรักษาที่ไม่ตรงกลุ่มอาการ ทั้งที่โรคนี้หากเป็นมาก หรือมีการอักเสบเรื้อรัง ก็มีโอกาสเป็นมะเร็ง และเสียชีวิตได้
ต่างกันอย่างไร ระหว่าง “โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง“และ “โรคโครห์น” ?
ลักษณะของอาการทั้ง 2 โรคมีความคาบเกี่ยวกันพอสมควร เช่น คุณอาจถ่ายอุจจาระผิดปกติ อุจจาระเป็นมูก ปวดท้องบ่อยๆ หรือมีเลือดปน รู้สึกเหนื่อยง่าย ไม่ค่อยอยากอาหาร แต่ทั้ง 2 โรคจะมีลักษณะของตำแหน่งอักเสบที่แตกต่างกัน กล่าวคือ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังมีการอักเสบเฉพาะลำไส้ใหญ่ ส่วนโรคโครห์นเกิดได้ตลอดทางเดินอาหาร และมักมีภาวะแทรกซ้อน เช่น มีลำไส้ตีบ ลำไส้อุดตัน หรือลำไส้ทะลุ ซึ่งการอักเสบในผู้ป่วยแต่ละคนอาจไม่ได้แสดงให้เห็นชัดเจน แพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินอาหารเท่านั้นที่จะทราบ จึงจำเป็นมากที่แพทย์จะจำแนกโรคให้เหมาะกับการดูแลรักษา
อย่างไรก็ตามการสำรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองยังมีความสำคัญ หากมีอาการถ่ายเหลวเกิน 4 ครั้งต่อวัน มีมูกปนเลือด ปวดท้องเล็กน้อย ปวดเบ่งที่ทวารหนัก มีอาการปวดท้องปานกลาง ตัวซีด น้ำหนักลดมากกว่าร้อยละ 10 อ่อนเพลียง่าย หายใจเร็วกว่าปกติเป็นระยะเวลาเกิน 1 เดือน ก็ควรพบแพทย์แต่เนิ่นๆ เพราะ อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณของ โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง IBD ที่ไม่ควรมองข้าม
เมื่อพบแพทย์จะมีการซักประวัติของผู้ป่วย ตรวจช่องท้องเบื้องต้น มีการตรวจเลือด เก็บตัวอย่างอุจจาระซึ่งกระบวนการต่อไป คือการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่เพื่อดูชิ้นเนื้อ (colonoscopy) ที่จะทำให้วินิจฉัยโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังได้แม่นยำขึ้น แต่ไม่ต้องวิตกกังวล เพราะการส่องกล้องจะใช้เวลาเพียงนิดเดียว ประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงก็เสร็จ หลังจากตรวจเรียบร้อยผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้เลย ไม่เจ็บและไม่น่ากลัวอย่างที่คิด รอให้โรงพยาบาลติดต่อว่าผลเป็นเช่นไร
เอาตัวคุณเองให้ห่างปัจจัยเสี่ยง
แม้โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง IBD อาจเป็นโรคที่ส่งต่อทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ (ซึ่งคุณหลีกเลี่ยงไม่ได้) แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น การติดเชื้อ อาหาร สุขภาพจิต หรือรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลีกเลี่ยงได้ เช่น มีตัวอย่างจากงานวิจัยว่า การรับประทานอาหารที่มีไขมันชนิดทรานส์ (Trans Fat) ซึ่งพบได้ในอาหารที่ผ่านการแปรรูป เช่น มาการีน จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรค ในขณะที่การรับประทานอาหารที่มีไขมันชนิด โอเมก้าทรี (omega-3 fatty acid) เช่น ปลาทะเล จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรค
ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่กระตุ้นทำให้อาการของโรคกำเริบที่แตกต่างเฉพาะบุคคล อย่าง อาหารประเภทนม และผลิตภัณฑ์จากนม อาหารที่มีใยอาหารสูง อาหารรสจัด อาหารไขมันสูง อาหารแปรรูป อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน การหลีกเลี่ยง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ความเครียด วิตกกังวล นอกจากลดความเสี่ยงจาก โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง IBD ยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคอื่นๆ อีกด้วย แถมทำให้คุณสุขภาพดี (เลี่ยงเถอะ ดีต่อภาพร่วมของร่างกายเลย)
หัวใจสำคัญ คือการที่คุณตอบสนองต่อสัญญาณของร่างกายที่บ่งบอกถึงความผิดปกติ
ไม่ต้องเขินอายที่ต้องให้แพทย์ส่องก้นคุณ (แน่นอน มันไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยสักนิด) แพทย์ไทยมีความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง IBD มากขึ้นกว่าในครั้งอดีต และมีวิธีการมากมายให้คุณสบายใจ อย่าพยายามปลอบใจตัวเอง และคนรอบข้างว่า “ปวดท้องนิดเดียว เดี๋ยวหาย” จนเป็นนิสัย พอเมื่อมันไม่หายนี้สิจะยุ่ง
คุณยังสามารถเช็กอาการตัวเองเบื้องต้นผ่านแบบทดสอบที่เข้าใจง่าย และอ่านข้อมูลโรค IBD เพิ่มเติมที่ www.IBDThai.com
ร่างกายของคุณยังเป็นพื้นที่มหัศจรรย์ที่พยายามจะสื่อสารอยู่ตลอดเวลา รับรู้การเปลี่ยนของวัฏจักรร่างกาย และปรนนิบัติให้เหมาะสมอย่างที่ร่างกายเคยปรนนิบัติต่อคุณมาหลายปี สุขภาพที่ดีมาจากการที่คุณแคร์ตัวคุณเอง
รู้เร็ว รักษาเร็ว รักษาต่อเนื่อง
ตรวจสอบอาการเบื้องต้น และหาข้อมูลได้ที่ http://www.ibdthai.com/evaluation-form/