ย้อนเวลากลับไปเมื่อสี่ห้าปีที่แล้ว ถ้าเราถูกถามว่าทำงานอะไร แล้วตอบไปว่า ‘ฟรีแลนซ์’ คำถามที่ตามมาคือ จะไหวหรอ? มั่นคงหรอ? แล้วโอกาสเติบโตในหน้าที่การงานเป็นแบบไหน? หลายคำถามที่ต้องรับมือกับคำตอบ แต่พอมาถึงยุคนี้แล้ว คำตอบที่บอกว่าเป็น ‘ฟรีแลนซ์’ ดูจะตอบกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ และนี่คือโลกใบใหม่ของตลาดแรงงานที่มีชื่อว่า ‘Gig Economy’
เหตุผลที่ทำให้ตลาดแรงงานเด็กจบใหม่ Gen Z กว่า 70% หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ในหลายเจนอยากทำงานอิสระมากขึ้น ไม่ผูกติดกับออฟฟิศอีกต่อไป นั่นเป็นเพราะสามารถเลือกรับงานที่เหมาะสมกับตัวเองได้มากกว่า มีอิสระในการเลือกรับงานทั้งรูปแบบ การจัดการเวลา ยืดหยุ่นต่อการใช้ชีวิตยุคปัจจุบัน และที่สำคัญคือ สามารถรับได้ทีละหลายจ๊อบ ซึ่งเป็นช่องทางหารายได้ที่มากกว่าการทำงานประจำแบบรูทีนอยู่ที่เดียว
แต่ถึงความเข้าใจในการทำงานในแบบฟรีแลนซ์จะเพิ่มมากขึ้นแล้ว แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่คนทำงานอิสระยังคงต้องรับความเสี่ยงที่มองไม่เห็นในอนาคตข้างหน้า ทั้งเรื่องสุขภาพ อนาคตทางการเงิน หรือแม้แต่ความแน่นอนของรายได้ ปัญหาที่ต้องแบกรับมากมายเช่นนี้จะมีคำตอบให้ชาวฟรีแลนซ์ไหม
เข้าใจโลกใบใหม่ของ Gig Economy ตลาดแรงงานเสรี
การนิยามระบบเศรษฐกิจแบบตลาดแรงงานเสรีที่กำลังเกิดขึ้นในโลก เช่น ปัจจุบันนี้ มีชื่อเรียกว่า Gig Economy นั่นคือ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือ Gig Worker จะรับจ้างทำงานแบบจบเป็นงานไปจากผู้จ้างงาน
เหตุผลที่ระบบเศรษฐกิจเช่นนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว นั่นก็เพราะทั้งจากฝั่งผู้ประกอบการเอง ที่ด้วยสภาพเศรษฐกิจตกต่ำในยุคปัจจุบัน การจะจ้างงานลูกจ้างแบบประจำมีเงื่อนไขที่ทำให้ต้องคิดมากขึ้น ทั้งเรื่องการจัดการสวัสดิการ การรักษาสภาพคล่องของบริษัททั้งรายรับและรายจ่าย ทำให้การจ้างงานที่จบเป็นงานๆ ไป หรือการจ้างงานแบบสัญญาระยะสั้น โดยไม่ต้องมองปัจจัยเรื่องอื่นเป็นหนึ่งในวิธีการทำงานที่ฝั่งผู้ประกอบการเลือกเพื่อรักษาเสถียรภาพของบริษัท
ส่วนทางฝั่งลูกจ้างเอง ลักษณะและความพึงพอใจในเนื้องาน รวมทั้งความยืดหยุ่นในเวลาทำงาน เพื่อรักษา Work-Life Balance ในแบบของตัวเองก็เป็นปัจจัยส่วนบุคคล ส่วนปัจจัยภายนอก มีทั้งเรื่องสภาวะการทำงานในปัจจุบันที่ต้องการความรวดเร็วและยืดหยุ่น
ไปจนถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้การทำงานอิสระมีประสิทธิภาพไม่ต่างจากการเป็นพนักงานประจำ ก็ทำให้หลายคนเลือกที่จะเป็นฟรีแลนซ์มากกว่าการมองหางานประจำทำแบบค่านิยมในยุคก่อน
ยืนยันด้วยตัวเลขทางสถิติโดยสำนักเศรษฐกิจภูมิภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า เด็กจบใหม่เข้าสู่การประกอบอาชีพอิสระ โดยเฉพาะภาคการค้าและบริการ มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากในปี 2562 อยู่ที่ 46,000 คน เพิ่มขึ้นเป็น 56,000 คนในปี 2564 ยังไม่นับคนในวัยอื่นๆ ที่เปลี่ยนอาชีพมาสู่การทำงานแบบอิสระ เทรนด์ตลาดแรงงานของไทยก็ก้าวสู่ความเป็น Gig Economy ไม่ต่างจากตลาดแรงงานโลก
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทำงานประจำหรือฟรีแลนซ์ ไม่มีอะไรผิดหรือถูก แต่ขึ้นอยู่กับการชั่งน้ำหนักความต้องการส่วนบุคคล หลายคนอาจมีภาระที่จำเป็นต้องใช้เงินที่เข้าแบบสม่ำเสมอ หลายคนมีคนทางบ้านต้องดูแลทำให้ต้องการเวลามากกว่า แต่ตราบใดที่เลือกเส้นทางของการทำงานแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อาชีพจะมีความมั่นคงและการลดความเสี่ยงในอนาคตได้อย่างไร?
โลกกำลังเปลี่ยนไป แล้วทำไมอนาคตของเรายังต้องเสี่ยง?
แม้เทรนด์เศรษฐกิจโลกจะก้าวเข้าสู่ Gig Economy แล้ว แต่ชาวฟรีแลนซ์ก็ยังต้องห่วงหน้าพะวงหลังกับอีกหลายเรื่อง เพราะกลายเป็นว่าชาวฟรีแลนซ์เองที่กลายเป็นมนุษย์ All-In-One รับจบทุกอย่างด้วยตัวเอง แม้จะเป็นฟันเฟืองหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนตลาดแรงงานในปัจจุบันเช่นกัน แต่ก็ยังคงต้องแบกรับหน้าที่ความรับผิดชอบมากมายทั้งเรื่องหน้าบ้านและการจัดการหลังบ้าน แล้วทำไมอนาคตของคนทำงานอิสระยังต้องเสี่ยง?
คำถามมากมายเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ในการเปิดตัวแคมเปญใหม่เมื่อปีที่แล้ว (2566) จากทรรศนะที่ว่า โลกกำลังเผชิญหน้ากับความเสี่ยงใหม่ๆ ที่ใกล้ตัวเราและคาดเดาได้ยาก สิ่งนี้ทำให้อนาคตกลายเป็นเรื่องไม่แน่นอนสำหรับอีกต่อไป จะดีกว่าไหมถ้าจะลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ ด้วยการเน้นความสำคัญของการปกป้องให้ ‘ทุกคน’ ปลอดภัยและเท่าเทียมที่สุด จุดเริ่มต้นแคมเปญในครั้งแรกเน้นไปที่ความเสี่ยงที่ผู้หญิงต้องเผชิญ ต่อยอดมาเป็นแคมเปญในปีนี้ ด้วยการให้ความสำคัญกับชาวฟรีแลนซ์
แคมเปญ ‘อาชีพอิสระไม่ควรต้องเสี่ยง’ เกิดขึ้นเพื่อชวนผู้คนมาให้ความสนใจกับกลุ่มคนทำงานอิสระและอนาคตข้างหน้า ทั้งในเรื่องผลประโยชน์และความคุ้มครองที่ถูกต้องเหมาะสม ผ่านทางแคมเปญโฆษณาที่กำกับโดย Hoffman & Metoyer ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้สนุกเบาสมองแต่อบอวลด้วยความเข้าอกเข้าใจคนทำอาชีพอิสระ อย่างการบอกเล่าอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน หากแต่เปลี่ยนจากมุมที่เคยมองว่าเป็นเรื่องต้องวิตกกังวล เป็นการมองให้เป็นเหตุการณ์ธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน
ทางด้านโปรดักชัน เพลงประกอบเป็นเพลงรีเมค ‘I got you, Babe’ โดย El Perro Del Mar นักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงชาวสวีเดน ร่วมกับภาพถ่ายประจำแคมเปญจากฝีมือของ Brian Doben ช่างภาพชื่อดังชาวอเมริกัน มาเป็นผู้ถ่ายทอดกิจวัตรของคนทำงานอิสระอย่างเป็นศิลปะและเข้าถึงความรู้สึก โดยแคมเปญนี้เริ่มต้นแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 และจะยาวไปจนถึงปี 2568 ใน 14 ประเทศทั่วโลก ทั้งยุโรป อเมริกาใต้ และเอเชีย
สำหรับในประเทศไทยเอง ก็เข้าร่วมแคมเปญครั้งนี้ด้วยเพื่อฟรีแลนซ์ชาวไทย โดยจัดเป็นกิจกรรมพิเศษในรูปแบบของบูธตรวจสุขภาพฟรีให้กับกลุ่มคนประกอบอาชีพอิสระตลอดเดือนสิงหาคม ออกเดินทางไปใน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ที่ตลาดกรุงธนบุรี วันที่ 8 สิงหาคม 2567, สงขลา ที่ถนนคนเดินสงขลาแต่แรก วันที่ 10 สิงหาคม 2567, เชียงใหม่ ที่กาดมีโชค วันที่ 13 สิงหาคม 2567 และ ขอนแก่น ที่ตลาดต้นตาล วันที่ 15 สิงหาคม 2567
“กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เข้าใจดีว่าคนทำงานอิสระต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัวของคุณ ด้วยแผนประกันที่ ครอบคลุม ทั้งการดูแลสุขภาพ การคุ้มครองชีวิต และการวางแผนเกษียณอายุ ไม่ว่าจะเป็น ชดเชยคุ้มเวอร์, โรคร้ายคุ้มเว่อร์ , ครอบคลุมคุ้มเว่อร์, เกษียณคุ้มเว่อร์ ซึ่งเป็นแพคเกจผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อให้คุณสามารถดูแลทั้งตัวเองและคนที่คุณรักได้อย่างสบายใจ ไม่ว่าอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เรายังคงอยู่เคียงข้างคุณเสมอ
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่1159 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ktaxa.live/Publishers_TheMATTER_GBC
คลิกชมภาพยนตร์โฆษณาได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=0YtZqeDWwQQ