เชื่อว่าทุกคนย่อมรู้จักตัวการ์ตูนสุนัขสีขาว Snoopy กันเป็นอย่างดี แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ เจ้าสุนัขพันธุ์บีเกิ้ลตัวนี้ มีประวัติศาสตร์การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ในอวกาศไม่แพ้ชื่อเสียงของตัวเอง ด้วยการเป็นแหล่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับนักบินอวกาศระดับ NASA มานาน
และเมื่อพูดถึงภารกิจสำรวจอวกาศขององค์การ NASA หลายคนย่อมนึกถึงโครงการ Apollo ที่พามนุษยชาติขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จกับ Apollo 11 รวมไปถึงอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ช่วงเวลา 14 วินาทีของ Apollo 13 ที่นาฬิกา OMEGA มีส่วนพลิกชะตากรรมนักบินอวกาศให้รอดพ้นจากโศกนาฏกรรมร้ายแรง
ว่าแต่… Snoopy ตัวการ์ตูนที่มีชื่อเสียงระดับโลก, NASA กับโครงการสำรวจอวกาศ และ OMEGA แบรนด์นาฬิการะดับโลก ทั้งสามชื่อนี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร
The MATTER จะพาไปสำรวจวงโคจรของความสัมพันธ์ เพื่อดูว่าทั้งสามได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ของการสำรวจอวกาศอย่างไร
บีเกิ้ลตะลุยบุกอวกาศ
Snoopy เริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็นการ์ตูนแก๊กสี่ช่องที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์รายวันช่วงปี 1950 โดยนักวาดการ์ตูนชื่อดัง ชาร์ลส์มอน โรชูลส์ (Charles M. Schulz) เขาค่อยๆ สะสมชื่อเสียงจากเรื่องราวความตลกน่ารัก และความผูกพันของตัวละครในเรื่องราว จนกลายเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นมาถึงปัจจุบัน
หนึ่งในตอนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือช่วงปี 1960 ที่ Snoopy สวมชุดอวกาศบนดวงจันทร์ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการ Apollo 10 พลังของการ์ตูนเรื่องนี้ทำให้ชาวอเมริกันเริ่มสนใจโครงการสำรวจดวงจันทร์กันมากขึ้น ด้วยคาแรคเตอร์ที่น่ารัก สอดรู้สอดเห็น และชอบผจญภัย ในที่สุด Snoopy ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของการสำรวจในเวลาต่อมา
Snoopy ตัวแทนแห่งความปลอดภัยบนจักรวาล
ความสัมพันธ์ระหว่าง Snoopy และ NASA แน่นแฟ้นมากขึ้นในปี 1968 เมื่อ NASA ริเริ่มโครงการ Watchdog และมองหา ‘ตัวแทน’ ที่จะสื่อสารถึงความปลอดภัยในภารกิจต่างๆ
และแน่นอน ด้วยหน้าตาน่ารักและความอุ่นใจที่ได้มอง ตัวแทนที่ได้รับก็คือ Snoopy นั่นเอง ซึ่งเจ้าสุนัขตัวนี้ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นสุนัขระวังภัย แต่ยังสื่อความหมายถึงความสำเร็จของภารกิจ หนำซ้ำความจิ้มลิ้มของมันยังช่วยผ่อนคลายบรรยากาศไม่ให้การทำงานตึงเครียดจนเกินไปอีกด้วย ซึ่งเจมส์ เลิฟเวลล์ (James Lovell) ผู้บัญชาการยาน Apollo 13 ให้สัมภาษณ์ถึง Snoopy ว่า “เป็นตัวการ์ตูนจากการ์ตูนช่องที่มักปรากฏในชุดนักบินอวกาศอยู่บ่อยครั้ง ผมคิดว่านักบินอวกาศเลือก Snoopy ก็เพราะมันไม่เคยทำพลาดเลย”
เจ้าบีเกิ้ลจึงเข้ามาทำงานครั้งแรกให้กับโครงการอวกาศสหรัฐฯ และสนับสนุน NASA ในภารกิจสำรวจอวกาศเชิงลึกมาถึงปัจจุบัน
ยานควบคุม Charlie Brown และยานสำรวจดวงจันทร์ Snoopy
ความสัมพันธ์ของ Snoopy และ NASA เหนียวแน่นมากขึ้นกว่าเดิมในโครงการ Apollo 10 กับภารกิจไปเยือนดวงจันทร์ในเดือนพฤษภาคมปี 1969 โดยทีมงานตั้งชื่อเล่นของยานควบคุมว่า Charlie Brown ตามชื่อตัวละครหลักของการ์ตูน และตั้งชื่อยานสำรวจที่จะเข้าใกล้ดวงจันทร์ว่า Snoopy
ถึงแม้การสำรวจครั้งนี้ ยาน Snoopy จะไม่ได้จอดเหยียบดวงจันทร์เต็มๆ แต่ก็ลดระดับเข้าใกล้ผิวดวงจันทร์มากที่สุด ณ ขณะนั้นที่ความสูง 50,000 ฟุต ก่อนจะเร่งเครื่องยนต์กลับขึ้นสู่อวกาศเพื่อเชื่อมต่อกับยานบังคับการ Charlie Brown
ทว่าภารกิจ Apollo 10 นี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการส่งมนุษย์ลงไปเหยียบดวงจันทร์ในภารกิจ Apollo 11 ต่อไป
ฮุสตันเรามีปัญหาแล้ว
“Houston, We’ve Had a Problem”
นับเป็นประโยคคลาสสิกของวงการอวกาศตลอดกาลกับภารกิจสำรวจดวงจันทร์ของ Apollo 13 หลังจากเดินทางได้เพียง 2 วัน ก็เกิดเหตุการณ์ถังออกซิเจนบนยานระเบิดและสร้างความเสียหายอย่างหนัก นักบินอวกาศทั้งหมดต้องย้ายไปรวมตัวอยู่ในยานสำรวจดวงจันทร์ Snoopy ซึ่งเป็นยานขนาดเล็ก
ยานดังกล่าวไม่มีทรัพยากรและพลังงานเพียงพอสำหรับรองรับนักบินอวกาศหลายคนพร้อมกัน ดังนั้นนักบินอวกาศจำเป็นต้องปิดระบบเกือบทั้งหมดรวมถึงนาฬิกาดิจิทัล เพื่อประหยัดพลังงานสำหรับการติดต่อสื่อสารและกลับสู่โลกเท่านั้น ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนับเป็นช่วงเวลาแห่งชีวิตที่พวกเขาต้องใช้ ‘เวลา’ ในการตัดสินใจอย่างเร่งด่วน
OMEGA กับประวัติศาสตร์ 14 วินาที
อุบัติเหตุดังกล่าวทำให้ NASA ต้องแข่งกับเวลา ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก OMEGA จึงถูกเรียกตัวเข้าไปพบ เนื่องจากยานกำลังเคลื่อนตัวออกจากวิถีปกติ และมุ่งหน้าเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกผิดไปจากเดิมทำให้อาจถูกเหวี่ยงกลับไปสู่อวกาศอันไกลโพ้น หนทางแก้มีเพียงวิถีเดียวคือการเปิดการทำงานของเครื่องยนต์เป็นเวลา 14 วินาทีเท่านั้น!
ในตอนนั้นเอง เจมส์เลิฟเวลล์ผู้บัญชาการของยานจึงใช้ OMEGA Speedmaster จับเวลาเผาไหม้ของเชื้อเพลิงและดับเครื่องยนต์อย่างแม่นยำที่ 14 วินาทีพอดิบพอดี ส่งผลให้ยานหันเหกลับเข้าสู่เส้นทางเดิม เปลี่ยนวิถีของยานได้สำเร็จและกลับสู่โลกอย่างปลอดภัย
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเห็นถึงความเที่ยงตรงของ OMEGA และความปลอดภัยของยาน Snoopy ทำให้เรื่องราวนี้กลายเป็นที่กล่าวขวัญตลอดมา กระทั่งวงการฮอลลีวู้ดยังสร้างภาพยนตร์ Apollo 13 ออกมาในปี 1995
Silver Snoopy Award รางวัลที่ยิ่งใหญ่แห่งจักรวาล
หลังจากการเหตุการณ์ดังกล่าว Snoopy ก็ยิ่งได้รับความนิยมในหมู่นักบินอวกาศมากขึ้น ในที่สุด NASA ก็ได้นำชื่อการ์ตูนดังกล่าวมาตั้งเป็นรางวัล Silver Snoopy Award มอบให้กับ OMEGA ผู้ผลิตนาฬิกาเพียงรายเดียวแทนคำขอบคุณที่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเหล่านักบินอวกาศ Apollo 13
โทมัส พี. สแตฟฟอร์ด (Thomas P. Stafford) ผู้บินให้กับ NASA ถึงสี่ภารกิจ และเป็นผู้มอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ กล่าวว่า “นาฬิกา Speedmaster มีส่วนชี้เป็นชี้ตาย เราเหลือเพียงแค่นาฬิกา OMEGA นี่เองที่พาเรากลับ ด้วยเหตุนี้แบรนด์จึงสมควรได้รับรางวัล Silver Snoopy Award ที่สุดแล้ว”
ตัวรางวัลประกอบเข็มกลัดสีเงินสเตอร์ลิ่ง 925 รูป Snoopy สวมชุดอวกาศพร้อมกับผ้าพันคอเสืออากาศ พร้อมประกาศนียบัตรสุดพิเศษ Manned Flight Awareness ที่มีการลงนามโดยนักบินอวกาศของยาน Apollo 13 ทุกนาย
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เรื่องราวของ OMEGA และ Snoopy จึงหลอมรวมเข้าด้วยกัน
50 ปีแห่งรางวัล กับนาฬิกาที่มีคุณค่าทั้งเรื่องราวและการออกแบบ
50 ปีผ่านมา OMEGA ได้ผลิตนาฬิการุ่นพิเศษออกมา OMEGA Speedmaster “Silver Snoopy Award” 50th Anniversary เพื่อเฉลิมฉลองการที่ Speedmaster มีส่วนอย่างมากในการกอบกู้ยาน Apollo 13 เหมือนที่นักบินอวกาศ โทมัส พี. สแตฟฟอร์ดกล่าวถึงนาฬิกาว่า “OMEGA เป็นส่วนสำคัญของเราในการบุกเบิกอวกาศ ถ้าเราอยู่บนอวกาศ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือเวลา Professional Speedmaster ทำงานได้อย่างเที่ยงตรงและไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลยสักครั้ง”
อย่างไรก็ตาม หากใครเป็นแฟนนาฬิกาก็จะทราบดีกว่า OMEGA Speedmaster มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Moonwatch เพราะนาฬิการุ่นนี้เคยเคียงข้างนักบินอวกาศไปเยือนอวกาศมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะภารกิจพิชิตดวงจันทร์ของยาน Apollo 11 ที่ บัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) สวมนาฬิการุ่นนี้เดินเล่นบนดวงจันทร์ นับเป็นนาฬิกา Moonwatch เรือนแรกอย่างแท้จริง
ปัจจุบัน OMEGA ยังคงไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมแม่นยำและเที่ยงตรงนำมาซึ่งรุ่นล่าสุดครั้งนี้
OMEGA Speedmaster “Silver Snoopy Award” 50th Anniversary
เมื่อเป็นรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งรางวัล Silver Snoopy Award ทั้งที การออกแบบครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยรายละเอียดสุดประณีต ไม่ว่าจะเป็นเจ้า Snoopy ที่สวมชุดอวกาศในลักษณะรูปนูนต่ำ บนหน้าปัดย่อยสีน้ำเงินที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับรางวัลเข็มกลัดสีเงินที่นักบินอวกาศ NASA มอบให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
แต่ที่เด็ดที่สุดคือฝาหลังเป็นภาพพื้นผิวดวงจันทร์ กระจกแซฟไฟร์ได้รับการตกแต่งให้เหมือนพื้นผิวของดวงจันทร์โดยกระบวนการพ่นพอกโลหะขนาดไมโครแบบไม่เหมือนใคร มีรูปโลกขนาดเล็กที่จะหมุนด้วยอัตราหนึ่งรอบต่อนาที (เท่ากับรอบของเข็มวินาทีย่อย) ทำหน้าที่เป็นตัวแทนการโคจรรอบตัวเองของโลกพร้อมประโยคอมตะ ‘Eyes on the Stars’ ประดับอยู่บนพื้นอวกาศสีดำ
ยังไม่หมดแค่นั้น! หากมีการใช้เข็มจับเวลา ยังมีกลไกลพิเศษที่ติดตั้งเข้าไปกับยานควบคุมที่ Snoopy นั่งอยู่ และเจ้า Snoopy ก็จะเดินทางรอบดวงจันทร์จากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง เหมือนกับภารกิจของลูกเรือในยาน Apollo 13 นั่นเอง
นาฬิกาเรือนพิเศษนี้ มาพร้อมกับกล่องบรรจุ Apollo 13 ดีไซน์สุดพิเศษ หากใครสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บูติก OMEGA
สาขาเซ็นทรัลเอ็มบาสซี โทร. 02-160-5959
สาขาสยามพารากอน โทร. 02-129-4878
สาขาดิเอ็มโพเรียม โทร. 02-664-9550
อ้างอิงข้อมูลจาก