“กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว” เป็นสำนวนเก่าแก่ที่สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของกรุงโรม-อิตาลี ที่ต้องใช้เวลาสร้างเมืองอย่างยาวนาน ผ่านความพิถีพิถันในทุกองค์ประกอบจนกลายเป็นศูนย์กลางอำนาจทางการเมือง และมีประวัติศาสตร์รุ่งเรืองมาถึงปัจจุบัน
ซึ่งไม่เพียงตำนานที่ทิ้งไว้ผ่านสถาปัตยกรรมหรือศิลปะจากยุคเรเนซองค์ อิตาลียังมีความคราฟต์แฝงตัวอยู่ในสิ่งของต่างๆ ที่คนทั่วโลกเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นหินอ่อน, คาปูชิโน่, ไวน์, เครื่องหนัง หรือแม้กระทั่งยางรถยนต์
ลืมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สนามกีฬาโคลอสเซียม น้ำพุเทรวี่ หรือหอเอนปิซ่าไปก่อน วันนี้เราจะพาไปเปิดต้นกำเนิดความคราฟต์สายอื่นๆ ที่ฝังอยู่ในดีเอ็นเออิตาลี และเครื่องการันตีว่าพวกเขานี่แหละเป็นชนชาติที่พิถีพิถันที่สุดแล้ว
หินอ่อน ความละเอียดอย่างมีระดับ
เวลาพูดถึงประเทศอิตาลี หลายคนมักนึกสถาปัตยกรรมอันงดงามหรือไม่ก็ผลงานศิลปะจำพวกประติมากรรมที่ประดับเรียงรายอยู่ทั่วทั้งเมือง และหากสังเกตจะพบว่า สิ่งก่อสร้างเหล่านี้มักสร้างมาจากวัสดุมีระดับอย่าง “หินอ่อน” นั่นเอง
จะว่าไปหินอ่อนเป็นวัสดุที่นิยมใช้ในงานก่อสร้างและตกแต่งเมืองอิตาลีมานานหลายศตวรรษ โดยได้รับความนิยมสูงสุดในยุคจักรวรรดิโรมันที่ทั้งเมืองถูกสั่งให้สร้างด้วยหินอ่อน เราจึงเห็นสถาปัตยกรรมหินอ่อนตั้งตระหง่านอย่างมีระดับ เวลาผ่านไปชาวอิตาลีจึงได้สั่งสมวิธีการตัด ขัด ถูก ผิวหน้าหินอ่อนมาเรื่อยๆ ก่อนพัฒนาองค์ความรู้ดังกล่าวจนกลายเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมหินอ่อนในปัจจุบัน
คาปูชิโน่ เครื่องดื่มแสนละเมียด
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบดื่มกาแฟคาปูชิโน่ตอนเช้าๆ คงจะพอรู้วิธีการชงที่แสนจะละเมียดต่างจากกาแฟแบบอื่น เพราะต้องผสมผสานระหว่างเอสเปรสโซ นมสตีม และฟองนมละเอียดในอัตราส่วน 1/3 ส่วนเท่าๆ กัน ทำให้การชงแต่ละครั้งไม่ต่างอะไรกับศิลปะงานคราฟต์ดีๆ สักแก้วหนึ่ง
ไม่เพียงเฉพาะรูปแบบการชงที่ดูพิถีพิถัน ทว่าวัฒนธรรมการดื่มคาปูชิโน่ในอิตาลียังมีเรื่องยิบย่อยอีกอย่าง คือพวกเขาไม่นิยมดื่มหลัง 11 โมง เพราะเขามีความเชื่อว่า การดื่มนม (คาปูชิโน่มีนมเป็นส่วนประกอบ) จะไปรบกวนระบบเผาผลาญของร่างกาย ฉะนั้นคนอิตาลีแท้ๆ จึงมักดื่มคาปูชิโน่เฉพาะช่วงเช้าอย่างเดียว
ไวน์ บ่มเพาะความพิถีพิถันสู่แก้วใสๆ
อิตาลีเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องไวน์ โดยการบ่มไวน์มีต้นกำเนิดยาวนานมากว่า 4,000 ปี เป็นความเก๋าที่สืบทอดมาจากชาวโรมัน โดยปัจจุบันอิตาลีมีไร่ไวน์แทบทุกภูมิภาคของประเทศ กินเนื้อที่กว่า 1 ล้านไร่ มีบริษัทผู้ผลิตไวน์กว่า 2,000 บริษัท ผลิตไวน์ราว 4,500-5,000 ล้านลิตรต่อปี และส่งออกไวน์เป็น 1 ใน 3 ของไวน์ที่ผลิตจากทั่วโลก ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะดำเนินกิจการมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ และสืบทอดสูตรลับการบ่มไวน์ที่มีรายละเอียดแตกต่างกัน ทำให้ไวน์อิตาลีหลากหลายรูปแบบทั้งรสชาติ ประเภท และคุณภาพ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเป็นวันๆ กว่าจะอธิบายให้เข้าใจทั้งหมด
เช่นเดียวกับวัฒนธรรมการดื่มแบบ Professional แท้ๆ คือ “See” ดูสีของไวน์, “Sniff” แกว่งเบาๆ เพื่อดูความหนืด และสุดท้ายก็ Sip จิบลิ้มลองรสชาติ การดื่มไวน์แต่ละแก้วจึงแฝงไปด้วยความละเมียดละไมทุกขั้นตอนจริงๆ
เครื่องหนัง งานคราฟต์ระดับไฮเอนด์
สำหรับสายแฟชั่นเป็นอันรู้ดีกว่าประเทศอิตาลีเป็นต้นกำเนิดแบรนด์แฟชั่นระดับไฮเอนด์จำนวนมาก โดยเฉพาะสายเครื่องหนังอย่างกระเป๋าถือ กระเป๋าเงิน รองเท้า หรือแจ็คเก็ตที่ใช้มือสองข้างก็ยังนับชื่อแบรนด์ไม่หมด
ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังของอิตาลีขึ้นชื่อมีคุณภาพสูงและแพง (มาก!) ซึ่งต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงศตวรรษ 1900-1940 ที่เหล่าราชวงศ์และชนชั้นสูงในสมัยนั้นเริ่มนิยมหีบเดินทางและกระเป๋าถือที่สร้างมาจากหนังสัตว์ ทำให้กลุ่มช่างฝีมือเริ่มเติบโต และขยายฐานผลิตอย่างรวดเร็ว มีการบุกเบิกทักษะการเย็บรองเท้า ผสมผสานความรู้จากการเย็บอานม้า การปัก และการทอมาเพิ่มคุณภาพให้ผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะแคว้นทัสคานี (Tuscany) ที่มีองค์ความรู้เรื่องการฟอกหนังสัตว์มานานหลายพันปี เทคนิคเหล่านี้ยังคงสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ทัสคานีกลายเป็นแหล่งทำเครื่องหนังที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง
ยางรถยนต์ จากสนามแข่ง F1 สู่ทุกการเดินทางของคุณ
ใครที่ดูบอลกัลโช่ เซเรีย อา และเป็นแฟนคลับสโมสรอินเตอร์มิลาน คงคุ้นๆ กับแบรนด์ยางรถยนต์ Pirelli ที่อยู่บนอกนักเตะมานาน ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวกันที่ได้รับเลือกสำหรับการแข่งรถสูตรหนึ่ง Formula One แต่เพียงผู้เดียว
Pirelli เป็นแบรนด์ยางรถยนต์ที่มีอายุมากว่า 146 ปี ก่อตั้งครั้งแรกปี 1872 ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี มีชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศของดอกยางและความใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยดีไซน์ที่สร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันให้เข้ากับการใช้งานในแต่ละภูมิประเทศ และเหมาะสมกับรถยนต์ในแต่ละแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Porsche, Audi, Mini, Volvo, BMW ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจาก Passion และรากเหง้าความละเมียดละไมของชาวอิตาลีที่ส่งต่อมาถึงพนักงานรุ่นปัจจุบัน
นี่ยังไม่นับการทำงานของทีมวิจัยและทดสอบกว่า 1,800 คน ใน 11 ประเทศ ที่ร่วมกันพัฒนาสูตรส่วนผสมนาโนเทคโนโลยีทั้งในแลปและสนามแข่ง คัดสรรยางดิบคุณภาพสูงสุดและได้รับเลือกให้เป็นยางติดรถ(OEM)ให้กับแบรนด์รถยนต์ชั้นนำ ด้วยคุณสมบัติของยางที่เกาะถนนดีเยี่ยมและคงสมรรถนะสูงสุดตลอดอายุการใช้งาน
ผลิตภัณฑ์ของ Pirelli จึงตอบสนองการใช้งานอย่างดีเยี่ยม ควบคุมง่ายและแม่นยำ จนเป็นยางระดับตำนานที่ใครหลายคนเลือกใช้
เห็นมั้ยละ ว่าชาวอิตาลีมีสารพัดงานคราฟต์ที่แฝงตัวอยู่รอบๆ ตัวมากมาย สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีถึงความพิถิพิถันที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งรายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้ได้ฝังอยู่ในดีเอ็นเอแบรนด์จากแดนมักกะโรนี และสร้างคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่ใครหลายคนมั่นใจ เช่นเดียวกับ Pirelli แบรนด์ยางรถยนต์สัญชาติอิตาลี ประวัติศาสตร์คุณภาพที่อยู่คู่ท้องถนนมานานกว่า 146 ปี
ใครที่อยากสัมผัสความคราฟต์เนียนๆ เน้นๆ แบบนี้ ลองเข้าไปชมกันได้ที่ B-Quik ทุกสาขาและร้านยางชั้นนำทั่วประเทศหรือ www.facebook.com/pirelli.th แล้วมาเปลี่ยนยางธรรมดา เป็นยางคุณภาพสูงกัน
อ้างอิงข้อมูลจาก