คนไม่รู้อะไรเลย คือคนฉลาด
อาจฟังดูแปลก แต่นั่นเป็นมุมมองของโสกราตีส นักปราชญ์กรีกโบราณที่มองว่า คนที่รู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไรคือคนฉลาด แต่คนที่ทำตัวเป็นผู้รู้ตลอดเวลานั้น คือคนที่ไม่ฉลาดเท่าไหร่เลย เพราะการเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณ “ไม่รู้” เปรียบเสมือนแก้วที่ยังไม่เต็มที่พร้อมรับน้ำใหม่ๆ อยู่เสมอ ฉะนั้นแล้วถ้าอยากฉลาด ง่ายๆ แค่ยอมปล่อยวาง ละทิ้งความรู้เดิมๆ และเปิดรับการเรียนรู้ความรู้ใหม่ๆ ผ่านกระบวนการ Learn, Unlearn และ Relearn ซึ่งจะทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นผลลัพธ์การเรียนรู้แบบใหม่ ที่จะทำให้คุณสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
Learn – อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีบนโลกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ธุรกิจจึงเกิดกระแส Disruption หรือการลบล้างการดำเนินการธุรกิจแบบเดิมอยู่ตลอดเวลา สิ่งนี้ทำให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนไปอย่างมาก รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจและการทำงานเช่นกัน หากยังยึดถือความรู้ในอดีตก็อาจเกิดความล้าสมัย ไม่นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ต้องการอีกต่อไป
ปัจจุบันเราจึงไม่สามารถทำธุรกิจตามตำราเดิมๆ อีกแล้ว สิ่งเดียวที่จะทำให้เราอยู่รอดในสนามรบได้ก็คือ “Learn” หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เหมือนดั่งสิ่งที่ อัลวิน ทอฟฟ์เลอร์ นักเขียนชื่อดังชาวอเมริกา กล่าวไว้ว่า “คนที่ไม่รู้หนังสือในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้หมายถึงผู้ที่ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ แต่จะหมายถึง ผู้ที่ไม่สามารถเรียนรู้ ละทิ้งความรู้เดิม แล้วเริ่มเรียนรู้ใหม่ต่างหาก” ฉะนั้นแล้วเราจึงต้อง “ลืมของเก่า” เพื่อ “เรียนรู้ของใหม่” กันบ้าง
Unlearn – ลืม… ความรู้เดิมไปก่อน ได้ไหม ลืมไปก่อน
“Stay Hungry, Stay Foolish” หรือแปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า “จงกระหายและทำตัวให้โง่ตลอดเวลา” เป็นวลีคลาสสิกของ สตีฟ จ็อบส์ ที่กล่าวถึงการเรียนรู้ได้ที่ดีสุด เพราะใจความสำคัญมิใช่ให้ทำตัวโง่ แต่คือการกระตุ้นให้เราหิวกระหายการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลานั่นเอง
เทคนิคง่ายๆ ก็คือ “Unlearn” หรือการไม่ยึดติด ลดอีโก้ และละทิ้งสิ่งที่เคยรู้มา ไม่ได้หมายความเพียงแค่การลืมสิ่งที่เคยรู้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปฏิเสธความเชื่อของตนที่เคยยึดถือปฏิบัติมาก่อนหน้า รวมถึงเลิกยึดติดกับทฤษฎีที่ใช้กันมายาวนาน
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าเราต้องละทิ้งประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งหมด แต่หมายถึงละทิ้งกรอบความรู้เพื่อกระตุ้นให้เราหมั่นเปิดรับแนวทางที่แตกต่างออกไปในการทำสิ่งต่างๆ ต่างหาก
Relearn – อยากจะเรียนซ้ำๆ ซ้ำๆ ซ้ำๆ เหมือนเธอมั่นใจ
ไม่เพียงแค่การเรียนรู้ความรู้ใหม่ และการลดอีโก้เพื่อเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง เคล็ดลับสุดท้ายคือการเรียนรู้ความเดิมซ้ำๆ นั่นแหละ หรือที่เรียกว่า “Relearn”
Relearn คือ การเรียนรู้สิ่งที่เราเคยรู้อยู่แล้วด้วยมุมมองใหม่ และตระหนักถึงคุณค่าความรู้ที่เราได้รับมา เท่ากับว่าคนเราสามารถเรียนรู้เดิมๆ ในแง่มุมใหม่ได้เสมอ เช่น การอ่านหนังสือเล่มเดิมซ้ำๆ เราอาจจะได้รายละเอียด หรือมุมมองใหม่ที่เรามองข้ามในการอ่านครั้งแรก
ฉะนั้นแล้วการเรียนรู้ซ้ำจึงช่วยค้นหาแนวทางใหม่ของแนวคิดนั้นๆ เพื่อนำมาพัฒนาทักษะของเราให้ดียิ่งขึ้นต่อไป อย่างไรก็ดี หากความรู้เปรียบเสมือนน้ำในแก้ว การที่เราจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้นั้น เราต้องคว่ำแก้วน้ำเพื่อให้เรารู้สึกหิวกระหายและพร้อมเติมเต็มน้ำใหม่ๆ ที่จะเข้ามา เพราะหากเราไม่คว่ำแก้วของเรา แน่นอนว่าเราก็คงไม่อยากเรียนรู้อะไรเลย เหมือนดั่งสิ่งที่นักปราชญ์ชาวจีน เช่าจื้อ ได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าอยากได้ความรู้ ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่เพิ่มเข้าไปทุกวัน แต่หากอยากได้ปัญญา ต้องทิ้งบางอย่างออกไปในแต่ละวัน”
SEAC ร่วมสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ “Lifelong Learning Ecosystem”
เมื่อไหร่ที่คุณคิดว่าตัวเองเจ๋งที่สุดแล้ว เมื่อนั้นคุณจะหยุดเรียนรู้
SEAC (South East Asia Center) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียนจึงต้องการให้คนเข้าใจเรื่องการเรียนรู้ที่แท้จริง ผ่าน Learn, Unlearn และ Relearn ซึ่งเป็นหัวใจที่ SEAC ให้ความสำคัญ โดยเคล็ดลับของการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือความเต็มใจและยินดีที่จะยอมละทิ้งสิ่งที่เคยเรียนรู้มา แล้วลองค้นหาวิธีการใหม่ๆ มาทดแทน แม้ว่าวิธีการนั้นๆ จะเคยนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีก็ตาม
เราจึงพยายามผลักดันให้ทุกคนที่อยู่ในยุค Disruption เข้าใจ เพื่อนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตและการทำงานของตนเอง ภายใต้แนวคิดสังคมแห่งการเรียนรู้ในทุกช่วงอายุ “Lifelong Learning Ecosystem” ที่มองว่าทุกคนมีศักยภาพในการพัฒนาชีวิต เราจึงสามารถเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้ตลอดเวลานั่นเอง
ลืมความรู้เก่า และมาเปิดโลกกว้างแห่งการเรียนรู้ใหม่ได้ที่ SEAC